กระแสข่าวการแบนแอปพลิเคชั่นดังอย่าง Tiktok กำลังเป็นประเด็น Talk of the Town ในหลายๆประเทศ หลังมีกระแสข่าวออกมาถึงประเด็นข้อมูลความเป็นส่วนตัวรั่วไหลและเป็นภัยความมั่นคงของประเทศ และเรื่องของการปล่อยให้มีคลิปที่ผิดศีลธรรมของหลุดรอดเผยแพร่ในบนแอปพลิเคชั่น ซึ่งในประเด็นของการแบนนั้น เริ่มส่งผลในด้านรูปธรรมหลายๆประเทศแล้ว กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต ขอชวนทุกท่านมาติดตามเรื่องราวนี้ไปพร้อมๆกันค่ะ
กลายเป็นข่าวขึ้นมาอีกรอบ หลังหนึ่งในคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (FCC) ในสหรัฐ เดินหน้ากดดันแพลตฟอร์มยักษ์อย่าง Apple และ Google ให้ร่วมวงแบน Tiktok ชี้เป็นภัยความมั่นคง และมีการพัฒนาแอป ไม่เป็นไปตามนโยบายของบริษัท โดยมีการเปรียบเทียบ Tiktok เป็นเหมือน “หมาป่าที่หุ้มหนังแกะ” ที่ภายนอกอาจดูไม่มีพิษภัย แต่ข้างในอาจแฝงไปด้วยความร้ายกาจนั่นเอง
และอีกหนึ่งกระแสข่าวที่ส่งผลลบกับทาง Tiktok คือ กรณีที่สำนักข่าว BuzzFeed News ได้เผยคลิปเสียงสนทนาจากพนักงานของ ByteDance บริษัทแม่ของแอปฯ TikTok ในประเทศจีน เผยว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ได้ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือยินยอมจากผู้ใช้งาน เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ เพราะผู้ใช้งานอาจถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในเชิงลบ จึงเป็นเหตุให้มีการเรียกร้อง และกดดันให้ลบแอปฯ ออกจากระบบอยู่บ่อยครั้ง
ปัจจุบันมีอย่างน้อย 27 รัฐในสหรัฐอเมริกาที่ได้ผ่านกฎหมายแบน TikTok แล้ว อีกทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลยังได้ร่วมกันเสนอ พรบ. แบน TikTok ออกจากแผ่นดินอเมริกา โดยคณะกรรมาธิการสภาการต่างประเทศ
นอกเหนือจากสหรัฐฯแล้ว ยังมีอีกหลายๆประเทศที่มีกระแสข่าวการแบนแอปฯ Tiktok โดยเริ่มจากการถอนการติดตั้งแอปฯในหน่วยงานที่สำคัญของรัฐบาล เนื่องจากมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยด้านข้อมูล เช่น
- จากความตึงเครียดระหว่างอินเดียและจีนที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดการปะทะกันที่ชายแดนอินเดีย-จีนตรงบริเวณหิมาลายา ส่งผลให้ทหารอินเดียกว่า 20 คนนั้นเสียชีวิต ทำให้รัฐบาลอินเดียสั่งแบนแอปพลิเคชันจีนกว่า 59 แอปฯ โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันเหล่านี้นั้นแอบเอาข้อมูลผู้ใช้งานไปให้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่นอกอินเดีย
- นิวซีแลนด์กลายเป็นประเทศล่าสุดที่มีการสั่งแบนแอปฯ TikTok จากอุปกรณ์ที่สามารถเข้าถึงเครือข่ายข้อมูลของรัฐสภาได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ เนื่องจากมีความกังวลต่อความมั่นคงปลอดภัยทางโลกไซเบอร์
- ออสเตรเลีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ออกมาขู่ฟอดๆว่าจะมีการแบน Tiktok โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคง ความปลอดภัยและการสงสัยว่าจะมีการล้วงข้อมูลผู้ใช้งานซึ่งเป็นพลเมืองของออสเตรเลียไปให้กับรัฐบาลจีนเช่นเดียวกับทางสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ยังมีอีกหลายประเทศที่เริ่มมีการแบนแอปฯ Tiktok โดยให้เหตุผลเรื่องกลัวข้อมูลรั่วไหลและมีการเผยแพร่คลิปที่ผิดศีลธรรม
ทางด้าน TikTok เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุดออกมาอัปเดตว่าระบบ Cloud Infrastructure ที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ทั้งหมดอยู่ในประเทศจีน จะเปลี่ยนไปใช้บริการของบริษัทที่อยู่ในสหรัฐแทน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะ ส่วนทาง Apple และ Google ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดวาจะมีประเทศไหนต่อจากนี้ ออกมาตรการแบน Tiktok เพิ่มเติมอีกหรือไม่
