แพทย์จุฬาฯ วิเคราะห์สถานการณ์โควิด-19 ปัจจุบัน ไม่ใช่ไวรัสตัวเดิม อาการออกมาในลักษณะเฉียบพลัน มีไข้ หนาวยะเยือก มือเท้าเย็น ความดันตกโดยที่ไม่มีน้ำมูก
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อัปเดตข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ระบุว่า สถานการณ์โควิด-19 เป็นไวรัสไม่ธรรมดาแล้ว การที่มีการติดหนาแน่นใหม่ แสดงว่าไวรัสไม่ใช่ตัวเดิมที่เคยมีในปีนี้ โอไมครอน 1/2 และแม้แต่ 4/5 แต่เป็นสายย่อยใหม่ และมาเป็นกลุ่ม ไม่ใช่มาทีละตัว
ลักษณะอาการไม่ใช่มีแต่ไข้น้ำมูกเจ็บคอไอ แต่ออกมาในลักษณะเฉียบพลัน มีไข้ หนาวยะเยือก มือเท้าเย็น ความดันตกโดยที่ไม่มีน้ำมูก หรือมีแต่เจ็บคอเล็กน้อยเท่านั้นเองได้ หรือออกมาในรูปของอาการซึมทางระบบสมอง หรือระบบหัวใจเอทีเคขึ้นช้าได้หรือขึ้นขีดจางๆ โดยอาการเริ่มไปก่อนแล้วเป็นวัน
ลักษณะสายย่อยใหม่นี้ในสหรัฐฯ ประกาศเตือนแอนติบอดีที่ใช้ในการรักษาจะใช้ไม่ได้ รวมทั้งแอนติบอดีที่ออกฤทธิ์ยาว evusheld รวมทั้งแนวโน้มที่จะดื้อกับยาต้านไวรัสเช่น โมลนูพิราเวียร์
วัคซีนที่ใช้ไม่ว่าจะเป็นสามเข็มหรือกระตุ้นเข็มที่สี่ ถึงแม้ว่าจะมีประสิทธิภาพแต่จะถูกจำกัดลงมากและระยะเวลาที่คุ้มครองจะสั้นลง ทั้งนี้รวมถึงวัคซีนใหม่ที่มีโอไมครอน 4/5 รวมอยู่ด้วยและใช้ในสหรัฐแล้ว
ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องงดกิจกรรม กิจการ จนไปถึงล็อคดาวน์แบบในช่วงปี 2020 แต่ต้องอยู่กับโควิดให้ได้ และปรับตัวตามสถานการณ์ ในที่ค่อนข้างหนาแน่น ต้องป้องกันตัว ควบคุมโรคประจำตัวให้หมดจด อาหารเข้าใกล้มังสวิรัติ งดเนื้อสัตว์ แต่กินปลาแทน และลดแป้ง เดิน 10,000 ก้าว ตากแดดเช้า สาย กลางวัน บ่าย เย็น ได้หมด มีประโยชน์กว่าวิตามินดีแน่นอน ยิ่งผอม กินแป้งน้อย กินผักผลไม้ที่ไม่มีสารเคมี ตายน้อยลงทั้งจากโควิดและโรคอื่นๆ
