นักจิตวิทยาแนะวิธีล้างพิษออกจากใจแบบหมดจดก่อนเข้านอน

0
698
kinyupen

กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตเชื่อว่า ในทุก ๆ วันที่เราต้องสู้ชีวิต แล้วมักจะโดนชีวิตสู้กลับโดนต้องพาเราไปพบกับความ Toxic ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Toxic Parent, Toxic People หรือ Toxic Situation ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เราต้องล้างพิษออกจากใจก่อนจะนอน เพราะไม่เช่นนั้นเราจะเกิดอาการตาค้าง ประสาทแข็ง เพราะเครียด กังวล และกระทบกระเทือนจิตใจจากเหล่า Toxic ที่พบเจอระหว่างวัน ทั้งพ่อ แม่ที่ประสงค์ดีกับเรา แต่ก็ปฏิบัติตัวร้าย ๆ ต่อเราจังเลย ทั้งเพื่อนร่วมงานที่อยู่กันแบบกาสะลอง ซ้องปีบ หรืออยู่แบบเลือดข้นคนจาง ทั้งลูกค้าที่เป็นพระเจ้าอยู่เหนือเราตลอดเวลาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งสถานการณ์น้ำท่วม ฝนตก รถติด รถไฟฟ้าเสีย รถเมล์ขาดระยะ ก็ล้วนทำร้ายสุขภาพจิตของเรา และทดสอบความอดทนของจิตใจเราเหลือเกิน หากเราไม่ล้างพิษออกจากใจ แล้วปล่อยให้สารพิษตกค้าง มันก็จะยิ่งกัดกร่อนใจเราจนเกิดเป็นปัญหาสุขภาพจิต ที่จะทำให้เราเจ็บป่วยทางจิตในที่สุดได้ค่ะ ด้วยความห่วงใย จึงขอแนะนำ 7 วิธีชำระล้างพิษออกจากใจแบบหมดจดก่อนเข้านอน ตามที่นักจิตวิทยาแนะนำ เพื่อสุขภาพจิตที่สดใสแข็งแรงของทุกท่านค่ะ

1. ระบายทุกอย่างออกมาเป็นตัวหนังสือ หรือเสียง

เมื่อเรามีทุกอย่างอยู่ในใจจนแน่นอก เราก็ต้องยกออกโดยการระบายออกมา ทั้งการเขียนระบายความในใจออกมาเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงความสวยงามของลายมือ หรือความไพเราะของคำที่ใช้ หรือถ้าหากไม่ถนัดเขียน ก็สามารถอัดเสียงพูดของตัวเองใส่โทรศัพท์แทนได้ หรือถ้าไม่ถนัดพูด ไม่ถนัดเขียน ใช้การระบายสี ถมสีตามอารมณ์ก็ช่วยระบายความทุกข์ในใจได้เช่นกันค่ะ การระบายความในใจด้วยวิธีที่แนะนำข้างต้นนอกจากจะช่วยล้างพิษออกจากใจได้แล้ว เมื่อจิตใจเราเข้าสู่โหมดปกติ เราสามารถกลับมาอ่าน มาฟัง มาดูสิ่งเราระบายและทบทวนตัวเองได้อีกด้วยละค่ะ

2. หาคนที่เป็น Safe Zone รับฟังความในใจ

วิธีการล้างพิษออกจากใจที่นักจิตวิทยาแนะนำอีกวิธี ก็คือ การหาคนที่ไว้ใจได้แล้วเล่าทุกอย่างที่เราไม่สบายใจให้เขาฟัง เชื่อไหมคะ ถึงแม้ว่าคน ๆ นั้นจะไม่ได้ไปจัดการ Toxic ให้หายไปได้ แต่เพียงแค่รับฟังเรา เราก็สบายใจขึ้นมากแบบทันตาเลยค่ะ เพราะฉะนั้น หากคุณเป็นผู้ถูกเลือกให้เป็น Safe Zone ของใคร ขอให้รับฟังเรื่องราวของเขาอย่างตั้งใจ แบบไม่ตัดสิน ไม่พูดแทรก และไม่บอกต่อ เพียงเท่านี้เราก็สามารถช่วยรักษาเยียวยาจิตใจของคนที่ไว้ใจเราได้แล้วค่ะ  

3. มองโลกตามความเป็นจริง

ถึงแม้ว่าเหล่า Toxic จะมีหลายประเภท มีหลายรูปแบบ แต่ที่เหมือนกันก็คือ “ทำให้เรารู้สึกแย่” เช่น คำพูดของคนบางคนที่ช่างเหน็บ ช่างแซะ หรือคำพูดของคนใกล้ตัวที่ไม่รุนแรง แต่กดดันและทำร้ายจิตใจ หรือความโหดร้ายของสถานการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมันแย่ และเมื่อเราเจอสิ่งเหล่านี้ทุกวัน ๆ เราก็จะลามมารู้สึกแย่กับตัวเอง เกิดความคิดทางลบ เกิดความรู้สึกเหนื่อยล้า เป็นท้อกับการใช้ชีวิต ขอให้คุณลองกลับมามองโลกตามความเป็นจริงก่อนนะคะ ว่าเราเป็นอย่างที่คนอื่นพูดหรือไม่ ขอให้วิเคราะห์ชีวิตเราก่อนว่า ที่เราว่ามันแย่ มันแย่จากตรงไหน หากมันเกิดจากเรา ก็มีวิธีปรับปรุงตัวมากมายที่เราทำได้ ถ้ามันแย่ที่คนอื่น ที่สถานการณ์ ก็อย่านำมาเป็นปัญหาของเราทั้งหมดเลยค่ะ เพราะเราเปลี่ยนตัวเองได้ แต่เปลี่ยนทั้งโลกลำบาก 

4. หลับตา ฟังเพลงบรรเลง แล้วปล่อยให้ใจล่องลอยไป

หากในแต่ละวันเราต้องใช้ชีวิตเหมือนกับต้นไม้ที่กำลังต้านทานแรงลมจนหมดเรี่ยวหมดแรง แต่ก็ปวดใจเกินกว่าจะข่มตาหลับได้ ลองเปิดเพลงบรรเลงเบา ๆ เปิดไฟในห้องแบบสลัว ๆ แล้วปิดตาปล่อยใจไปกับเสียงที่ผ่อนคลาย ถึงแม้ว่าเราจะโกรธ จะเครียด จะเหงา จะเศร้า เราจะสงบลง และกลับมาอยู่กับตัวเอง กลับมาอยู่กับปัจจุบัน การฟังเพลงบรรเลงนั้นนอกจากจะช่วยให้คลื่นสมองสงบแล้ว ยังช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย ลดความคิดฟุ้งซ่านลงได้ด้วยละค่ะ ทำให้เราหลับได้ดีขึ้นแม้ในวันที่โหดร้ายกับใจเราก็ตาม

5. อาหารอร่อยเยียวยาเราได้เสมอ

ในข้อนี้ถึงแม้ไม่มีผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยามายืนยัน แต่จากประสบการณ์ของพวกเราก็สามารถยืนยันได้ค่ะว่าไม่ว่าเราจะถูกทำร้ายจิตใจมาจากไหน อาหารอร่อยจะช่วยปลอบประโลมจิตใจของเราให้ผ่อนคลาย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรเวลาที่เราเครียด หรือเศร้า เรามักอยากทานของหวาน ๆ มัน ๆ พวกช็อกโกแลต ไอศกรีม หมูกระทะ และอื่น ๆ อีกมากมาย ถึงแม้อาหารที่ว่ามาจะไม่เป็นมิตรกับสุขภาพกาย แต่ดีต่อใจ ช่วยให้เราลืมเรื่องเลวร้ายไปได้ชั่วขณะเลยค่ะ 

6. ถ้าหัวร้อนมาก ๆ การปล่อยพลังกับกีฬาช่วยได้

เคยไหมคะที่โกรธใครมาก ๆ แล้วอยากไปชวนมาบวก ที่ไม่ได้มีความหมายไปในเชิงคิดบวกสักเท่าไร แต่ถ้าเราปล่อยให้ความโกรธครอบงำแล้วเผลอทำร้ายร่างกาย หรือทำร้ายจิตใจ หรือทำลายข้าวของไป กระแสจะตีกลับเรียกทัวร์มาลงที่เราแทนแน่นอนค่ะ เพราะฉะนั้นขอแนะนำให้ปล่อยพลังทางลบไปกับกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะ ๆ เช่น ชกกระสอบทราย เกมตีตุ่น โยนบาส เตะฟุตบอล ขว้างจาน ทุ่มน้ำหนัก ซึ่งขอบอกเลยค่ะว่าได้ระบายความโกรธ ความร้อนในใจออกไปได้มากทีเดียว และเมื่อสมองปลอดโปร่ง จิตใจโล่งสบายแล้ว เราก็นำความแค้นมาเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นแทน เช่น พัฒนาตัวเองโดยการไปเรียน ไปเข้าคอร์ส หรือไปคิดงานใหม่ที่เจ๋งกว่าเดิมไปเลย ให้รู้กันไปเลยว่าเราทำได้

7. ตัดสิ่งกระตุ้นก่อนเข้านอน

และวิธีการล้างพิษออกจากใจวิธีสุดท้ายที่นำมาฝากกันในบทความนี้ ก็คือ การตัดสิ่งที่ทำให้เราเกิดความเครียด ความเศร้า ความรู้สึกทางลบก่อนเข้านอน โดย 1 ชั่วโมงก่อนนอนให้ปิดโทรศัพท์ ปิดทีวี ปิดการรับสารทุกอย่าง แล้วเปลี่ยนมาใช้วิธีที่ 4 คือ เปิดเพลงบรรเลงผ่อนคลายเบา ๆ เปิดไฟสลัว ๆ แล้วนอนหลับตาปล่อยใจลอยไป ไม่นานเราจะเคลิ้มหลับ และได้พักผ่อนสมอง ร่างกาย และจิตใจให้พร้อมสู้กับวันใหม่ค่ะ

ขอบคุณเนื้อหาจาก : https://www.istrong.co/

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here