หากคุณเองเป็นคนหนึ่งที่เวลาเก็บบ้านทีไรก็รู้สึกเสียดายข้าวของไปหมด อันนี้ก็ไม่น่าทิ้ง อันนั้นก็น่าเก็บไว้ เผื่อวันใดวันหนึ่งอาจได้ใช้งาน จนกลายเป็นที่สะสมของเก่าเต็มบ้าน วันนี้กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตขอนำผู้อ่านทุกท่านมาสังเกตอาการเหล่านี้ไปพร้อมกัน ไม่แน่นะคุณกำลังอาจเข้าข่าย Hoarding Disorder อยู่ก็เป็นได้
Hoarding Disorder หรือโรคชอบสะสมสิ่งของ เป็นอาการทางจิตอย่างหนึ่ง ถือเป็นโรคทางจิตเวชชนิดใหม่ที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในเกณฑ์วินิจฉัยโรคทางจิตเวช (DSM 5) เมื่อปี พ.ศ. 2556 นี้เองค่ะ
จากการศึกษาพบว่ามีประมาณ 2-5% ของประชากรที่เป็นโรคนี้โดยทางการแพทย์อธิบายไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ป่วยมักชอบเก็บสะสมสิ่งของเอาไว้ โดยมีความผิดปกติของสภาวะทางจิตใจ โดยรู้สึกอยากเก็บสิ่งของทุกอย่างเอาไว้ จนกระทบการใช้ชีวิตประจำวันและบางครั้งก็อาจเกิดอุบัติเหตุจากสิ่งของเหล่านั้นได้
โดยอาการเหล่านี้อาจก่อตัวสะสมมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น และมีความชัดเจนขึ้นเมื่อช่วงอายุผ่านไปเข้าสู่วัยกลางคน ในบางคนอาจเห็นความชัดเจนของโรคนี้ได้ในช่วงที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ซึ่งผลข้างเคียงของ Hoarding Disorder ก็อาจนำไปสู่โรคทางจิตเวชอื่นๆ ที่รุนแรงตามมาได้ด้วยเช่นกัน เช่น โรคซึมเศร้า โรคย้ำคิดย้ำทำ โรควิตกกังวล หรือโรคกลัวการเข้าสังคม เป็นต้น
หากคุณพบสัญญาณเตือนเหล่านี้ ไม่แน่คุณอาจจะมีภาวะ “โรคสะสมสิ่งของ” อยู่ก็ได้นะ
1.ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคุ้มค่ากว่ากัน ระหว่างขยะกับสิ่งของที่ควรเก็บไว้
2.เก็บจัดสิ่งของไม่เป็นที่ เป็นทาง ทำให้ค้นหาสิ่งของเหล่านั้นเวลาใช้งานได้ยากขึ้น
3.เก็บของชิ้นนั้นไว้ แม้ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว แต่ยังคิดว่า วันใด วันหนึ่งในอนาคตอาจได้นำกลับมาใช้งานอีก
4. มีความกังวลใจทุกครั้งในการทิ้งสิ่งของที่ไม่จำเป็นและไม่เป็นประโยชน์แล้ว
5.รู้สึกแปลกแยกเวลาเข้าสังคม ไม่ชอบให้ใครมาตัดสินใจแทนเวลาต้องเก็บหรือทิ้งสิ่งของใดๆ
อย่างไรก็ตาม หากเราเองพบสัญญาณผิดปกติบางอย่างจากข้อมูลเหล่านี้ ในเบื้องต้น เราสามารถขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้ หรือหากเรามีบุคคลใกล้ตัวที่มีภาวะของโรคชอบสะสมสิ่งของก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา โดยอาการจะดีขึ้นได้ด้วยการบำบัดพฤติกรรมและความคิดต่อไปค่ะ
