อาการปวดไมเกรนคงเป็นอีกหนึ่งโรคที่มักพบบ่อยในวัยทำงาน โดยการปวดหัวไมเกรนเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย แต่ปัจจัยที่น้อยคนจะนึกถึง…แต่กลับสร้างความทรมานให้กับผู้ป่วยไมเกรนได้ไม่แพ้กันนั้นก็คือ ‘อาหาร’ วันนี้กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจะพาคุณมารู้วิธีเลือกทานอาหารอย่างไรให้ห่างไกลจากโรคไมเกรน
รวม 7 อาหารที่มีส่วนกระตุ้นไมเกรนกำเริบ
1. ช็อกโกแลต หมายถึงช็อกโกแลตหวานๆ เพราะในขนมประเภทช็อกโกแลตมีส่วนผสมทั้งนม เนย น้ำตาล จึงมีส่วนกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรน กลับกันดาร์กช็อกโกแลตขมๆ ดันแก้ไมเกรนซะงั้น ด้วยแร่ธาตุแมกนีเซียมซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยลดความเครียด แถมยังช่วยเพิ่มความผ่อนคลายให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี
แต่เพื่อป้องกันและลดอาการปวด…ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงช็อกโกแลตไปก่อนจะดีกว่า
2. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาการปวดหัวไมเกรนสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อคุณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยสาเหตุเกิดจากสารไทรามีนที่เข้าไปลดระดับสารเซโรโทนินในสมอง ทำให้รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง ยิ่งโดยเฉพาะ “ไวน์แดง” ที่มีส่วนประกอบของสารไทรามีนและฮีสตามีนที่มีผลทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ หากดื่มในปริมาณมากจะทำให้คุณมีอาการปวดหัวหรือแฮงค์หนักกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วไป
3. กล้วยและผลไม้ตระกูลซีตรัส ขณะคุณอาจคิดว่าการกินกล้วยแก้หิวระหว่างวันอาจจะดีต่อสุขภาพ แต่รู้หรือไม่ว่าในกล้วยมีส่วนประกอบของสารไทรามีนและฮีสตามีน ซึ่งสารเหล่านี้มีผลทำให้เกิดอาการปวดไมเกรน รวมไปถึงผลไม้ตระกูลซีตรัส อย่าง ส้ม มะนาว ก็ทำให้เกิดอาการปวดหัวรุนแรงได้เช่นเดียวกัน
4. เนยแข็งหรือชีส เลี่ยงไม่ได้ว่าของอร่อยนั้นจะไม่มีของจำพวกเนย หรือชีส แต่รู้หรือไม่ของอร่อยเหล่านี้กลับก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะระดับรุนแรงได้ ด้วยสารไทรามีนที่เป็นส่วนประกอบของเนยแข็งและชีส ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยที่มีความไวต่อสารนี้เกิดอาการปวดไมเกรนได้ง่าย
5. ชา กาแฟ คุณเคยได้ยินมาบ้างใช่ไหมว่าบางคนดื่มชากาแฟแล้วมีอาการปวดหัว ซึ่งเป็นเพราะคาเฟอีนที่อยู่ในชากาแฟจะส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่นเดียวกับผู้ป่วยที่มีอาการปวดไมเกรนและไวต่อสารนี้ หากดื่มจะส่งผลทำให้อาการปวดหัวกำเริบ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของคาเฟอีน
6. ขนมปัง หรือ พิซซ่า อาหารประเภทขนมปังหรือผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปโดยมี “ยีสต์” เป็นส่วนประกอบ คือตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการปวดไมเกรน “ขนมปัง” รวมไปถึง “พิซซ่า” ที่มีทั้งส่วนผสมของทั้งยีสต์และสารไทรามีนจากชีส ซึ่งจะส่งผลโดยตรงทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน ถึงขนาดที่แพทย์ให้เป็นอาหารที่ผู้ป่วยไมเกรน…ต้องลบออกจากลิสต์จานโปรดเลยทีเดียว
7. เนื้อสัตว์แปรรูป ใครชอบกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์แปรรูป อย่าง เบคอน ไส้กรอก หรือเนื้อสัตว์รมควัน คุณอาจไม่เคยรู้เลยว่าอาหารพวกนี้นั้นมีส่วนผสมของสารกันบูด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารไนเตรต ที่มีผลกระตุ้นทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ และหากผู้ป่วยมีความไวต่อสารนี้…อาการก็อาจเกิดอาการขึ้นได้ในทันที
ป้องกันไม่ให้เป็นไมเกรนอย่างยั่งยืน
วิธีที่ดีที่สุดในการลดอาการปวดหัวไมเกรน คือ “ป้องกัน” ไม่ให้เกิดอาการ ดังนั้น นอกจากการลดไมเกรนด้วยวิธีการเลือกรับประทานแล้ว การหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอื่นๆก็นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง, พยายามพักผ่อนในที่เงียบและมืด พร้อมกับนวดบรรเทาเมื่อมีอาการปวด, ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหมั่นสังเกตปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ เมื่อเกิดอาการปวดหัวไมเกรน