แอลพีจี ขยับอีก 15 บาท เป็น 378 บาท/ถัง ดีเดย์ 1 ก.ค. นี้ รัฐยังอุ้มกลุ่มเปราะบางต่ออีก 3 เดือน ด้าน ปตท. เคาะอุ้มราคา NGV-LPG
วันที่ 30 มิถุนายน 2565 รายงานข่าวแจ้งว่าพรุ่งนี้ (1 ก.ค. 2565) ราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ปรับราคาขึ้นอีกกิโลกรัม (ก.ก.) ละ 1 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มขนาดถัง 15 ก.ก. จะปรับขึ้นอีก 15 บาท อยู่ที่ 378 บาท/ถัง 15 ก.ก. จากปัจจุบันอยู่ที่ 363 บาท/ถัง 15 ก.ก. ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เป็นประธาน
โดยรัฐยังช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 100 บาท/คน/ 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย. 2565
ส่วนราคาน้ำมันดีเซลในประเทศยังคงตรึงที่ 34.94 บาท/ลิตร ไม่ให้เกินเพดาน 35 บาท/ลิตร ตามที่ครม.กำหนด
ขณะที่ ปตท.ได้ขยายระยะเวลาการช่วยเหลือส่วนลดแก่ผู้ใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่เป็นร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 100 บาท/คน/เดือน ออกไปอีก 3 เดือน จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2565 จากที่หมดอายุในเดือน มิ.ย. 2565
นอกจากนี้ ปตท.ขยายระยะเวลาตรึงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ที่ 15.59 บาท/ก.ก. และขยายระยะเวลาตรึงราคาขายปลีกเอ็นจีวี สำหรับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาท/ก.ก. ในโครงการ “เอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน” ออกไปอีก 3 เดือน จนถึงวันที่ 15 ก.ย. 2565 รวมเป็นเงินอีกกว่า 2,800 ล้านบาท
ที่ผ่านมา ปตท.ได้ช่วยเหลือค่าพลังงานแก่ประชาชน ขานรับนโยบายภาครัฐ และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนทุกภาคส่วน รวมงบประมาณที่ได้ช่วยเหลือไปแล้วกว่า 5,200 ล้านบาท เช่น ตรึงราคาขายปลีกเอ็นจีวี
สำหรับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่เอ็นจีวี ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นเงินกว่า 400 ล้านบาท การตรึงราคาขายปลีกช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้รถเอ็นจีวี ส่วนบุคคลใช้งบกว่า 3,900 ล้านบาท และการจัดหาน้ำมันดิบสำรองเพิ่มเติมเป็นเงินกว่า 550 ล้านบาท
ณ วันที่ 27 มิ.ย. 2565 กองทุนติดลบ 102,586 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 65,202 ล้านบาท เป็นบัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 37,384 ล้านบาท มีเงินฝากเป็นสภาพคล่องของกองทุน 3,310 ล้านบาท โดยขณะนี้กองทุนชดเชยราคาขายปลีกอยู่ที่ 10.77 บาท/ลิตร เพื่อตรึงราคาดีเซลไว้ที่ 34.94 บาท/ลิตร ไม่ให้เกินเพดานที่ 35 บาท/ลิตร จากราคาจริงจะอยู่ที่ประมาณ 45.71 บาท/ลิตร