โจทย์ใหม่ “ปลดล็อกกัญชา” อนาคตไทยจะเป็นอย่างไร?

0
620
kinyupen

ภายหลัง..การปลดล็อกให้ “กัญชา” ถูกกฎหมาย ในทางเศรษฐกิจแล้วนั้นจะสร้างประโยชน์ได้ในหลากหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นทั้งประชาชนธรรมดาทั่วไป รวมถึงผู้ประกอบการ ที่สามารถนำกัญชาไปต่อยอดอุตสาหกรรมได้อย่างมากมาย ส่งผลต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องในประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น

แต่ในทางตรงกันข้ามแล้วนั้นการปลอดล็อกนี้แฝงโทษและข้อกังวลหลายอย่าง ยิ่งในส่วนของ “เด็กและเยาวชน” อนาคตเรื่องกัญชากัญชงจะเป็นอย่างไร? วันนี้กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจะมาเปิดมุมมองการคาดการณ์อนาคตไทยเมื่อกัญชาถูกกฎหมาย โดยผ่านมุมมองของ “คุณอ๋อง” กูรูด้านธุรกิจกัญชา-เจ้าของธุรกิจส่งออกกัญชาที่ส่งออกมากกว่า 5 ปี

ส่อง ! อนาคตไทยเมื่อ “กัญชา” ถูกกฎหมาย

เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ คาดการณ์ว่าอีก 6 เดือน ธุรกิจกัญชาในประเทศไทยนั้นจะมีเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้กัญชาตามท้องตลาดเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน กัญชาจะล้นตลาด และราคาก็อาจจะเท่าใบกะเพรา

– เชื่อว่า ธุรกิจการผลิตกัญชาในประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 90% แต่คาดว่าส่วนใหญ่อาจจะขาดทุน…เมื่อใครก็ได้สามารถปลูกกัญชาได้ กัญชาก็เหมือนพืชทั่วไป เมื่อมีอยู่ตามท้องตลาดเยอะขึ้น คำถามแรกคือแล้วใครจะบริโภคในปริมาณที่สูงขนาดนั้น เนื่องจากการบริโภคกัญชานั้นค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม

– เชื่อว่า สินค้าทั่วประเทศโดยเฉพาะสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์โอท็อปจะมีแต่ กัญชา ไม่สามารถใช้คำว่าแข่งขันได้ เพราะกัญชาพวกนี้จะถูกผลิตออกพร้อมกันในเวลาเดียวกันจากผู้ผลิตหลากหลายกลุ่มไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดย่อมไปจนถึงรายใหญ่

–  ในแง่มูลค่าทางเศรษฐกิจ เชื่อว่าผู้ประกอบการในประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศมากขึ้น สำหรับภายในประเทศ ในระยะสั้นคาดว่า กัญชาและกัญชงช่วยสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ หลายพันล้านบาท นอกจากประโยชน์ในการต่อยอดอุตสาหกรรมต่างๆ ยังจะช่วยลดรายจ่ายด้านยารักษาโรคบางประเภทของคนไทยในอนาคต

– อีกแง่หนึ่งถ้าหากจะผลิตสินค้าที่เป็น “Ending product” แล้วแข่งขันกับตลาดโลก เชื่อว่าประเทศไทยอาจจะไปได้รุ่ง เนื่องจากประเทศไทยของเรานั้นแรงงานในการผลิตถูก อีกทั้งใช้ต้นทุนต่ำกว่าที่อื่น

– ในด้านแพทย์แผนไทย ที่มีการใช้กัญชามาในการรักษาโรค ในการช่วยให้นอนหลับได้ดีและเจริญอาหาร คนไข้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น อีกทั้งต้นทุนในการซื้อกัญชาในทางการแพทย์จะถูกลงกว่าเดิม

สำหรับอนาคตไทยอันใกล้นี้ภายหลังการปลดล็อกกัญชา ในแง่การผลิตและส่งออกสู่ตลาดโลก ทางรัฐบาลและผู้ประกอบการต้องเน้นเรื่องมาตรฐานตลอดห่วงโซ่การผลิตเช่นการปลูก การสกัด จนถึงการนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เผื่อรักษาดุลการค้าและนอกจากนี้รัฐควรมีกฎเกณฑ์เรื่องของการควบคุม ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค ส่วนแง่ของผู้บริโภคก็จำเป็นต้องระวังและศึกษาก่อนใช้กัญชา ต้องรู้ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ทางที่ดีควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here