นอกจากไข่แพง น้ำมันแพง อะไรต่อมิอะไรแพง เงินเฟ้อพุ่งแล้ว ล่าสุดเงินบาทของเราอ่อนยวบ ใกล้หลุด 34 บาทต่อดอลลาร์แล้วนะ!!
คุณพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (25 เมษายน 2565) ที่ระดับ 33.96 บาทต่อดอลลาร์ ใกล้แตะระดับ 34 บาทต่อดอลล่าร์ เนื่องจากความกังวลแนวโน้มเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าคาด ได้กดดันให้ตลาดการเงินปิดรับความเสี่ยงและผันผวนหนัก จับตาไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่อาจส่งผลให้ตลาดค่าเงินผันผวนได้ นอกจากนี้ ตลาดจะยังคงติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยหากผลประกอบการส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด ตลาดหุ้นโดยรวมอาจเริ่มทรงตัวได้
โดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ได้แก่
ฝั่งสหรัฐฯ
ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวจนเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) จากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ตอกย้ำความจำเป็นที่เฟดจะต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อ
ฝั่งยุโรป
สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังมีแนวโน้มยืดเยื้อ หลังยังไม่มีความคืบหน้าใดเพิ่มเติมจากการเจรจาสันติภาพ ผลกระทบของสงครามที่หนุนให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสุงขึ้น จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของยูโรโซน (CPI) ในเดือนเมษายน พุ่งขึ้นสู่ระดับ 7.5% ซึ่งแนวโน้มเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงจะส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนมองว่า ธนาคากลางยุโรป (ECB) อาจสามารถทยอยขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ได้อย่างน้อย 1-2 ครั้ง เพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อ
ฝั่งเอเชีย
ไฮไลท์ของฝั่งเอเชียจะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยตลาดมองว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.10% เพื่อช่วยประคองการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ตลาดจะจับตามุมมองของ BOJ ต่อการอ่อนค่ารุนแรงของเงินเยนในช่วงที่ผ่านมา ในระยะสั้นมีโอกาสที่จะเห็นเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าทดสอบระดับ 130 เยนต่อดอลลาร์ เช่นเดียวกับฝั่งเวียดนาม ปัญหาการระบาดโอมิครอนที่คลี่คลายลงและการทยอยผ่อนคลายมาตรการ Lockdown จะช่วยให้ ยอดค้าปลีกเวียดนามในเดือนเมษายน อาจโตกว่า +10%y/y ซึ่งจะช่วยหนุนการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจเวียดนาม
ฝั่งไทย
แนวโน้มการระบาดของ COVID-19 และการเปิดประเทศยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติ โดยนักลงทุนต่างชาติอาจยังไม่รีบกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยจนกว่าจะมั่นใจแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองเงินบาทมีความเสี่ยงอ่อนค่าทะลุ “34.00” กดดันโดยการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผล ทั้งนี้ ควรติดตามทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ เพราะหากนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นและบอนด์ก็อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าต่อได้
- มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.60-34.15 บาท/ดอลลาร์
- ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.85-34.05 บาท/ดอลลาร์