ใครชอบเที่ยวญี่ปุ่น ยกมือขึ้น!!
รับรองว่า ยกกันพึ่บพั่บ
ชอบญี่ปุ่น ย่อมต้องชมชอบเหล้าบ๊วย(Umeshu) เหล้ารสนุ่ม เปรี้ยวนิดหวานหน่อย อร่อยเหาะ โดยเฉพาะสาว ๆ ยิ่งถูกใจหนัก
ยิ่งตอนนี้ญี่ปุ่นยังไปเที่ยวไม่ได้ โชคยังดีที่มีเหล้าบ๊วยวางขายให้ได้ซื้อดื่ม
อย่ากระนั้นเลย เทรนด์เริ่มมา กับปรากฏการณ์ดองเหล้าบ๊วยเองแบบภูมิปัญญายุ่นสไตล์ไทย
เป็นปรากฏการณ์ที่กำลังนิยมกันมาก หลายคนโพสต์บ๊วยสดที่มีปลูกกันเยอะทางภาคเหนือ แช่น้ำตาลกรวด เหล้าขาว บอกวิธีกันตั้งแต่ต้นจนได้เหล้าบ๊วย แสนง่าย ถูกตังค์ นิยมหนักมาถึงขั้นมีโพสต์ขายอุปกรณ์แบบครบชุด พร้อมโหลดอง ท้าทายให้นักดื่มมตอนนี้อย่างเรา ๆ อยากลองทำบ้าง
แต่ช้าก่อน!!
อย่าเพิ่งลอง ถ้ายังไม่ได้อ่านเรื่องนี้
มีคนโดนเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจับแล้วจ้า!!
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2565 แฟนเพจ Surathai ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการทำเหล้าบ๊วย โดยระบุว่า สมาชิกเพจสุราไทยท่านหนึ่ง มีความสนใจเกี่ยวกับสุรา จนเปิดร้านจำหน่ายสุรา โดยเน้นสุราจากญี่ปุ่น พวกอูเมซุ สาเก โชจู รวมทั้งสุราชุมชนที่มีเอกลักษณ์อีกจำนวนหนึ่ง เรียกว่าขายของที่มีใจรัก ไม่ได้ขายของที่ขายง่ายขายคล่อง
วันเกิดเหตุ ได้นำบ๊วยมาดองเหล้าเพื่อทดลองสูตรต่าง ๆ ที่เขาทดลองทุกปีในฤดูบ๊วย โดยใช้เหล้าแปลกๆ แพงๆ มาดอง แต่เนื่องจากประมาทเกินไป ที่มาดองอยู่ในร้าน เพราะจะได้มีลูกน้องมาช่วยทำ
ประจวบเหมาะกับเจ้าหน้าที่ปราบปรามของสรรพสามิต เข้ามาขอตรวจใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ซึ่งเหมือนเป็นงานปกติ routine แต่ว่าพอดีกำลังดองบ๊วยอยู่พอดี จึงถูกจับด้วยข้อหา “เปลี่ยนแปลงน้ำสุราเพื่อการค้า” เพราะว่าทำอยู่ในร้านขายสุรา ไม่ว่าจะขายหรือไม่ก็ตีเจตนาว่าทำเพื่อขายเอาไว้ก่อน
ข้อหานี้อยู่ในมาตรา 158 และมีโทษปรับตามมาตรา 196 ไม่เกิน 5,000 บาท
นอกจากนั้น ยังนำสุรามาเทใส่โหลดอง จึงโดนข้อหา “เปลี่ยนแปลงภาชนะบรรจุสุราเพื่อการค้า” ตามมาตรา 157 และมีโทษปรับตามมาตรา 196 ไม่เกิน 5,000 บาทเช่นกัน ก็เลยเสียค่าปรับรวม 10,000 บาท
เพจสุราไทย ระบุตอนท้ายว่า ถึงแม้จะเป็นการดองเพื่อเอาไว้ทานเอง ไม่ได้มีร้านขาย อาจจะไม่โดน 2 ข้อหานี้ เพราะไม่ได้ทำเพื่อการค้า แต่ก็ไม่รับประกันว่า จะไม่โดนข้อหา “มีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่ผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต” ที่มีค่าปรับสูงสุด 10,000 บาทเช่นเดียวกัน
ดังนั้น ถ้าไม่อยาก..จริง ๆ ขอเตือนว่า อย่าหาทำ!!