เงินเฟ้อไม่ใช่เรื่องเล่นๆ พร้อมแนะนำกองทุนเอาชนะเงินเฟ้อ

ขนม 10 บาท ตอนนี้ขึ้นราคาเป็น 12 บาท ฟังดูเล็กน้อย แค่ 2 บาทเราจ่ายไหวอยู่แล้ว แต่รู้ไหมว่าเราต้องจ่ายแพงขึ้นถึง 20% เชียวนะ ข้าวกะเพราไข่ดาว จาก 50 เป็น 70 บาท คือจ่ายแพงขึ้น 40% น้ำมัน 2 ลิตรเกือบ 100 บาท เป็นต้น

ทั้งหมดนี้คือ “ภาวะเงินเฟ้อ” ด้วยปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ทำให้ราคาสินค้าหรือบริการที่เราต้องจ่ายไม่เหมือนเดิมแล้ว

อ่าน 10 ปีที่ผ่านมา “เงินเฟ้อ” ส่งผลต่อราคาสินค้าอย่างไรบ้าง

แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตชวนคุณปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ พร้อมแนะนำกองทุนที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อ ซึ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่า 5% 

ไม่ได้มีเพียงสินค้าที่เกริ่นไปข้างต้นเท่านั้นที่ปรับราคาแพงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ ยังมีอะไรอีกเยอะแยะมากมาย เช่น ค่าโดยสาร ค่าไฟ ราคาทอง ฯลฯ ในขณะที่เงินเดือนหรือค่าจ้างขั้นต่ำไม่ได้ขยับไปไหนเลย

และเงินเฟ้อก็มีแนวโน้มจะพุ่งสูงต่อเนื่อง อย่างใน มี.ค.65 ที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เผยว่าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 5.73% สูงสุดในรอบ 13 ปี ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลกระทบจากสงคราม

สำหรับเงินเฟ้อในปี 2565 นี้ คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 4-5% ซึ่งหมายความว่า…

ใครถือเงินสดถือขาดทุนไปแล้ว 5%

ใครเงินเดือนขึ้น ไม่ถึง 5% เท่ากับ ถูกลดเงินเดือน

ใครที่ลงทุนแล้วได้รับผลตอบแทนไม่มากกว่าเงินเฟ้อ คือถอยหลัง

การออมอย่างเดียวไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้แน่นอน เราจึงต้องลงทุนให้ได้ผลตอบแทนมากกว่า 6% ต่อปี จึงจะสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ แต่ผลตอบแทนยิ่งสูงมาก ก็ยิ่งมีความเสี่ยงมาก หากไม่มีความรู้ในสิ่งที่ลงทุน อย่าว่าแต่ 6% เลย เงินต้นอาจจะไม่เหลือเลยด้วยซ้ำ

ถ้าไม่มีเวลาศึกษาแต่สนใจการลงทุนจริงๆ ควรให้มืออาชีพช่วยลงทุนให้ ด้วยการซื้อ “กองทุนรวม” และเนื่องจากกองทุนรวมต่างประเทศ กองทุนกลุ่มน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ มีความผันผวนสูงจากผลกระทบความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน จึงไม่สามารถการันตีผลตอบแทนได้ ดังนั้นกินอยู่เป็นขอแนะนำ “กองทุนหุ้นไทย” ไปก่อนในช่วงนี้

ซึ่งเรารวบรวมกองทุนในกลุ่ม TH Sector Focus Equity ที่มีผลตอบแทนใน 1 ปีที่ผ่านมา มากกว่า 6% มาให้แล้วค่ะ

แนะนำกองทุนหุ้นไทย กลุ่ม TH Sector Focus Equity เอาชนะเงินเฟ้อ

1. กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสาร (K-ICT) มีผลตอบแทน 61.93%
2. กองทุนเปิด วรรณ โฮสพีทอล (ONE-HOSPITAL) มีผลตอบแทน 20.06%
3. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX (ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) (SCBBANKINGE) มีผลตอบแทน 11.20%
4. กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นธุรกิจธนาคาร (K-BANKING) มีผลตอบแทน 10.21%
5. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET ENERGY SECTOR INDEX (ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) (SCBENERGYE) มีผลตอบแทน 9.94%
6. กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นธุรกิจพลังงาน (K-ENERGY) มีผลตอบแทน 9.50%
7. กองทุนเปิดกรุงศรีไฟแนนเชี่ยลโฟกัสปันผล (KFFIN-D) มีผลตอบแทน 9.39%
8. กองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐาน (B-INFRA) มีผลตอบแทน 7.30%

เรียนรู้เรื่องการลงทุนเพิ่มเติม

• ลงทุนง่ายๆ ได้กำไรแบบไม่ต้องคิดเยอะ ด้วยวิธี ‘DCA’
• เคล็ดลับการเลือกกองทุนรวม โดย ดร.นิเวศน์ กูรู VI
• อย่าเสี่ยงลงทุนคริปโตฯ ถ้ายังไม่รู้เรื่องนี้
• เตือนแล้วนะ! วิธีสังเกตเพจปลอมหลอกลงทุนใน Facebook
• เป้าหมายการเงินสำเร็จได้ ด้วยงบแสดงฐานะการเงิน