วิธีจูงใจคนใช้ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ของต่างแดนที่มากกว่าให้เงินอุดหนุน

0
845
kinyupen

ประเทศไทยยังคงไม่พร้อมกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Car อย่างสมบูรณ์ ทั้งอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงมากจนเกินไป รถ EV นำเข้าดีๆ มีราคาแพงจนคนส่วนใหญ่เอื้อมไม่ถึง ที่พอจับต้องได้ส่วนใหญ่เป็น รถ EV คันเล็ก ความจุแบตฯ ไม่มาก ใช้วิ่งสั้นๆ แค่ในเมือง สถานีชาร์จก็ยังไม่ทั่วถึง เผลอๆ โดนแย่งที่จอดชาร์จ EV อีก

 

 

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความยุ่งยากและซับซ้อน ไร้แรงจูงใจในการเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ในไทย แม้รัฐจะมีการให้เงินอุดหนุน และการลดภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้านำเข้า แต่รู้ไหม ในต่างประเทศมีมาตรการสร้างแรงจูงใจให้คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มามากกว่านั้น แถมเป็นวิธีที่ยั่งยืนกว่าด้วย

 

กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต ได้รวมวิธีจูงใจประชาชนให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ของต่างประเทศ โดยนำข้อมูลจาก อ.ดร. กติกา ทิพยาลัย อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาฝากกัน

 

สำหรับไทยในนโยบายสนับสนุนยานยนต์พลังงานไฟฟ้า รัฐบาลใช้เครื่องมือได้ถูกจุดระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม นี่ยังถือเป็นนโยบายที่สนับสนุนการซื้อในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ มากกว่าการใช้งานในระยะยาว

เพราะการสร้างแรงจูงใจที่ดีที่สุดคือเรื่องของราคา ทั้งเงินอุดหนุนให้กับผู้ประกอบการรถยนต์ไฟฟ้า BEV ที่ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท และการลดภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้านำเข้า แต่มาตรการรอบนี้จะมีอายุถึงปี 2568 เท่านั้น

หากรัฐบาลต้องการสร้างดีมานด์ในประเทศเพื่อให้เกิดการผลิตมากขึ้นในอนาคต อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเกิดการย้ายฐานการผลิตของค่ายรถยนต์ต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทยอย่างจริงจัง

 

นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงประชาชนที่ซื้อรถยนต์ใหม่ไปเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมาแล้วกว่า 7.5 แสนคัน กว่าจะถึงเวลาที่คนเหล่านี้ตัดสินใจซื้อรถคันใหม่อีกครั้งก็อาจหมดอายุมาตรการไปแล้ว

 

 

การสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศ

ทั่วโลกได้ให้ความสำคัญกับสิทธิพิเศษที่ผู้ใช้รถ EV จะได้รับตลอดการใช้งาน ไม่ใช่เพียงแค่ส่วนลดเมื่อซื้อครั้งแรกเท่านั้น

 

ประเทศนอร์เวย์

ประเทศที่มีผู้ใช้รถ EV มากที่สุดในโลกขณะนี้คือประเทศนอร์เวย์ ได้มีการวิจัยและพัฒนามาตั้งแต่ปี 1970 และสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% มาตั้งแต่ 1990 ปัจจุบันมีสัดส่วนการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุดในโลกถึง 87% ของรถยนต์ทั้งประเทศ โดยมีนโยบายส่งเสริมตั้งแต่

    • การลดภาษีการซื้อรถ ภาษีป้ายทะเบียน ภาษีรถยนต์ประจำปี
    • ลดค่าที่จอดรถในที่สาธารณะ
    • สามารถใช้ถนนเลนเดียวกับรถสาธารณะ

ประเทศเยอรมนี

ในฐานะผู้นำข้อตกลง EU Green Deal ได้มีการ

    • ยกเว้นการจัดเก็บภาษียานยนต์เป็นเวลา 5-10 ปี และสนับสนุนเงินชดเชย 8,000-10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
    • รวมถึงสิทธิพิเศษ อาทิ ไม่เสียค่าที่จอดรถ หรือมีสิทธิเข้าบางพื้นที่ที่เปิดให้เฉพาะรถ EV

 

ประเทศสหรัฐอเมริกา

ในปี 2020 ให้เงินอุดหนุนสูงสุดถึง 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นให้คนซื้อรถ EV กับบริษัทขนาดเล็กและกลาง แต่สำหรับค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่ เช่น GM และ Tesla ไม่ได้รับการสนับสนุนในส่วนนี้ เนื่องจากบริษัทดังกล่าวมียอดขายเกินกว่าโควตาที่รัฐบาลสหรัฐกำหนดไว้

 

ประเทศญี่ปุ่น

ขณะที่ฝั่งเอเชีย เจ้าแห่งการผลิตยานยนต์อย่างญี่ปุ่น มีทั้งการให้เงินสนับสนุนคนซื้อรถ ลดและยกเว้นภาษี ด้านกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมได้เน้นการส่งเสริมให้ค่ายรถยนต์วิจัยพัฒนาระบบขับเคลื่อนและแบตเตอรี่ให้ดียิ่งขึ้น

 

ประเทศจีน

จีนอาจให้เงินอุดหนุนไม่มากนักระหว่าง 1,800-4,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่มีการสนับสนุนด้านอื่นแตกต่างกันไปตามมณฑล อาทิ

    • ลดค่าที่จอด
    • ลดค่าชาร์จไฟในที่ชาร์จสาธารณะ
    • ฟรีค่าผ่านทาง

 

 

ข้อเสนอแนะ จูงใจใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

ในส่วนของประเทศไทยนั้นมีบริบทที่แตกต่างออกไป การจอดรถตามท้องถนนสามารถจอดได้ฟรีอยู่แล้ว ส่วนพื้นที่จอดรถที่เสียค่าจอดมักเป็นของภาคเอกชน ดังนั้นควรมีการร่วมมือกับภาคเอกชนโดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ให้มีการลดค่าจอดหรือค่าชาร์จไฟ

หรือแม้แต่การพิจารณาให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้ทางด่วนได้ฟรี ก็เป็นการส่งเสริมที่เหมาะกับบริบทกรุงเทพมหานครที่คนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามชานเมืองและเดินทางเข้ามาทำงานระหว่างวัน รวมถึงควรขยายจุดชาร์จสาธารณะให้ไม่กระจุกตัวอยู่ภายในพื้นที่กรุงเทพชั้นในเท่านั้น

 

แนะแผนระยะยาว หนุนใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทย

ในระยะยาวเพื่อให้ยอดการใช้รถ EV ถึงเป้าหมายตามโรดแมพการพัฒนาวงการ EV ของรัฐบาลไทย ซึ่งสอดคล้องกับแผน30@30 ขององค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency: IEA) ที่จะสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกและภาคีกว่า 40 ประเทศหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 30% ภายในปี 2030

 

 

อ.ดร.กติกา เสนอให้ภาครัฐผลักดันการผลิตรถ EV ใช้ภายในประเทศ แม้จะไม่สามารถผลิตเพื่อส่งออกแข่งกับแบรนด์ใหญ่ที่มีอยู่ในตลาดได้ แต่ภาครัฐสามารถกำหนดให้รถในหน่วยงานราชการหรือรถขนส่งสาธารณะเป็นรถ EV สัญชาติไทย

ซึ่งหลายประเทศก็เริ่มจากตรงนี้ อาทิ เกาหลีใต้ หรือแม้กระทั่ง VinFast จากเวียดนาม ก็เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและได้เริ่มทำการตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้วในขณะนี้

 

ข้อควรคำนึงถึง

อ.ดร.กติกา ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในทางเศรษฐศาสตร์ที่อาจเกิดสภาวะที่เรียกว่า “ผลกระทบย้อนกลับ” (Rebound effect) เมื่อประชาชนรู้สึกสบายใจกับการใช้รถ EV ที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าน้ำมันราคาแพงอีกต่อไป ต้นทุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าต่อหน่วยเมื่อเปรียบเทียบกับระยะทางวิ่งที่ลดลง และไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ใช้รถอาจใช้งานเกินความจำเป็น

 

ต้องอย่าลืมว่าการใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ผลรวมของการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศมากขึ้นก็ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน

และยังมีผลกระทบที่วัดเป็นตัวเงินไม่ได้ เช่น รถติดมากขึ้น ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น หรือความพยายามผลักดันให้ประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะอาจเป็นไปได้น้อยลง จึงควรมีแผนระยะกลางและยาวรองรับการใช้งานอย่างแพร่หลายของรถรถยนต์ไฟฟ้าด้วย

kinyupen