อย่าเพิ่งมองความขี้เกียจในแง่ร้าย เพราะวันนี้ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต จะมาแก้ตัว เอ๊ย! มาอธิบายถึงข้อดีของความขี้เกียจให้ทุกคนได้รับรู้
ถึงแม้หลายคนอาจจะมองว่าความขี้เกียจเป็นบ่อเกิดในการสร้างนิสัยที่ไม่ดี แต่อันที่จริงแล้วความขี้เกียจมีข้อดีอยู่มาก และคนเก่งระดับโลกหลายคนก็บอกว่าความขี้เกียจมีส่วนที่ทำให้ประสบความสำเร็จด้วยนะ
- ว็อล์ฟกัง อมาเดอุส โมทซาร์ท นักประพันธ์ดนตรีคลาสสิกชื่อเสียงก้องโลก ก็มีช่วงเวลาที่ขี้เกียจเหมือนกัน เขาอธิบายไว้ว่า มักจะแต่งทำนองเพลงใหม่ ๆ ได้จากการออกไปเดินเล่น รับประทานอาหาร หรือตอนที่กำลังเข้านอน
- อกาธา คริสตี ราชินีแห่งนวนิยายอาชญากรรม เขียนในอัตชีวประวัติของตัวเองว่า “สำหรับฉันแล้ว ความคิดสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นเมื่อเราอยู่เฉย ๆ บางครั้งก็มาจากความขี้เกียจเสียด้วยซ้ำ”
งานวิจัยจำนวนมากก็บอกว่า ความขี้เกียจ ช่วยให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ เพราะเมื่อเราเลิกสนใจงานตรงหน้าแล้วไปทำอย่างอื่น สมองจะมีเวลาประมวลผลบ่มเพาะความคิด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้น
ความคิดต้องใช้เวลา
เคยไหม? คิดงานยังไงก็คิดไม่ออก แต่พอหยุดคิดไปสักพัก จู่ ๆ ไอเดียเจ๋ง ๆ ก็แล่นเข้ามา เป็นเพราะสมองถูกบังคับให้มองภาพหรือวิธีการในมุมเดียว การหยุดจดจ่อกับสิ่งเดิมและหันไปทำสิ่งอื่น ช่วยให้สมองเปิดกว้างทางความคิด
มีการทดลองในปี 2012 โดยแบ่งอาสาสมัครเป็นสามกลุ่ม ให้กลุ่มแรกพักผ่อนไม่ต้องทำอะไร กลุ่มที่สองจะได้ทำงานเล็กน้อยที่ง่าย ขณะที่กลุ่มสุดท้ายจะต้องทำงานอีกชิ้นที่ยากกว่าชิ้นแรก
ผลการทดลองพบว่า หลังจากกลุ่มที่สองได้ทำงานง่าย ๆ นั้น ระดับความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาสำหรับงานชิ้นแรกเพิ่มขึ้นถึง 40% ขณะที่กลุ่มแรกและกลุ่มสามนั้นระดับความคิดสร้างสรรค์แทบไม่เพิ่มขึ้นเลย
เอ้อระเหยสักนิด
มีการสอบถามพนักงานและผู้บริหารจากบริษัทรับออกแบบในเกาหลีใต้ เกี่ยวกับพฤติกรรมการทำงาน พบว่าพนักงานที่พักผ่อนหรือเอ้อระเหยบ้างในระหว่างทำงานนั้นมีไอเดียที่หลากหลายมากกว่าพนักงานที่มุ่งทำแต่งานเพียงอย่างเดียว
ฆ่าเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
การละจากงานสักครู่ ช่วยให้สมองเรามีเวลาบ่มเพาะความคิด ดังนั้นเราจึงไม่ควรจะรู้สึกแย่ หากจะพักผ่อนสักนิดเพื่อให้ได้งานที่ดีกว่าเดิม และการเดิน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีไม่ว่าจะในที่ร่มหรือที่แจ้งก็ช่วยให้สมองกลับมาสดชื่นได้
ทั้งนี้ความขี้เกียจและการพักผ่อน ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสมให้เราไม่เฉื่อยจนเกินไป และอย่าลืมว่าเครื่องจักรยังมีการหยุดพัก มนุษย์อย่างเราก็ต้องพักผ่อนเช่นกัน
กินอยู่เป็นขอขอบคุณที่มาจาก : Mission To The Moon Media