เชื่อว่าหลายท่านอาจกำลังรู้สึก “ล้ม” หมดหวัง ไร้ทางออกกับวิกฤตโควิด-19 รอบนี้ เพราะถึงจะกัดฟัน “ลุก” ขึ้นได้แต่จะ “รุก” ก้าวต่อไปอย่างไรยังไม่เห็นทาง เพราะรอบนี้เป็นการล้มพร้อมกันเกือบทั้งกระดานตั้งแต่เจ้าของธุรกิจ ลูกจ้าง พนักงาน พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย จนอาจทำให้ความเชื่อและความฝันในการสร้างอนาคต สร้างความมั่นคงในชีวิตที่เคยมีมาตลอดอาจดูบิดเบี้ยวไป เกิดข้อสงสัยกับสิ่งที่เราทำมาตลอดว่ามันถูก หรือ ผิดกันแน่เราจึงมาถึงจุดนี้
กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต ขอเป็นร่วมอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกท่าน ซึ่งเราจะสรรหาวิธีคิดวิธีปฏิบัติและแรงบันดาลใจดีๆ มาแชร์กัน โดยหนึ่งในนั้น คือ หนังสั้นของ Cigna Thailand หรือ ซิกน่าประกันภัย ที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียในเวลานี้อาจช่วยให้เห็นภาพว่า “ยามที่เราทุกข์ บางครั้งการถอยออกมาอยู่นิ่งๆ เพื่อคิดทบทวนอาจทำให้มองเห็นตัวเองในมุมใหม่ๆ และการแก้ไขความล้มเหลวแม้ไม่ง่ายแต่ไม่ใช่ทำไม่ได้เลย บางทีผลลัพธ์อาจดีกว่าที่เคยคาดไว้ก็เป็นได้ ไม่มีสิ่งใดไร้ประโยชน์ ..เพราะสิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ ทุกข์ก็คือบทเรียน ความสุขก็คือรางวัล”
ผลงานดังกล่าวเป็นหนังสั้นความยาวกว่า 9 นาที จากเรื่องราวการล้มและอีกมุมมองของการรุก ซึ่งเขียนบทและกำกับโดย นิ้วกลม หรือ สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ นักคิดนักเขียนชื่อดังที่ร่วมกับ Cigna Thailand หรือที่รู้จักกันในชื่อ ซิกน่าประกันภัย จัดทำขึ้น เพื่อช่วยสร้างรงบันดาลใจและพลิกมุมมองการใช้ชีวิตแก่ผู้ที่กำลังหมดหวัง ให้สามารถ “ลุก” ยืน และ “รุก” ไปต่อข้างหน้าได้อีกครั้ง โดยนำเรื่องราวชีวิตจริงของคน 3 คน จาก 3 วงการที่เคยล้มในสภาวะที่ต่างกัน
แคลร์เอียแยง เทเลอร์ อดีตแอร์โฮสเตสที่ต้องหยุดบินกะทันหัน จนคิดว่าตนเอง “เหมือนคนที่หมดอนาคต” เสมือนเป็นนางฟ้าตกสวรรค์ ที่ปีกหักจนบาดเจ็บ
ศานนท์ หวังสร้างบุญ เจ้าของ Once Again Hostel ที่ธุรกิจกระทบหนักจากโควิด-19 จนเคยมีเสี้ยวหนึ่งของความคิดที่ว่า “ถ้าพรุ่งนี้ไม่อยู่บนโลกใบนี้มันก็ดีเหมือนกัน”
เกียรติคุณ เยาวรัตน์ เจ้าของเพจ runner’s journey ซึ่งในอดีตเคยประสบปัญหาสุขภาพหนักจนรู้สึก “เหมือนจะตายร่างกายหยุดหายใจไปแล้ว”
การถ่ายทอดมุมมองเรื่องราวของทั้ง 3 ท่าน มีหลายแก่นของการใช้ชีวิตและแง่มุมในการปรับตัวสู้กับความล้มเหลวผิดหวังที่น่าสนใจ และน่าจะช่วยกระตุกมุมคิดด้านบวกให้กับหลายคนที่กำลังรู้สึกหมดพลัง
แคลร์เอียแยง กลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัวด้วยการทำไร่ชา ทำผลิตภัณฑ์จากเลมอนบนดอย ก็ได้ปรับจูนทัศนคติชีวิตเสียใหม่จนกลับมามองเห็น “ความหวัง” ทำให้รู้สึกว่าเธอสามารถบินขึ้นไปได้อีกครั้ง หลังพบว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นคุณค่าของสิ่งที่คุณพ่อเธอตั้งใจทำไว้ให้แต่แรก เพราะมัวออกไปตามหาชีวิตของตนเอง หากแท้จริงแล้ว สิ่งที่มีค่าบางทีอาจอยู่ใกล้ตัว หรือ อยู่ในมือมาตลอด เพียงแต่ถูกมองข้ามไปเท่านั้นเอง
นี่อาจตรงกับชีวิตใครหลายคนตอนนี้ที่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไร อยากให้ลองมองหากำลังใจจากคนใกล้ตัวที่อาจเคยมองข้าม หรือ ลองมองไปที่กระจกอีกครั้งบางทีของมีค่าแท้จริงของตัวคุณอาจอยู่ไม่ไกล
ขณะที่ ศานนท์ ซึ่งใช้โอกาสจากช่วงไม่มีลูกค้า ชวนทีมงานผันตัวไปทำหน้าที่เป็นสะพานในการส่งอาหารให้กับร้านอาหารย่านประตูผีจนเหมือนจะไปได้ดี แต่พอสถานการณ์เปลี่ยนก็ได้รับผลกระทบซ้ำอีกรอบ ต้องหาทางดิ้นรนใหม่อีก ซึ่งก็ไม่ท้อ ไม่กลัวพร้อมสู้ต่อไป เพราะเขาให้ความสำคัญกับความฝันและเรื่องของวันพรุ่งนี้ หากต้องรู้จักการปรับขนาดความฝันของตัวเองตามสถานการณ์ เพราะเขามองว่าการล้มมันแค่การปรับไซส์ของความฝันเท่านั้นเอง
ส่วน เกียรติคุณ เล่าว่าอดีตเคยได้รับเงินเดือนสูงมาก จากตำแหน่ง Director สถานีโทรทัศน์ แต่รายได้ก็ผันไปกับค่ารักษาพยาบาลที่สูงอันเป็นผลจากสุขภาพที่ล้มเหลว เพราะการใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยง ก่อนเจอจุดเปลี่ยนทำให้พบคำตอบว่าสุขภาพคือทุกสิ่งทุกอย่างอันดับแรกของชีวิต และตัดสินใจทิ้งความเสียดายจากงานที่ทำเพื่อออกมาทำในสิ่งที่รัก นั่นคือการออกวิ่ง ก่อนพัฒนาสู่มาราธอน และไอรอนแมน ซึ่งประสบการณ์ทำให้เขาเรียนรู้ “ชีวิตไม่ง่ายหรอก แต่ถ้าเราไม่ยอมแพ้ เราก็ไปถึงเส้นชัยได้ แม้จะฉิวเฉียดเวลา แต่ก็สามารถจบการแข่งขันได้เหมือนคนอื่น”
นี่เป็นแค่บางส่วนที่เราสรุปมา ยังมีข้อคิดดีๆ อีกหลายแง่มุมที่พบได้ตลอดระยะเวลากว่า 9 นาทีของหนังเรื่องนี้ที่อาจช่วยปรับมุมมองของคุณจาก “ล้ม” ให้สามารถ “รุก” ไปถึงจุดหมายที่ตัวเองอาจยังไม่เคยวางแผนไว้มาก่อน แต่ถ้าใครที่รู้สึกท้อแท้สิ้นหวังจนหมดกำลังใจมากๆ นั้น อยากให้คุณได้ลองนั่งพัก ค่อยคิดทบทวนชีวิตไปกับสิ่งที่ศานนท์กล่าวไว้กับทีมงานของเขา และเราอยากนำมาฝาก
“ไหวไหม เราพักกันก่อนได้ ถ้าเราทำที่นี่ไม่รอดกัน แล้วเรารักษาชีวิตไว้ก่อน ในอนาคตเราน่าจะได้ทำอะไรด้วยกันได้ในสถานการณ์ที่มันกลับมา”
กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต ขอร่วมเป็นอีกหนึ่งแรงใจให้กับทุกท่านเพื่อก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน..