เมื่อการเคลื่อนไหวแบบสิงสาราสัตว์ถูกจับมาผสมผสานกับการออกกำลังกาย จึงเกิดเป็น Animal Flow การออกกำลังกายที่เลียนแบบท่าทางของสัตว์ ทั้งเรียกเหงื่อ ช่วยเผาผลาญไขมัน ทำให้สุขภาพแข็งแรง แถมยังสนุกเพลิดเพลินอีกด้วย กินอยู่เป็น จึงพาทุกคนมาพบกับการแปลงร่างเป็นสัตว์ให้ผอมเพรียวจะมีสัตว์ชนิดใดบ้างมาดูกัน
การออกกำลังกายรูปแบบใหม่ Animal Flow Body Weight Training ได้รับความนิยมในต่างประเทศและเริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศไทย จากการคิดค้นของ Mike Fitch เทรนเนอร์ฟิตเนสชาวอเมริกันผู้ก่อตั้งสถาบัน Global Bodyweight Training (GBT) ได้นำท่าทางการเคลื่อนไหวของสัตว์ชนิดต่างๆ มาผสมผสานกับการออกกำลังกายแบบไม่ต้องใช้อุปกรณ์(Bodyweight) การวิ่งกระโดดหรือตีลังกา ข้ามสิ่งกีดขวาง (ฟรีรันนิง หรือ Parkour) และโยคะ (Yoga) เพื่อให้เกิดการใช้กล้ามเนื้อและข้อต่อส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ได้มากที่สุด
เรียกได้ว่าเป็นการออกกำลังกายที่ครบทุกสัดส่วนจริงๆ นอกจากประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับไม่ว่าจะเป็น การเผาผลาญไขมัน การสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ความยืดหยุ่น และการทรงตัวที่มีประสิทธิภาพ ผู้ออกกำลังกายในแนวทางนี้ยังได้ฝึกสมาธิจากการเคลื่อนไหวท่าทางต่างๆ ที่ต้องประสานการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี
การฝึกฝนจะสนุกมากยิ่งขึ้นต้องลองใช้จินตนาการสมมติตัวเองเป็นสัตว์ชนิดนั้นๆ แล้วเปิดเพลงจังหวะสนุกที่ช่วยให้รู้สึกคึกคักระหว่างออกกำลังกายด้วยก็ได้
5 ท่าผอมง่ายถ้ากลายเป็นสัตว์
การออกกำลังกาย Animal Flow มีหลายระดับตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงระดับยากและการผสมผสานท่าทางของสัตว์หลายประเภทเข้าไว้ด้วยกันในเซตเดียว การฝึกช่วงเริ่มต้นขอแนะนำท่าพื้นฐานที่สามารถชวนเพื่อนหรือคนในครอบครัวมาฝึกออกกำลังกายแบบสัตว์ต่าง ๆ ร่วมกัน ควรทำสัปดาห์ละ 3 ครั้งเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายอย่างน้อย 48 ชั่วโมงและไม่หักโหมจนร่างกายได้รับบาดเจ็บ
Beast Unload
– เริ่มต้นเตรียมพร้อมจากท่าคลาน แล้วยกหัวเข่าทั้งสองข้างขึ้นจากพื้นเล็กน้อย
– ถอยสะโพกไปด้านหลัง ก้มหน้าให้ใบหูแนบหัวไหล่ หัวเข่ายังคงไม่แตะพื้น และข้อศอกตึงไม่งอ
– จากนั้นยืดตัวไปด้านหน้าให้หัวไหล่ล้ำแนวข้อมือ หัวเข่ายังคงไม่แตะพื้น และข้อศอกตึงไม่งอ
– แต่ละท่าทำค้างไว้ 2-6 วินาที ทำทั้งหมด 3 เซต เซตละ 15-20 ครั้ง
Ape Reach
– เริ่มต้นด้วยท่านั่งยอง ยืดแขนออกมาด้านหน้าจนสุดโดยให้หลังมือชนกัน จากนั้นก้มตัวและก้มหน้าลงระหว่างแขนทั้งสองข้าง
– ยืดตัวขึ้น หลังตรง เขย่งฝาเท้าขึ้น หัวเข่าชี้ไปด้านหน้า กดคางชิดกับอก
– กางแขนออกด้านข้าง หงายมือขึ้นให้อยู่ระดับต่ำกว่าหัวไหล่เล็กน้อยคอตั้งตรงมองไปด้านหน้า
– ทำทั้งหมด 3 เซต เซตละ 5-10 ครั้ง
Traveling Crab
– เริ่มต้นด้วยท่านั่งชันเข่า วางฝ่ามือทั้งสองข้างไว้ที่พื้นหลังสะโพก หันปลายนิ้วไปด้านหลัง ยกสะโพกขึ้นจากพื้นแบบเดียวกับท่า Crab Reach
– เดินไปข้างหน้าเหมือนปูในลักษณะคลานแบบหงายด้านหน้าขึ้น โดยที่ฝ่ามือยังหันปลายนิ้วไปด้านหลัง และสะโพกไม่สัมผัสพื้นตลอดเวลา
– ทำทั้งหมด 3 เซต เซตละ 10 ครั้ง
Crab Reach
– เริ่มต้นด้วยท่านั่งชันเข่า วางฝ่ามือทั้งสองข้างไว้ที่พื้นหลังสะโพก หันปลายนิ้วไปทางด้านหลัง ยกสะโพกขึ้นจากพื้น
– ยกฝ่ามือข้างหนึ่งขึ้นจากพื้น งอศอกข้างลำตัว ฝ่ามืออีกข้างอยู่ที่เดิมสะโพกยังคงไม่สัมผัสพื้น
– ยกตัวและสะโพกขึ้นสูงพร้อมกับเหยียดแขนตรงไปทางด้านหลัง ทิ้งศีรษะมองตามแขนไปด้านหลังค้างท่าไว้ประมาณ 3-5 วินาที
– ทำซ้ายและขวาข้างละ 3 เซต เซตละ 10-15 ครั้ง
Crawl Bear
– เริ่มต้นจากท่าคลานแล้วยกสะโพกขึ้นสูงกว่าระดับหัวไหล่เล็กน้อยเขย่งปลายเท้าขึ้น
– ใช้มือและเท้าเดินไปข้างหน้าโดยเหยียดแขนตรงและเขย่งปลายเท้าไว้ตลอดเวลา ลักษณะแบบเดียวกับหมีคลาน
– ทำทั้งหมด 3 เชต เซตละ 10 ครั้ง
นอกจากใช้ Animal Flow นี้เพื่อการออกกำลังกายเรียกเหงื่อแล้วยังใช้เป็นกิจกรรมเพื่อความสนุกได้ด้วย เช่น แข่งขันด้วยท่าเดินแบบปู (Traveling Crab) หรือคลานแบบหมี (Crawl Bear) ประลองความเร็วว่าใครจะเข้าสู่เส้นชัยที่กำหนดไว้ได้ก่อนกัน เป็นกิจกรรมสุขภาพดีที่ทุกเพศทุกวัยในครอบครัวเล่นด้วยกันได้แม้จะเป็นช่วงโควิดที่ต้องอยู่แต่บ้าน
ข้อควรระวัง
แม้ท่าออกกำลังกายที่แนะนำนี้จะเป็นแบบง่าย ๆ เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นฝึก แต่สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและข้อต่อควรปรึกษาแพทย์ก่อน ที่สำคัญคือไม่ควรฝืนออกกำลังกายต่อถ้าเริ่มเกิดอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อเพราะอาจเกิดอันตรายได้
ขอบคุณรูปภาพจาก
Life Time
Men’s Health