จุดจบคนดี ตามใจทุกคน ผลคือพัง 

0
810
kinyupen

ใครไหว้วานอะไรตอบได้เพียง “ได้ค่ะ” “โอเคครับ” แม้จะเป็นวิธีที่ไม่เวิร์ค แต่ต้องทำตามคำสั่งนาย ต้องคอยเคลียร์งานให้คนอื่นอยู่เสมอ เวลาถามความคิดเห็น ตอบแค่ “อะไรก็ได้” หรือแม้แต่ต้องยอมเป็นฝ่ายผิดทุกครั้ง เวลาทะเลาะกับแฟน

 

แม้ใจในจะร่ำร้องว่า “ไม่!” แต่หลายเหตุผล ทั้งเกรงใจ กลัวว่าคนอื่นๆ จะผิดหวัง ปฏิเสธคนไม่เก่ง ทำให้เราจนมุม สุดท้ายการเอาใจทุกคน ผลคือความฉิบหาย และไม่เป็นตัวเองเข้าไปทุกทีๆ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต มีทฤษฎีจิตวิทยา และแนวทาง #saveตัวเอง มาฝาก

 

นักจิตวิทยาเตือน คนที่ “อะไรก็ยอม” จัดเป็น People-Pleaser ส่งผลร้ายต่อเจ้าตัวเอง

โดยนิยามแล้ว People-Pleaser เป็นอาการทางจิตอย่างหนึ่ง คือคนที่ต้องเอาอกเอาใจผู้อื่น เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของตนเอง อาจเป็นเพราะอยากเป็นที่รัก เป็นที่ชื่นชม หรือเป็นที่ยอมรับของคนอื่นๆ

แม้นี่จะเป็นความต้องการทั่วไปตามทฤษฎีของมาสโลว์ แต่สำหรับ People-Pleaser จะถึงขั้นยอมเสียสละตัวเอง ยอมเหนื่อย ยอมอดทนกับความยากลำบาก เห็นใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง เมื่อเขาพอใจ เราก็มีความสุข รู้สึกว่าตนเองเป็นคนสำคัญเมื่อได้ช่วยเหลือ ความสุขขึ้นอยู่กับคนอื่นแท้ๆ

 

เป็นคนดี คนว่าง่าย ไม่ดีตรงไหน?

ดูแล้วเหมือนการดีลกันแฟร์ๆ แล้ว เขาพอใจ เรามีก็ความสุข แต่บางครั้งช่วยเหลือเขาแล้วเราเป็นทุกข์เอง แบกรับความรู้สึกคนอื่นไว้กับตัว แล้วเมื่อเก็บกดอารมณ์ไว้ในใจบ่อยๆ เพราะกลัวคนอื่นจะรู้สึกแย่กับเรา และแสดงแต่ด้านดีๆ ให้คนอื่นเห็น ผลคือทำให้เรายิ่งมีความเคารพในตัวเองต่ำ โอนอ่อนต่อสิ่งที่คนอื่นเห็นดีเห็นงาม เราก็เลยต้องทำเป็นเห็นดีด้วย กลัวภาวะอารมณ์เสีย

ขาดเสน่ห์ ไร้อำนาจในความสัมพันธ์ มองไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง จนไม่เหลือคุณค่า ไม่ยอมรับว่าตัวเองรู้สึกแย่ ส่งผลต่อสุขภาพจิต ความคิดและบุคลิกภาพอย่างเรื้อรัง อาจพัฒนากลายเป็นโรคซึมเศร้าได้จากการเก็บอารมณ์ร้ายๆ ไว้ในใจมากเกินไป

 

วิธีเลิก People-Pleaser

  1. เอาตัวเองมาก่อนเป็นอันดับแรกอย่าให้ชีวิตขึ้นอยู่กับคนอื่น ยอมเป็นคนเห็นแก่ตัวขึ้นนิดหนึ่ง เพราะการเสียสละเพื่อผู้อื่น บั่นทอนทั้งเวลา พลังงานและอื่นๆ ที่เราควรจะใช้มันเพื่อตัวเอง ดังนั้นช่วยเท่าที่ช่วยได้ โดยที่ไม่ต้องฝืนจะดีกว่า อาจลดขอบเขตคำขอให้เล็กลง หรือพบกันครึ่งทาง
  2. ใจดีกับคนอื่นอย่างจริงใจเพราะตอนที่เราฝืนใจดี เพื่อให้เราดูดีในสายตาพวกเขา มักมาด้วยความคาดหวังอะไรบางอย่าง และเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างใจหวัง เช่น ไม่ได้รับคำชม เขาไม่ขอบคุณ เราอาจรู้สึกเสียใจ
  3. เว้นช่วงก่อนยอมรับคำขอเช่น ขอคิดดูก่อน ขอทำอันนี้ให้เสร็จก่อนแล้วว่ากัน การเว้นช่วง ช่วยให้เรามีเวลาตัดสินใจได้ดีขึ้น มากกว่าถูกเร่งรัด กดดันขอคำตอบ จนต้องยอมรับอย่างเสียมิได้
  4. อย่าตอบว่าทำไม่ได้หากปฏิเสธว่า” ทำให้ไม่ได้” จะถูกถามกลับมาทันทีว่า ทำไม และจะมีทางเลือกขึ้นแย้งมาซ้ำๆ จนสุดท้ายเราต้องยอมทำอยู่ดี ถ้าไม่อยากทำ ให้พูดไปเลยว่า “ไม่” “ฉันไม่ทำ” จะเป็นการบอกเจตจำนงได้ชัดเจน ว่าเราเลือกแล้ว ว่าจะไม่ทำ

 

ท้ายที่สุดการตามใจคนอื่นทำให้ไม่มีใครรู้จักตัวตนของเราจริงๆ หากคุณรู้สึกเหนื่อยเต็มที่กับยอมเสียสละ กินอยู่เป็นแนะนำให้ใส่ใจตัวเองสักนิด มีชีวิตอยู่เพื่อเอง แล้วเปลี่ยนจากคำว่า “อะไรก็ยอม” เป็น “ช่างมัน” และเลือกที่จะตอบว่า “ไม่” ออกไปบ้าง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก :

The MATTER | LINE TODAY

Mission To The Moon

kinyupen