“พนักงาน” เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของทุกบริษัทเพราะเป็นได้ทั้งกำไร จุดแข็ง หรืออุปสรรคที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัท ซึ่งการจะมองว่าบริษัทใดเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จก้าวไกลและน่าอยู่ ก็ต้องมองไปที่การดูแลและการจัดการพนักงานของแต่ละบริษัทอีกด้วย
ในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา หลายบริษัทได้ปิดตัวลง สำหรับบริษัทที่ยังสู้ต่อก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งในเรื่องของการจัดการปัญหาหรือเรื่องของเทคโนโลยีซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาพร้อมกับการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ของแต่ละบริษัท
ซึ่งส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวครั้งนี้ที่ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อบริษัทก็คือ “พนักงาน” การปรับเปลี่ยนระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Work from home การคัดคนออก การจัดแบ่งภาระหน้าที่ให้เข้ากับแต่ละคน หรือแม้กระทั่งการเลือกใช้เทคโนโลยีที่จะเป็นเครื่องมือให้กับบริษัท สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับพนักงานทั้งหมดถึงแม้การตัดสินใจจะมาจากผู้บริหารก็ตาม
เพราะฉะนั้นพนักงานจึงเป็นจุดที่ปรับเปลี่ยนและชี้เป็นชี้ตายว่าบริษัทจะอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งการจัดการกับทรัพยากรมนุษย์นั้นต้องบอกเลยว่าไม่ได้ง่ายสำหรับทุกคนและทุกบริษัท เพราะปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่บริษัทสามารถจัดการระบบภายในรวมถึงระบบการทำงานของคนได้ เพื่อทำให้บริษัทของเราก้าวไกลและตามทันโลกที่กำลังหมุนอยู่ทุกวัน
กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจึงขอนำเสนอ 5 วิธีในการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน เพื่อให้บริษัทเข้าใกล้เป้าหมายได้เร็วมากขึ้น
5 วิธีพัฒนาพนักงานให้มีคุณภาพ
ความเป็นอยู่ที่ดีในเวลาทำงาน
การที่มองว่าการทำงานที่มีความสุขคือ Work-Life Balance ใช้ชีวิตให้เท่าๆ กันถูกมองแบบเดิมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเมื่อเราได้ Work from Home ก็ทำให้เราพบว่าชีวิตการทำงานกับการใช้ชีวิตจริงยังต้องมีความเกี่ยวข้องกันอยู่ ฉะนั้นชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของ พนักงาน จะขึ้นอยู่กับการออกแบบวิธีการทำงานร่วมกันให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขณะทำงาน และมีกิจกรรมที่สามารถส่งผลดีให้กับการทำงานด้วยเช่นกัน
เช่น การที่บริษัทจัดพื้นที่อำนวยความสะดวกทั้งรูปแบบ ออนไลน์และออฟไลน์ให้กับพนักงาน เปิดโอกาสการทำงานให้คนที่ลักษณะเดียวกันทำงานด้วยกัน การจัดการรูปแบบนี้จะทำให้ผลงานของพนักงานออกมาดีมากยิ่งขึ้น
มองหา Skill ใหม่
การพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพไม่ใช่การพัฒนาสกิลเดิมที่มีอยู่ แต่เป็นการหาสกิลใหม่ในตัวบุคคลว่ามีความถนัดทางด้านอื่นอีกหรือไม่ ถ้าหากพบแล้วสามารถพัฒนาสกิลใหม่นี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไร
เพราะช่วง Work from Home ที่ผ่านมาก็ทำให้หลายๆ คนได้รู้และได้ลองอะไรใหม่อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้กับบริษัทได้พัฒนาไปอีกขั้น ซึ่งทางองค์กรควรเปิดโอกาสให้พนักงานของตนเองได้ลองพัฒนาสกิลใหม่หรือต่อยอดสิ่งที่ไม่รู้ว่าตัวเองสามารถทำได้จากการเพิ่มหน้าที่การทำงานในโปรเจกต์ใหม่ การสร้าง Passion Project มาให้พนักงานในองค์กรได้ทำ ซึ่งจะทำให้เห็นว่าพนักงานภายในองค์กรมีอะไรที่คุณไม่คาดคิดอีกเยอะ แต่การจัดการรูปแบบนี้ทางองค์กรก็ต้องออกแบบการทำงานที่ทำให้พนักงานในองค์กรได้พัฒนาศักยภาพของตัวเองไปด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวพนักงานเองก็ต้องมีความกระตือรือร้น แรงบันดาลใจในการทำงานซึ่งจะทำให้ตัวเองเหมาะสมการองค์กรยุคใหม่เช่นกัน
เทคโนโลยีคือเพื่อนร่วมงาน
คำว่าทีมที่ดีไม่ใช่การที่คนทำงานร่วมกับคนอีกต่อไป แต่คือการที่คนสามารถเข้ากันได้ดีกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน โดยแต่ละโปรเจกต์ก็ต้องสำรวจว่ามีเทคโนยีใดสามารถนำมาแก้ไขปัญหาหรือดำเนินการโปรเจกต์ได้ เพื่อแก้ไขปัญหาข้อจำกัดและเพื่อให้พนักงานปรับตัวกับการที่ต้องมีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น ซึ่งองค์กรยุคใหม่ ถ้าหากเข้าใจเทคโนโลยีมากขึ้นก็เปรียบเหมือนการรู้ทันโลกได้มากขึ้นเช่นกัน
ติดตามผลงาน แบบ Real time
สำหรับองค์กรยุคใหม่การทำงานแบบรอสรุปจากผู้ทำงานอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ในยุคนี้รูปแบบการติดตามผลงานนั้นจะต้องประเมินงานจากหน้างานหรือชิ้นงานมากขึ้น เพื่อที่จะได้เกิดการปรับเปลี่ยนหรือตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ ได้เร็วมากขึ้น เมื่อมีการมีการตัดสินใจในส่วนต่างๆ ได้ทันที การทำงานก็จะเกิดการแก้ไขงานน้อยลงซึ่งส่งผลดีต่อตัวพนักงานและตัวองค์กร เพื่อไม่ให้เกิดความตึงเครียดขึ้นภายในองค์กร
ออกแบบวิธีการ ทำงานใหม่ๆ
กิจกรรมนี้ HR เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยองค์กรพัฒนาทักษะและคุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงานให้เป็นไปตามความคาดหวังของบริษัท ซึ่งการออกแบบวิธีการทำงานแบบใหม่ๆ เพื่อสร้างให้ทั้ง 4 ข้อที่กล่าวไปเกิดขึ้นได้จริง
อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ Deloitte.com
