หมดไฟ กับขี้เกียจ เหมือนกันไหม? ต่างกันแค่เส้นบางๆ
- อาการหมดไฟ (Burnout Syndrome) เกิดจาก การทำงานหนักจนไม่ได้พักผ่อนเป็นเวลานาน จนเกิดความเครียดสะสม อาจถึงขั้นไม่อยากตื่นมาทำงาน
- ความขี้เกียจ แม้ไม่ได้อยากทำอะไรแต่ก็อยากพักผ่อน อยากอยู่เฉยๆ
ในที่นี้ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต จะพูดถึงความขี้เกียจที่เป็นอย่างหลัง โดยแบ่งปันหลากวิธีที่อาจช่วยกระตุ้นให้รู้สึกมีพลัง พร้อมลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ส่วนใครที่หมดไฟ แนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอเสียก่อน
7 วิธีเอาชนะ “ขี้เกียจ”
1.ตอนเช้าให้รีบลุกจากเตียง
นักวิจัยยังเตือน นาฬิกาปลุกดังแล้วยังกดเลื่อนขอนอนต่อ แบบนี้ไม่ดีแน่ เพราะวันนั้นกลายเป็นวันที่เหนื่อยล้า ชีวิตไม่ค่อยมีพลังงาน การรีบลุกออกจากเตียงเป็นการกระตุ้นให้สมองและร่างกายกระตือรือร้น ไม่ง่วงซึม พร้อมทำงานอย่างขยันขันแข็ง
2.อย่าโฟกัสหลายเรื่องในเวลาเดียวกัน
โอ้ ทุกอย่างช่างรุมเร้า ยุ่งเหยิง นั่นนี่ก็ต้องทำ แล้วจะทำอะไรก่อนดีเนี่ย.. การมีเป้าหมายเยอะๆ ในเวลาเดียวกันมีแต่จะทำให้คุณเริ่มไม่ถูก รู้สึกเหนื่อยเสียก่อน และไม่ไปไหน
การโฟกัสทีละอย่างจะมองเห็นความสำเร็จได้ชัดเจนขึ้น เพราะคนเราจะขยันขึ้น เมื่อรู้สึกว่าขยันแล้วสำเร็จได้นั่นเอง
3.หาแรงจูงใจ
- ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน เรากำลังทำเพื่ออะไร เพื่อใคร เราอยากมีบ้านสวยๆ ชีวิตดี๊ดีก็ต้องขยันเก็บเงิน
- เลิกผัดวันประกันพรุ่ง โดยนึกถึงความสุขสบายถ้าเราขยันขึ้น หรือนึกถึงว่าผลลัพธ์จะออกมาแย่แค่ไหนหากเราขี้เกียจ ถ้าเราไม่ทำแล้วจะเอาเงินที่ไหนกินข้าว!
- หาแรงบันดาลใจเมื่อสมองคิดอะไรไม่ออก เช่น หาไอเดียจากงานศิลปินยามสมองตัน
4.ออกกำลังกาย
ความขี้เกียจส่วนใหญ่มาจากการทำงานที่แลดูซับซ้อนยากเย็น ในขณะที่การออกกำลังการช่วยให้เราได้ “ลงมือทำ” โดยไม่ต้องใช้สมองคิดแก้ปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อใดที่คุณเอาชนะความขี้เกียจทางร่างกายได้แล้ว จิตใจของคุณก็จะสลัดความขี้เกียจออกไปได้เช่นกัน
5.ห้องพร้อม
สภาพแวดล้อมรอบตัว ส่งผลต่อความขี้เกียจเช่นกัน ห้องที่รกรุงรังทำให้จิตใจยุ่งเหยิง แค่เห็นก็สับสนวุ่นวายแล้ว การทำความสะอาด จัดรอบตัวให้เป็นระเบียบช่วยกระตุ้นให้คล่องแคล่วขึ้นและทำงานได้มากขึ้น ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นเยอะ
6.กายพร้อม
ร่างกายต้องพร้อมเสมอ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ดูแลตัวเอง หาเวลาพักผ่อนและทำสิ่งที่สนุก เพื่อให้สุขภาพจิตและสุขภาพกายสดชื่นแจ่มใส กลับกับหากสุขภาพไม่ดี นอนไม่พอคงอ่อนแรง เพลีย ไม่อยากทำอะไร ความขยันคงบังเกิดขึ้นได้ยาก
7.ใจพร้อม
คุยกับตัวเองเชิงบวก แทนที่จะคิดว่าวันนี้คงต้องเป็นวันที่เหน็ดเหนื่อย ให้คิดซะว่า “วันนี้จะสนุก มีแต่สิ่งที่ทำให้ดีใจและจะก้าวไปอีกขั้น”
หากเกิดความคิดเชิงลบขึ้นมา ก็ทำให้หมดแรงกระตุ้น สังเกตตัวเองและคุยกับตัวเองบ่อยๆ เพราะความคิดเชิงบวกจึงเป็นบทบาทสำคัญที่จะทำให้คุณเป็นคนขยันมากกว่าเดิม
หรือเลือกที่จะแพ้
“ขี้เกียจไปให้สุด จนขี้เกียจจะขี้เกียจ” วิธีนี้อาจสร้างความเดือดร้อนต่อตนเองและคนรอบข้าง แต่ได้พักผ่อนจนสาแก่ใจทีเดียว
เริ่มการเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง เพื่อชีวิตที่ดีในอนาคต เมื่อขจัดความขี้เกียจลงได้คุณอาจพบว่า ชีวิตนี้ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์จนไม่ลืมที่จะขี้เกียจอีกเลย
ที่มา : tkpark.or.th , Jones Salad