**ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “การดูดไขมัน ไม่ใช่การลดน้ำหนัก” ควรพิจารณาร่างกาย ผิวพรรณความยืนหยุ่นของคุณ และคาดหวังผลลัพธ์บนพื้นฐานความจริงและความเป็นไปได้
สำหรับหลายคนที่มีปัญหา “รากฐานมั่นคง ต้นขาใหญ่” ไม่ว่าจะด้วยกรรมพันธุ์ หรือ ไขมันที่สะสมจากมื้อหนัก มื้อเบา ย่อมต้องเคยหาวิธีการลดไขมันจากหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นการแก้ที่ต้นเหตุ เช่น การเลือกรับประทานอาหาร, ออกกำลังกายกระชับสัดส่วน หรือการแก้ที่ปลายเหตุอย่างการดูดไขมัน แน่นอนว่าทางที่ดีที่สุดก็เห็นจะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เพราะ “การดูดไขมัน” มีความเสี่ยงด้วยผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ผิวหนังไม่เรียบเนียน, กล้ามเนื้อขาไม่ได้สัดส่วนที่สวยงาม หรือการติดเชื้อ
ซึ่งในปัจจุบันโรงพยาบาลชั้นนำและคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามชั้นนำต่างออกโปรโมชั่นเอาใจคนหุ่นเชฟบ๊ะอย่างเราๆ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต จึงรวบรวมข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจ “ดูดไขมัน” ไม่ว่าจะเป็นจุดเด่น ข้อควรระวัง ความเสี่ยง การเลือกประเภทวิธีการดูดไขมันที่เหมาะกับแต่ละคน และการดูแลตัวเอง มาให้ได้พิจารณากัน
“สวยทางลัด”
หลายคนน่าจะเคยได้ยิน อันตรายจากการดูดไขมัน ในอดีตมาอย่างหนาหู ทั้งการเสียเลือดในปริมาณมาก รอบแผลขนาดใหญ่ หรือการโยโย่ที่ถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย แต่เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมโปรแกรมดูดไขมัน ถึงยังเป็นโปรแกรมยอดนิยมที่สถาบันเสริมความงามทุกแห่งต่างต้องมี เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น และวิวัฒนาการด้านการศัลยกรรมความงามก็เพิ่มมากขึ้น ระยะเวลาผ่านไปก็มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ชำนาญมากขึ้นเช่นกัน มาดูกันว่า ในปัจจุบันการดูดไขมันมีกี่ประเภท และแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
การดูดไขมันแบ่งออกเป็น 5 วิธี ดังนี้
- Vaser
วิธีการ คือ ต้องฉีดน้ำเกลือชนิดพิเศษและยาชาเข้าไปในจุดที่ต้องการสลายไขมัน และใช้เครื่อง VASER ซึ่งจะมีหัวขนาดเล็กประมาณ 2-3 มม.เข้าไปและปล่อยคลื่นเสียง (Ultrasound) ทำให้ไขมันที่เป็นก้อนสลายตัวกลายเป็นของเหลว หลังจากนั้นจึงดูดไขมันหลังเสร็จแพทย์จะเย็บปิด 1 เข็ม ซึ่งแทบมองไม่เห็นเลย โดยกลับบ้านได้ทันที
จุดเด่น
- เซลล์ผิวหนังได้รับการกระทบกระเทือนน้อย ลดการเกิดรอยฟกช้ำ
- จะใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อยกว่าการดูดไขมันแบบเดิม แผลหลังจากดูดไขมันหายเร็ว
- ใช้ได้แทบทุกส่วนของร่างกาย เช่น หน้าท้อง สะโพก ใต้คาง หรือแม้กระทั่งโหนกบริเวณหลังต้นคอ
- ดูดไขมันด้วยวิธีนี้เหมาะกับคนที่มีไขมันที่กำจัดได้ยาก เช่น คนที่ออกกำลังกายเท่าไหร่ไขมันก็ไม่ยุบ
- การดูดไขมันในกลุ่มของคนที่อายุยังน้อยจะให้ผลการรักษาที่ดีกว่า
ข้อควรระวัง
- อาจมีน้ำคั่งหลังดูดไขมันได้ โดยแพทย์สามารถเจาะออกในภายหลังได้
การดูแลตัวเอง
- ควรงดออกกำลังกายประมาณ 1 เดือน และให้กลับมาออกกำลังกาย เพื่อช่วยให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อในบริเวณที่ดูดไขมันออกไปนั้น มีความแข็งแรงขึ้น
- ใช้ผ้ายืดรัดบริเวณที่ดูดไขมันแล้ว เพื่อช่วยลดอาการบวมและกระชับกล้ามเนื้อ
- Bodytite
วิธีนี้ถูกพัฒนาหลังจาก Vaser ประมาณ 7 ปี โดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio frequency: RF) เป็นการดูดไขมันด้วยพลังงานความร้อน เพื่อช่วยสลายไขมันให้มีโมเลกุลที่เล็กลง และสามารถดูดออกมาได้ง่าย
จุดเด่น
- เหมาะกับคนที่มีไขมันส่วนเกินในปริมาณมาก
- คนที่ปัญหาด้านสรีระไม่สมส่วน
- ช่วยสลายไขมันพร้อมกับการกระชับผิวหนัง
- ลดการเสียเลือดได้มากกว่า เพราะมีการ Coagulation ที่ช่วยห้ามเลือดไปได้ขณะดูดไขมัน
- ไม่ทำให้เกิดแผลเป็นขนาดใหญ่
- ไม่ก่อให้เกิดพังผืดรัดตัว และไม่จำเป็นต้องทำซ้ำ
ข้อควรระวัง
- ราคาค่อนข้างสูง
- สลายไขมันตรงบริเวณที่เป็นพังผืดหนาได้ไม่ค่อยดี
การดูแลตัวเอง
- ไม่ควรโดนน้ำจนกว่าแผลจะปิดสนิท
- ใส่ชุดที่มีความกระชับต่อเนื่อง ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนแรกหลังทำการดูดไขมัน
- Water Jet หรือ Body Jet
วิธีการ คือ เข้าไปแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อผิวหนัง ทำให้เซลล์ไขมัน คงสภาพสมบูรณ์และนำมาใช้ประโยชน์ต่อได้อีก
จุดเด่น
- ไม่ทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำ ผิวไม่เป็นคลื่นหลังจากการดูดไขมัน
- แผลหายเร็ว ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน
- เหมาะกับคนที่ต้องการนำไขมันที่สมบูรณ์ไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ต่อ
- สามารถนำไขมันที่ได้ไปสกัดเป็นสเต็มเซลล์ช่วยซ่อมแซมร่างกาย
- สามารถนำไปเติมไขมันบริเวณใบหน้า ส่วนอื่นๆ และศัลยกรรมเพิ่มขนาดหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง
ข้อควรระวัง
- อาจมีน้ำหรือไขมันตกค้างได้ โดยแพทย์สามารถเจาะออกในภายหลังได้
การดูแลตัวเอง
- ใส่ชุดที่มีความกระชับต่อเนื่อง ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนแรกหลังทำการดูดไขมัน
- Smart Lipo
วิธีการ คือ ยิงเลเซอร์เข้าไปสลายไขมัน (Laser-assisted liposuction : LAL) แล้วจึงดูดไขมันออกมา ถือเป็นการดูดไขมันกึ่งผ่าตัดที่มีแผลขนาดเล็กมาก
จุดเด่น
- เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง เพราะได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา
- ในบางหลายที่มีไขมันปริมาณน้อยแพทย์อาจพิจารณาไม่ดูดไขมันออกมา แต่จะให้ร่างกายขับออกมาในรูปแบบของเสียแทน
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาไขมันตรงตำแหน่งเล็กๆ
ข้อควรระวัง
– เหมาะกับ ผู้หญิงและผู้ชายที่ไม่ได้มีน้ำหนักมากจนเกินไป
การดูแลตัวเอง
- ใส่ชุดที่มีความกระชับต่อเนื่อง ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนแรกหลังทำการดูดไขมัน
- PAL
PAL (Power Assisted Liposuction) เป็นการดูดไขมันด้วยเครื่องสั่น ที่เรียกว่า Microaire ที่ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานในการดูดไขมัน การสั่นสะเทือนทำให้รอบของการดูดไขมันถี่ขึ้น และยังช่วยทำให้ดูดมันได้ในปริมาณมากขึ้น
จุดเด่น
- เหมาะกับบริเวณที่มีความแข็งของพังผืด
- เป็นวิธีการดูดไขมันที่ได้ดูดได้ในปริมาณมาก และดูดไขมันออกมาได้อย่างรวดเร็ว
- เหมาะกับผู้ที่เคยดูดไขมันมาก่อนและต้องการดูดซ้ำ
ข้อควรระวัง
- ราคาค่อนข้างสูง
- ความถี่ในการสั่นสะเทือนมีผลต่างกันในบริเวณที่มีเนื้อเยื่อต่างกัน
ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องรู้ คือ การดูดไขมัน ไม่ใช่ การลดน้ำหนัก และท้ายที่สุดหากคุณกลับมาสร้างเหตุหรือกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ในปริมาณมาก ขาดการออกกำลังกาย และไม่ดูแลตัวเองคุณก็อาจจะกลับมามีไขมันสะสมที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยไม่ต้องโทษเทคโนโลยีหรือแพทย์ท่านใดเลย