“ข้าวกล่อง” ปัจจัยสำคัญกับความเร่งรีบในการใช้ชีวิตของมนุษย์

0
1574
ข้าวกล่อง-ปัจจัยสำคัญกับความเร่งรีบในการใช้ชีวิตของมนุษย์_web
kinyupen

กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต พาไปติดตามเรื่องราวของ “ข้าวกล่อง” ปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งอย่างในการใช้ชีวิตในช่วงเร่งรีบของมนุษย์ที่ต่างมีภารกิจต่างๆ ให้ได้ทำในแต่ละวัน เพราะข้าวกล่องมีความสะดวกสบายในการพกพา หิวเมื่อไหร่เปิดกล่องกินเมื่อนั้นเลย

มนุษย์ทุกคนมีภารกิจและมีหน้าที่ให้ทำในแต่ละวัน ทั้งการไปเรียนหนังสือ ไปทำงาน ไปท่องเที่ยว ฯลฯ ซึ่งล้วนต้องใช้ความเร่งรีบในการใช้ชีวิต แต่ถึงจะเร่งรีบขนาดไหนก็ตาม อาหาร ก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่มนุษย์ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะมื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องรับประทาน เพราะเราต้องใช้พลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งวัน ดังนั้น การรับประทานอาหารมื้อเช้า จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ร่างกายของเรามีพละกำลังและมีเรี่ยวแรงที่จะทำกิจกรรมในชีวิตเรา

เมื่อมนุษย์มีความเร่งรีบในชีวิต การรับประทานอาหารที่โต๊ะอาหารที่บ้านหรือร้านอาหาร รวมไปถึงการประกอบอาหารเองที่บ้านอาจจะไม่สะดวกมากนักในช่วงเวลาที่มนุษย์เกิดความเร่งรีบ ดังนั้น “ข้าวกล่อง” จึงเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญความเร่งรีบของมนุษย์ในทุกวันนี้ เพราะข้าวกล่องมีความสะดวกสบายในการพกพา หิวเมื่อไหร่เปิดกล่องกินเมื่อนั้น ไม่ต้องเสียเวลาเอาไปใส่จานหรือนำไปประกอบอาหาร เพราะข้าวกล่องมีให้ครบตามความต้องการของมนุษย์

จะว่าไป วันนี้เราอยากกินอะไร ก็แค่เดินไปสั่งที่ร้านอาหารตามสั่งหรือเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ก็มีข้าวกล่องสำเร็จรูปแบบแช่แข็งจำหน่าย หรือบ้านไหนอยู่กันเป็นครอบครัว คุณแม่ก็อาจจะทำข้าวใส่กล่องหรือปิ่นโตไว้ให้เราด้วย นี่ล่ะรูปแบบของ “ข้าวกล่อง” ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่กล่องโฟมเท่านั้น ลักษณะของข้าวกล่องเป็นได้ทั้งข้าวกล่องแช่แข็งที่เมื่อหิวแล้วก็ต้องเอาไปอุ่นในเตาไมโครเวฟ หรืออาจจะเป็นกล่องใส่ข้าวพลาสติก ที่มีวิวัฒนาการมาจากปิ่นโตใส่ข้าว หรือบางคนยังเลือกใช้ปิ่นโตใส่ข้าวด้วยซ้ำ เพราะสามารถบรรจุอาหารได้หลากหลายอย่าง เผื่อว่าเอาไปแบ่งให้เพื่อนๆ รับประทานด้วย

ข้อดีของ “ข้าวกล่อง” เราเห็นกันอยู่แล้วว่า สะดวกสบายในการใช้ชีวิต สามารถรับประทานได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เร่งรีบสุดๆ เป็นต้น แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้ว “ข้าวกล่อง” ที่บรรจุใส่ในกล่องโฟมหรือใส่ในถุงพลาสติก เป็นอันตรายต่อร่างกายเราได้ เพราะพลาสติกจะทำให้เราเป็นมะเร็งได้ ถ้าจะให้ดีวันหลังก็ควรให้ร้านใส่กล่องข้าวให้เราน่าจะดีกว่า แถมยังช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย

โดย นพ.วีรฉัตร กิตติ รัตนไพบูลย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์ บริษัทบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม บอกว่า กล่องโฟมที่ใช้ตามท้องตลาดทั่วไป (Styrofoam) เป็นของเสียเหลือทิ้งสีดำๆ จากกระบวนการผลิตน้ำมันปิโตรเลียม ประกอบด้วยสารสไตรีน (Styrene) มีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในเพศหญิง ซึ่งข้าวกล่องที่บรรจุกล่องโฟมเป็นแหล่งสะสมสารสไตรีน ออกฤทธิ์ให้สมองมึนงง สมองเสื่อมง่าย หงุดหงิดง่าย มีผลทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติและเป็นสารก่อมะเร็งอีก 3 ชนิด หากผู้ชายทานเข้าไปมากๆ มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ขณะที่ผู้หญิงมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม และทั้งเพศชายและหญิงมีโอกาสสูงต่อการเป็นมะเร็งตับ ถึงแม้จะไม่ได้ดื่มแอลกอฮอร์เป็นประจำก็ตาม

สุดท้าย แนวโน้มพฤติกรรมการบริโภค “ข้าวกล่อง” ของคนไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับความรู้ความเข้าใจของผู้บริโภคในเรื่องอาหารและโภชนาการ แต่ก็อย่ามัวหลงความสะดวกสบายจนลืมใส่ใจสุขภาพของตนเอง หากไม่จำเป็นพยายามหาเวลาไปรับประทานอาหารที่ร้านหรือที่บ้านกับครอบครัวน่าจะอบอุ่นใจกว่า ดีกว่าต้องเป็นมนุษย์ข้าวกล่องไปตลอดชีวิต และนี่คือหนึ่งในวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต

kinyupen