เผย 9 ฟีเจอร์เด็ดๆ ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 12 เพิ่มความเร็วและแรงขึ้นกว่าเดิม ตอบโจทย์ผู้ใช้ไอโฟนได้เป็นอย่างดี
หลังจากที่มีการแถลงข่าวเปิดตัว Apple Watch Series 4 และไอโฟนอีก 3 รุ่น ได้แก่ iPhone Xs, iPhone Xs Max และ iPhone Xr ภายในงาน Apple Apple Event 2018 ที่จัดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมานั้น ในวันเดียวกัน ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล ยังได้มีการอัพเดทข้อมูลของ iOS 12 ซึ่งได้มีการเปิดให้ผู้ใช้ไอโฟนได้อัพเดทในวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา
ต้องบอกว่า iOS 12 มีการเปลี่ยนแปลงฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย และในครั้งนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นการอัพเดทครั้งสำคัญและมีแอพฯ ใหม่ๆ และความสามารถใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย ซึ่งตอบโจทย์ผู้ใช้ไอโฟนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะผู้ใช้งานเครื่องรุ่นเก่า ที่ครั้งนี้ iOS 12 ได้มีการอัพเดทให้มีความเร็วและแรงขึ้นกว่าเดิม “กินอยู่เป็น” 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต จึงได้สรุป 9 ฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 12 ที่ต้องบอกว่า เด็ดจริง อะไรจริง
1. ประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วขึ้น
แอปเปิลได้มีการปรับประสิทธิภาพการทำงานของ iPhone และ iPad โดยได้ปรับปรุงความเร็วในการเปิดแอปฯ ให้เร็วขึ้น 40% , คีย์บอร์ดเร็วกว่าเดิม 50% และปัดเพื่อเปิดกล้องได้เร็วขึ้น 70% พร้อมกันนี้ยังได้มีการปรับปรุงแอนิเมชั่นต่างๆ ให้มีการใช้งานที่ลื่นไหล ไม่สะดุดอีกด้วย
2. เน้นการค้นหาและแนะนำรูปภาพ (Photos)
เนื่องจาก Photos เป็นแอปฯ สำหรับดูรูปที่ติดมากับระบบ iOS อยู่แล้ว แอปเปิลจึงได้เพิ่มฟีเจอร์การแนะนำและการค้นหา ได้แก่ Search Suggestion และ For You
โดย Search Suggestion เป็นการค้นหารูปอัจฉริยะ ช่วยให้ค้นหารูปภาพได้รวดเร็วขึ้น โดยผู้ใช้จะเห็นคำแนะนำกิจกรรม ผู้คน สถานที่ และวันที่ที่เกี่ยวข้องแสดงในช่องค้นหาโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสามารถในการค้นหาโดยใช้ปัจจัยอื่นๆ อาทิ วัน เวลา งานกิจกรรมต่างๆ
ส่วน For You เป็นการแสดงช่วงเวลาดีๆ จากคลังรูปภาพของคุณ และคุณก็ยังสามารถแชร์หรือส่งต่อรูปภาพกับคนที่อยู่ในรูปนั้นได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติใหม่ๆ อาทิ รูปภาพแนะนำ และ คำแนะนำเอฟเฟ็กต์ เพื่อแสดงรูปภาพที่ดีที่สุดของคุณออกมา
3. การแจ้งเตือนแบบกลุ่ม (Group Notifications)
แอปเปิลได้ปรับการแจ้งเตือนใหม่ โดยการปรับให้อยู่ในรูปแบบของกลุ่ม เพื่อให้คุณได้ดูเรื่องราวสำคัญๆ ได้ง่ายขึ้น โดยเนื้อหาข้อความในเรื่องเดียวกันจะถูกจัดกลุ่มและแจ้งเตือนในหัวข้อเดียวกัน นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนต่างๆ ได้จากหน้าจอล็อคทันทีแบบเรียลไทม์ โดยที่ไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าในส่วนของการตั้งค่า
4. FaceTime แบบกลุ่ม (พร้อมใช้งานภายในปี 2561 นี้)
แอปเปิลได้มีการปรับรูปแบบของ Facetime ให้สามารถใช้งานได้พร้อมกันสูงสุด 32 คน และสามารถเรียก Facetime ได้จากกรุ๊ปแชทใน iMessage นอกจากนี้ แอปเปิลยังได้นำเอา Animoji รวมเข้ากับ Facetime เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนหน้าตัวเองเป็น Animoji หรือฟิลเตอร์ และเอฟเฟกซ์ต่างๆ ในระหว่างหว่างการสนทนาได้ ซึ่งนับเป็นการอัพเดทครั้งยิ่งใหญ่เลยทีเดียว
5. โหมดห้ามรบกวน (Do Not Disturb)
แอปเปิลจะช่วยให้ผู้ใช้ทำความเข้าใจและควบคุมระยะเวลาที่ใช้โต้ตอบกับ iOS เช่น โหมดห้ามรบกวนขณะขับรถ , โหมดปรับแสงสว่างบนหน้าจอและปิดเสียงแจ้งเตือนในเวลานอน เป็นต้น คราวนี้ คุณก็สามารถใชชีวิตไปกับการทำงานหรืพักผ่อนได้
6. ARKit 2.0
ARKit 2.0 จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปฯ AR ที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์จาก AR เช่น การตรวจจับวัตถุ ส่งผลให้แอปฯ AR มีความน่าสนใจมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ARKit 2.0 จะเน้นไปที่การใช้งานแอปฯ รวมไปถึงการใช้งานเกมส์ที่มีผู้เล่นหลายคน ทำให้ผู้เล่น 2 คนเห็นวัตถุเสมือนเดียวกันได้
7. การสร้างอิโมจิของตัวเอง ด้วย Memoji
Memoji คือ การสร้างอิโมจิของตัวเอง ตั้งแต่การตรวจจับใบหน้า เลือกทรงผม เปลี่ยนสี และตกแต่งได้อีกมากมาย และเมื่อทำเสร็จแล้ว Memoji ก็จะถูกบันทึกไว้ให้โดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานสามารถเปิดกล้องและเรียกใช้งาน Memoji ได้ในแบบเรียลไทม์
8. Siri Shortcut
แอปเปิลได้พัฒนา Siri Shortcut โดยเพิ่งความสามารถให้มีความฉลาดมากขึ้น เพื่อให้ Siri สามารถจับคู่กิจวัตรประจำวันของคุณได้ เช่น การแจ้งเตือนว่า ต้องทำภารกิจอะไรบ้าง เป็นต้น
9. ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
แอปเปิลได้พัฒนาให้ iOS 12 โดยยกระดับความเป็นส่วนตัวให้เกิดความรัดกุมมากขึ้น เช่น Safari จะป้องกันไม่ให้ผู้โฆษณาเก็บข้อมูลเฉพาะตัวจากอุปกรณ์ของคุณ และไม่สามารถปรับเป้าหมายการแสดงโฆษณาให้ติดตามคุณไปตามเว็บต่างๆ ได้อีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ iOS 12 บอกเลยว่าตอบโจทย์ผู้ใช้ไอโฟนของจริงเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ไอโฟน ตั้งแต่ iPhone 5s – iPhone SE ขึ้น รวมไปถึงผู้ใช้ iPad สามารถเข้าไปอัพเดทระบบปฏิบัติการ iOS 12 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และนี่คือหนึ่งในวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต