กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต พาไปติดตามเรื่องราวของตำรวจจีนใช้โดรนติดกล้องออกลาดตระเวน ตรวจจับผู้ขับรถบนท้องถนนฝ่าฝืนกฎจราจร หวังรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกฎจราจร และลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ
การเดินทางของคนในยุคสมัยนี้ส่วนใหญ่ต้องมีรถเป็นของตัวเอง ซึ่งการมีรถเป็นของตัวเองนั้นดีตรงที่ว่าเราสามารถไปไหนมาไหนได้ทุกที่ ทุกเวลา มีอิสระในการเดินทาง แต่ก็มีคนขับบางส่วนที่ต้องการไปถึงจุดหมายปลายทางโดยเร็วหรือต้องการหลีกหนีปัญหารถติด จึงพยายามฝ่าฝืนกฎระเบียบจราจรทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองไปถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว การฝ่าฝืนกฎจราจรเกิดขึ้นทุกประเทศไม่เว้นแม้แต่บ้านเรา ซึ่งตำรวจในแต่ละประเทศก็ต่างพยายามหากลวิธีต่างๆ เพื่อลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนกฎจราจร
อย่างเช่นที่ประเทศจีน โดยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจเมืองจี่หนัน มณฑลซันตง นำโดรนติดกล้องออกลาดตระเวน ตรวจจับผู้ขับรถบนท้องถนนฝ่าฝืนกฎจราจร โดยเป็นมาตรการหนึ่งในการควบคุมให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกฎจราจร ทำให้บรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนต่างเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ส่งผลให้ไม่มีอุบัติเหตุใหญ่และไม่มีรถติดยาว อย่างไรก็ดี การใช้โดรนออกปฏิบัติการก็มีข้อจำกัดหลายประการ โดยเฉพาะเวลาฝนตกซึ่งไม่สามารถใช้โดรนออกบินได้เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
รายงานข่าวระบุว่า “โดรน” ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจจีน เช่น ตำรวจในเมืองหนันจิง มณฑลเจียงซู ได้นำโดรนออกบินสำรวจเขตก่อสร้างผิดกฎหมาย ซึ่งใหญ่เกินกว่าที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบด้วยตนเอง ส่วนตำรวจในเมืองสิงไถ มณฑลเหอเป่ย ก็ใช้โดรนเข้าตรวจสอบพื้นที่ซึ่งไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ในอดีต
ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสุดเจ๋งของประเทศจีนที่ช่วยลดจำนวนผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และถ้ามีการกวดขันและเข้มงวดกันมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรู้สึกเกรงกลัวและไม่กล้าฝ่าฝืนกฎจราจรอีกต่อไป และนี่คือหนึ่งในวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต