ช่วงโควิดหลายคนคงต้องได้รับความกดดันหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ครอบครัว หรือแม้แต่เย็นนี้จะกินอะไรดีบางคนก็เครียดแล้ว สิ่งรอบตัวทำให้เรารู้สึกดำดิ่งและเซื่องซึมไปหมด พอจะมองหาเรื่องที่สนุกสนานก็ไม่มีเวลาคิดเพราะเอาสมองไปคิดถึงเรื่องเครียดหมดแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เกิดภาวะที่จิตใจถูกทำร้าย ส่งผลให้กับสุขภาพในระยะยาวได้
กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจึงรวบรวมวิธีที่จะเยียวยาจิตใจของทุกคน เพื่อลดความเครียดเพิ่มรอยยิ้ม แบ่งเบาภาระความกดดันมาให้ทุกคนได้ทำตามเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับจิตใจตัวเอง
- อาบน้ำ สระผม
บางคนอาจไม่เข้าใจว่า อาบน้ำ สระผม จะช่วยอะไรจริงๆ แล้วสิ่งนี้เป็นการขจัดความเครียดได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เราจะเห็นได้ว่า วันทั้งวัน เราจะต้องแบกรับอะไรมากมาย แต่พอได้ อาบน้ำ สระผม เราจะรู้สึกผ่อนคลายและเหมือนเป็นสัญญานที่บอกเราว่า “ควรพักผ่อนได้แล้วนะ” ทิ้งเรื่องราวที่หนักอึ้งทั้งวันแล้วผ่อนคลายซะ บางคนอยากเพิ่มบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้นอาจจะหาซื้อเทียนหอมกลิ่นที่ชอบมาจุดพร้อมแช่น้ำที่อุ่นกำลังดี ความสุขแบบนี้หาได้ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ
- เปิดเพลงฟังบำบัดจิตใจ
เสียงเพลงเรียกได้ว่าอยู่คู่กับเรามาตลอดตั้งแต่จำความได้ บางคนเคยได้ยินตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ด้วยซ้ำ นี่ก็อาจะเป็นเหตุผลหนึ่งทีหลายๆ คนชอบฟังเพลง ยิ่งตอนนี้ Work from Home กันด้วย เปิดไว้ทั้งวันเลยก็ได้คลายเหงา หรือหากเปิดฟังตอนนอนอย่างพวกเพลงคลาสสิค เพลงบรรเลงที่ไม่มีเสียงร้อง จะช่วยเปลี่ยนแปลงคลื่นสมอง ส่งผลให้การเต้นของหัวใจลดลง ทำให้การหลับดีขึ้น
- อ่านหนังสือ หรือ เขียนบันทึกประจำวัน
การที่จะพาเราออกไปได้ไกลจากความเครียดที่สุด คือจินตนาการ เพราะฉะนั้นการมีหนังสือดีๆ สักเล่มที่ทำให้ใจเรา ได้หลุดจากโลกแห่งความเป็นจริงชั่วขณะ แล้วหันมาใช้จินตนาการไปกับเรื่องราวในหนังสือ อย่าอ่านหนังสือที่หนักเกินไป ปรัชญา เศรษฐกิจ กลยุทธธุรกิจ พักก่อน…หันมาอ่านนิยาย การ์ตูน เรื่องสั้น พักใจให้สงบห่างไกลจากเรื่องแย่ๆ หรือจะลองเขียนบันทึกประจำวัน ฝากเรื่องราว ความรู้สึกไว้กับตัวหนังสือ เหมือนว่าเรากำลังจะบอกใครสักคน อย่างน้อยก็ได้ระบายความรู้สึกแย่ๆ ออกไปบ้าง
4. กินดี ดื่มดี มีประโยชน์ต่อกายและใจ
สำหรับคนไทยอย่างเรา สิ่งที่ยืนหนึ่งและเยียวยาความเครียดได้ดีที่สุดก็คือการกิน การกินคืออีกหนทางสำหรับระบายอารมณ์ ยิ่งโมโหยิ่งกิน บางคนชอบทานไอติม หรือ ช็อคโกแลต แก้เครียด ประมาณว่ากินน้ำตาลแล้วอารมณ์ดี และจะเห็นได้ว่าหลายๆ เทศกาล หลายๆ โอกาสพิเศษก็หนีไม่พ้นการดื่ม กิน ฉลอง แต่หากกินมากเกินไปก็จะไม่ดีต่อสุขภาพได้ ซึ่งทางเลือกสายสุขภาพก็มีไม่น้อย เช่น ถั่วหรือธัญพืชต่างๆ ผลไม้อบแห้ง ขนมปังโฮลวีต ทานคู่กับชาร้อนๆ เช่น ชาดอกคาโมไมล์ ชากุหลาบ ช่วยทำให้จิตใจสงบ และบรรเทาความเครียด
5. เปลี่ยนบรรยากาศบ้านใหม่
ออกไปไหนไม่ได้ก็ลองจัดห้อง จัดบ้าน จัดโต๊ะทำงานใหม่ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่เคยชินดูบ้างเผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้น บางทีการเห็นอะไร พบอะไรมุมเดิมๆ อาจเป็นการซ้ำเติมถึงเรื่องราวที่ฉุกคิดให้เครียดได้ ถ้าไม่อยากอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ ก็ลองเปลี่ยนบางอย่างที่เคยมี ลบภาพเดิมทิ้งไปซะ แล้วสร้างความรู้สึกใหม่ ความทรงจำใหม่เข้ามาแทนที่ ของบางอย่างที่วางไว้เกะกะ สกปรก ก็ทำความสะอาด ซ่อมแซมเสียใหม่ เพื่อบรรยากาศและความรู้สึกดีๆ ที่เพิ่มขึ้น
- หาเพื่อนคุยดีกว่าอยู่คนเดียว
มนุษย์เป็นสตว์สังคม บางคนเวลาที่รู้สึกแย่ เครียด เซ็ง ไม่ชอบอยู่คนเดียว มักจะออกไปพบปะเพื่อนฝูง ปาร์ตี้สังสรรค์ อยู่กับคนมากมายเพื่อให้ตัวเองไม่รู้สึกโดดเดียว แต่การทำแบบนั้นอาจแก้ปัญหาได้เพียงครั้งคราว การหาเพื่อนสักคนที่สามารถพูดคุย ปรึกษา หรือบอกเล่าเรื่องราวที่ได้พบเจอแล้วรับฟังความคิดเห็นมุมมองอีกมุมหนึ่งเพื่อทำให้เราได้เห็นอะไรที่กว้างขึ้น แต่ต้องดูเหตุการณ์ด้วยนะ ไม่ใช่ว่าเพื่อนเราก็แย่ แล้วยังต้องมาฟังเรื่องของเราอีกเดี๋ยวจะพากันเครียดทั้งคู่
- ปลูกต้นไม้ วาดภาพ ใช้ความสามารถขจัดความเครียด
กิจกรรมบางอย่างไม่ได้ทำเพื่อแค่คั้นเวลาหรือเป็นแค่พรสวรรค์เฉพาะตัวเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยบำบัดจิตใจได้อย่างเช่น การวาดภาพเพื่อคลายเครียด ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งเราจะระบายบางสิ่งบางอย่างออกมากับภาพนั้นๆด้วย ทำให้เกิดสมาธิขึ้นมาในจิตใจ ทำให้รู้จักการดูแลและบำบัดความเครียดด้วยตนเอง หรือจะเป็นทำสวนปลูกต้นไม้ก็ช่วยได้เช่นกัน ใช้ธรรมชาติบำบัด มองเห็นสีเขียวของต้นไม้ ใบไม้ หรือ บรรดาดอกไม้หลากสีสัน ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่ง เพิ่มพลังงานในร่างกาย และทำให้ออกซิเจนไหลเวียนได้ดีขึ้น
- การนอนหลับคือการพักที่ดีที่สุด
การเยียวยาตัวเองแบบที่ไม่ต้องลงทุนใดๆทั้งสิ้น คือการนอน เพื่อทำให้สมองได้พักผ่อนจากความเหนื่อยล้า เพราะการนอนเปรียบเหมือนดับทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เราเจอมาทั้งวันหยุดให้อวัยวะต่างๆ ได้รับการฟื้นฟูซ่อมแซม เพราะหากนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ระบบต่างๆ ไม่สามารถซ่อมแซมได้อย่างเต็มที่ส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายและจิตใจอย่างแน่นอน ให้ร่างกายได้พัก เพื่อที่ตื่นมาจะได้สดชื่น คิดหาทางออกกันต่อไป
การเยียวยาตัวเองไม่จำเป็นจะต้องมาหาวิธีตามคำบอก แต่ควรเลือกสิ่งที่ตัวเองทำแล้วรู้สึกดี ทำแล้วมีความสุข ทำแล้ว…อยากจะมีชีวิตต่อไปเพื่อจะได้ทำสิ่งนี้อีก ความสุขของบางคนอาจจะเป็นการนั่งมองท้องฟ้าในที่เดิมๆ แต่คนละช่วงเวลาเพื่อดูความเปลี่ยนไปของมัน บางคนอาจชอบเดินดูไฟถนนในตอนกลางคืน บางคนอาจเสพติดซีรีย์ดราม่าน้ำตาท่วมแก้ม ใครจะไปรู้ว่าสิ่งที่เยียวยาเราได้คือกิจกรรมอะไร คนที่รู้ดีที่สุดก็คือตัวคุณเอง
เพียงแต่สิ่งเหล่านี้ที่ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต ได้รวบรวมมาให้ คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักเลือกทำเพื่อขจัดความเครียดนั่นเอง ตราบใดที่พระอาทิตย์ยังขึ้น นกยังร้อง เวลายังเดิน คนเรามีทางออกสำหรับมันเสมอ ยิ้มเยอะๆ นะ มีความสุขมากๆ เข้าไว้ เพราะจะเป็นภูมิต้านทานที่ดีให้กับจิตใจเราในวันหน้า
