วลีฮิตคนยุคใหม่ ใช้เงินซื้อความสุข แก้ปัญหาด้วยเงิน วัยรุ่นครั้งเดียว อาจขัดใจกับแนวคิดคน GEN เก่าๆ หรือนักออมเงินสายประหยัดทั้งหลาย แต่คำถามคือ คนเหล่านั้นใช้เงินไม่เป็น จริงหรือ? บางทีนั่นอาจเป็นชีวิตที่เขาตั้งใจเลือกแล้วก็ได้
แต่ก็ต้องมีเงินเก็บสำหรับอนาคตนะ มัวตามใจฉันแบบนี้บั้นปลายจะลำบากหรือเปล่า? กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตมาแชร์ความคิดคนเจนใหม่ให้โลกได้รู้ พร้อม 3 วิธีมีเงินและอยากใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กัน เพื่อสมดุลชีวิตที่ดี เมื่ออยู่ในยุคที่ประสบการณ์และการได้ออกไปใช้ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินที่ล้นบัญชี
ยุคสมัยเปลี่ยน ความสุขของคนแต่ละ GEN เปลี่ยน
มันเกิดจากอะไร คนยุคก่อนหน้านั้นไม่เห็นเดือดร้อนอยากจะไปกิน ไปเที่ยวแบบนี้บ้างเลย
เศรษฐกิจและรายได้ ในยุคปัจจุบันมีส่วนทำให้หนุ่มสาวท้อกับอนาคต เมื่อรายได้ไม่ได้สัมพันธ์กับรายจ่าย ปัจจัยใช้ชีวิตมนุษย์งอกขึ้นมาเพิ่มเรื่อยๆ (เช่น สมาร์ตโฟน อินเทอร์เน็ต แอร์ ฯลฯ) ทำให้การเก็บหอมรอบริบเป็นเรื่องยาก เหนื่อยกว่าคนรุ่นเก่า
กว่าจะตั้งตัวแล้วได้ก็คงแก่พอดี เผลอๆ อาจตายเสียก่อน ไม่ทันได้ใช้เงิน ส่วนเรื่องรวยยิ่งไม่มีหวัง ดังนั้นก็จัดความฝันซะตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า
ส่วนหนึ่งของแนวคิดมีความสุขด้วยเงินเกิดจากการตลาด การโฆษณา การนำเสนอที่ฝังรากลึกถึงใจคนให้อยากได้ อยากมีกับเขาบ้าง ให้เข้าใจว่าถ้าทำสิ่งนี้แล้วเราจะมีความสุข ถ้ามีอันนี้แล้วเราจะดูเป็นคนชั้นนำ ถ้าไม่ได้ทำแบบนี้แล้วก็เหมือนยังมาไม่ถึง
วันหยุดต้องได้เที่ยว
ไปเที่ยวต้องมีโลเคชั่นสวย แล้วต้องถ่ายรูป
ไปคาเฟ่ต้องบรรยากาศดี
วันเกิดต้องมีเค้กสวยๆ ไว้ถ่ายรูป
ไม่ผิดหรอกถ้าจะมีค่านิยมแบบนี้ เพราะสิ่งที่การตลาดนำเสนอมาเป็นสิ่งที่เติมเต็มความสุขให้เราได้จริงๆ แม้เป็นเพียงความสุขชั่วคราว แต่ถ้าเงินถึง ไม่ลำบากจนเกินไปก็ควรจะไขว่คว้าเอาไว้
เพราะถ้าคุณเกิดอยากใช้ชีวิตแบบนั้น แต่ไม่ได้ใช้ เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเสียดายทีหลังแน่ๆ
ถึงตอนนั้น เราอาจไม่มีอารมณ์เที่ยวอีกต่อไป
ถึงตอนนั้น เราอาจเล่นเกมไม่สนุกอีกแล้ว
ถึงตอนนั้น เวลาของฉันคงไม่ได้มีไว้เพื่อตัวเองแล้ว
ถึงตอนนั้น ความฝันก็ยังคงเป็นความฝันต่อไป ไม่มีโอกาสให้ทำอีก
เราจะทำอย่างไรกันดี ถ้าอยากมีเงินเก็บและอยากใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กัน
ไม่จำเป็นต้องตัดอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ชีวิตทีความสุข ทำตัวแบบทางสายกลาง ใช้เงินหาความสุขโดยอนาคตไม่พัง
1. รู้จักประมาณตน
ทำกิจกรรมต่างๆ และใช้จ่ายเงินให้เหมาะสมกับเงินที่มีอยู่ ดีกว่าไปกินเที่ยวสุดเหวี่ยง แล้วต้องก้มหน้าก้มตากินมาม่าทั้งเดือน หรือแบกรับหนี้สินมากมาย
- ประมาณตนเรื่องเที่ยว : เลือกที่ๆ ราคาไม่แพง, ไปเที่ยวช่วงโปรโมชั่น, กินง่ายๆ อยู่ง่ายๆ
- ไม่สร้างหนี้โดยไม่จำเป็น : ล้มละลายมาหลายคนแล้วกับการได้ก่อน จ่ายทีหลัง รูดปรื้ดๆ ให้ตั้งสติ คิดว่าสิ่งนั้นจำเป็นแค่ไหน ก่อนซื้อของใหญ่ลองเก็บไปคิดสัก 3 วัน แล้วมาดูกันว่าความยากได้จะยังมีอยู่ไหม?
- เลือกงานอดิเรกที่ไม่ต้องใช้เงินเยอะ (หรือถ้าต่อยอดเป็นเงินได้ยิ่งดี)
2. ตั้งเป้าหมายให้ชัด จะเก็บเงินไว้ทำอะไร
ระหว่างปัจจุบันกับอนาคตคุณให้น้ำหนักกับอะไรมากกว่ากัน? อยากออมไว้เที่ยวทริปใหญ่? มีเงินไว้ใช้ตอนแก่? ไว้ซื้อบ้าน ซื้อรถ? ลองทบทวนตัวเองดูเผื่อจะมีแรงบันดาลใจเพิ่มยิ่งขึ้น
3. แยกบัญชีใช้–จ่าย–ออม–ลงทุน อย่างชัดเจน
คนเรามีรายรับ-รายจ่ายมากมายหลายหมวดหมู่ อย่าใช้เงินปนกันมั่วไปหมด จนทำให้งงในงบประมาณของตัวเอง แนะนำให้แยกไปเลย 4 บัญชี
- บัญชีใช้จ่ายประจำวัน
- บัญชีเงินเก็บฉุกเฉิน
- บัญชีเงินออมระยะยาว
- บัญชีลงทุน
การอดเปรี้ยวไว้กินหวานอาจใช้ไม่ได้กับยุคนี้ เมื่อหลายคนมองว่า “เงินหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นอาจไม่มีอีกแล้ว” แต่อย่างไรเงินสักก้อนใหญ่ๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความมั่นคงในอนาคต ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ชีวิตตามใจฉัน หรือขยันอดออมก็แล้วแต่ การใช้ชีวิตแบบพอเหมาะพอดีจะช่วยลดความกังวล ความเครียด และสร้างสุขได้อย่างคาดไม่ถึงเลยเชียวล่ะ
