กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจึงขอนำเสนออีกหนึ่งทางเลือกนอกจากจะฝากประจำประเภทไม่หักภาษีซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 1.5 -1.8% ตามแต่เงื่อนไขธนาคารโดยฝากเริ่มต้นได้ตั้งแต่เดือนละ 500 – 25,000 บาท แต่ถ้าเป็นกลุ่มไม่แน่นอนคือเกรงจะต้องใช้ด่วนก็อาจเอาเงินส่วนหนึ่งลงทุนในกองทุนรวมประเภทดอกเบี้ยน้อยหน่อย แต่ให้เงื่อนไขถอนได้แต่ต้องแจ้งล่วงหน้า 1 วัน หรือ 3 ซึ่งเริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 500 บาทเช่นกัน
แต่ก็จะมีวัยทำงานส่วนหนึ่งที่อยากได้กำไรเพิ่ม ยอมเสี่ยงหน่อยเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น เล่นตามกระแสที่เขาบอกกลุ่มนี้จึงได้ชื่อว่าเม่าน้อย หากในช่วงโควิด 19 สถานการณ์เศรษฐกิจไม่แน่นอน การเมืองไม่นิ่ง
กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจึงอยากเสนอให้ผู้ที่อยากได้กำไรสูงกว่าฝากประจำเพิ่มอีกนิด แต่ต้องการความมั่นคงย้ายมาลงทุนในส่วนกองทุนรวมดู อย่างน้อยก็วางใจได้ในระดับหนึ่งด้วยจุดเด่น 4 ประการ คือ
- มีมืออาชีพที่เชี่ยวชาญดูแลให้โดยเราไม่ต้องนั่งเฝ้าวิตกว่าหุ้นขึ้นหรือลง
- มีศักยภาพกระจายการลงทุนทำให้เพิ่มโอกาสและลดความเสี่ยงเพราะกองทุนมีเงินลงทุนก้อนใหญ่
- มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายอาทิหุ้น พันธบัตร ตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศซึ่งสร้างความเสถียรของการลงทุน
- กองทุนรวมบางกลุ่มลดหย่อนภาษีได้อย่าง RMF ที่มีเงื่อนไขเอาเงินทุนพร้อมกำไรออกได้ก็ต่อเมื่ออายุครบ 55 ปี หรือ SSF ที่จะต้องลงทุนครบ 10 ปี
ซึ่งคำถามต่อไปคือจะเลือกกองทุนชนิดใดดี อันนี้คงต้องอาศัยวิสัยทัศน์ของแต่ละบุคคลเพราะมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ลงทุนในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ในกลุ่มพลังงาน หรือในหุ้น SET 50 ที่หมายถึงลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ 50 อันดับแรกของไทย แต่วันนี้กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตขอแนะนำการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยตัวนี้ไม่ได้เกี่ยวกับกระแสของประกันสังคมและศรีพันวา หากกองทุนอสังหาริมทรัพย์มักจะเป็นกลุ่มที่โบรกเกอร์ หรือนักวิเคราะห์แนะนำ
ในกลุ่มกองทุนรวมจะมีกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสังเกตได้ว่านักวิเคราะห์หรือบริษัทหลักทรัพย์ส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ดูเป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มที่ต้องการออมเงินระยะยาวในวันที่ดอกเบี้ยลงต่ำ ตลาดหุ้นฯ มีปัญหาเนื่องจากอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่มีรายได้ที่เห็นแน่นอน ตัวอย่างที่ชัดก็กรณีกองทุนศรีพันวาที่กำลังอยู่ในความสนใจเพราะสำนักงานประกันสังคมเข้าไปซื้อหรือถือในสัดส่วนกว่า 20% โดยสิ่งที่น่าสนใจและมาพร้อมกับข่าวคือ กองทุนนี้มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 6% หากเทียบกับการฝากเงินออม ที่0.25% และ ผลตอบแทนของ RMF ที่ไม่ได้มีปันผลออกมาระหว่างกาล
การจะเข้าลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ก็ไม่ได้ยาก เพียงแต่ทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อน กองทุนอสังหา จะมีกองทุนรวมอสังหา โดยกองทุนรวมอสังหาคือการรวมเงินที่ได้จากที่ทุกคนเข้าไปลงทุนไปเช่าอสังหา หรือบริหาร เช่น โรงแรม ออฟฟิศบิวดิ้ง เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอในรูปแบบค่าเช่าโดยผลตอบแทนค่าเช่าจะกลับคืนเราในรูปแบบปันผล
ส่วนกองทรัสต์ หรือที่เรียกว่ากอง REIT เป็นกองที่จัดตั้งและบริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์ กองประเภทนี้จะเป็นกองทรัพย์สิน คือ เอาเงินไปลงทุนซื้อและผู้ที่มาบริหารโครงการจ่ายกลับมาเป็นค่าเช่า กรณีนี้อย่างเช่นศรีพันวา
การเข้าลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์นอกจากปัจจัยพื้นฐานที่ต้องดูคือทำเล ประเภทธุรกิจอย่างโรงแรม หรืออาคารสำนักงาน อัตราส่วนผู้เช่า สภาพคล่องแต่ประการสำคัญคือปันผล โดยอัตราปันผลที่สมควรจะพิจารณาควรมีสูงกว่า 4% จึงจะน่าสนใจและควรเลือกกองทุนอสังหาฯ ประเภท Freehold มากกว่า Leasehold เพราะประการหลังหมายถึงการเซ้งสิทธิ์ แต่ประการแรกคือการเข้าซื้อ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- พอร์ตแดงเดือด วิธีคุมสติเมื่อขาดทุนติดๆ กัน
- เปิดสถิติหุ้น ช่วงไหนอะไรน่าลงทุน มาดู!
- กองทุนที่ต้องมีติดพอร์ตปี 2564
- แนะ..มือใหม่เล่นหุ้น “ซ้อมบนกระดาษ” ก่อน
นี่ก็เป็นข้อมูลคร่าวๆ ที่ระหว่างหุ้นตก เงินที่ถอนออกมาอาจจะกันไว้ส่วนหนึ่งเข้าซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์ หากทว่าในช่วงนี้อาจต้องดูเทรนด์ ดูสภาวการณ์เพราะถ้าเป็นโรงแรมก็ต้องชั่งใจเนื่องจากโควิด 19 ส่วนออฟฟิศบิวดิ้งก็ดูทำเล ตัดสินใจยังไงก็ค่อยๆ คิดไปเพราะช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม แต่ก็อย่าช้ามากเดี๋ยวพร้าจะบิ่น (ฮา)
