สลากออมทรัพย์แบบไหนที่ใช่คุณ ซื้ออย่างไรให้ถูกกระจาย

0
738
kinyupen

การลงทุนให้เงินงอกเงยชนะอัตราเงินเฟ้อคือสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน แต่ในวิกฤตแบบนี้การลงทุนรูปแบบอื่นก็ยังไม่แน่นอน ยิ่งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากยิ่งลดลงไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลย สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้อง “ปลอดภัยไว้ก่อน” กินอยู่เป็น 360 องศาในการใช้ชีวิตขอแนะนำสลากออมทรัพย์ไว้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ

 

สลากออมทรัพย์เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ลงทุนเพื่อการออม
  • ชอบลุ้นโชค
  • ใช้เงินเย็นในการลงทุนได้
  • รับความเสี่ยงได้น้อย

 

ข้อดี

  • วิธีเก็บเงินที่ไม่น่าเบื่อจนเกินไป เพราะได้ลุ้นรางวัลใหญ่ทุกเดือน
  • หากไม่ถูกรางวัล สลากเดิมที่มีอยู่ก็ใช้ลุ้นต่อในเดือนถัดไปได้อีกเรื่อยๆ จนครบกำหนดอายุฉลาก
  • ความเสี่ยงต่ำ รับประกันเงินต้นไม่สูญหาย ตราบใดที่ไม่ถอนคืนก่อนกำหนด
  • ได้ดอกเบี้ย
  • ดอกเบี้ยและเงินรางวัล ไม่ว่ารางวัลเล็ก-ใหญ่ จะได้รับเต็มจำนวน ไม่ถูกหักภาษี

ข้อเสีย

  • เกิดฉุกเฉิน ต้องถอนสลากคืนตั้งแต่ใน 3 เดือนแรก จะถูกหักเงินต้น
  • ผลตอบแทนต่ำ อัตราดอกเบี้ยสลากออมทรัพย์ต่ำกว่าฝากประจำ ในกรณีที่ไม่ค่อยถูกรางวัล การฝากรูปแบบอื่นยังได้ผลตอบแทนมากกว่า

 

 

วิธีซื้อสลากออมทรัพย์ให้ถูกรางวัลทุกงวด

ซื้อรวดเดียวไม่ทยอยซื้อ จะมีโอกาสถูกมากกว่าเพราะเราไม่สามารถเลือกเลขเองได้ เมื่อเราซื้อสลากออมทรัพย์ แต่ละหน่วยเลขจะเรียงลำดับโดยอัตโนมัติ เช่น ซื้อ 100 หน่วย จะเรียงเป็น 0000001-0000100 แต่ถ้าซื้อทีละนิดเราก็ไม่ได้เลขเรียงกัน เพราะเลขจะซ้ำกันเอง เสียโอกาสกระจายรางวัลไปเปล่าๆ

 

ซื้อกี่หน่วย จึงถูกทุกงวด 100%

ดูจากรางวัลสุดท้าย ว่ารางวัลเล็กที่สุดคือเลขท้ายกี่ตัว แล้วซื้อให้ครบ

รางวัลเลขท้าย 4 ตัว มี 0000-9999 ต้องซื้อ 10000 หน่วย

รางวัลเลขท้าย 3 ตัว มี 000-999 ต้องซื้อ 1000 หน่วย

รางวัลเลขท้าย 2 ตัว มี 00-99 ต้องซื้อ 100 หน่วย

 

ตัวอย่าง การคำนวณจากรางวัลขั้นต่ำ

นาย ก. ซื้อสลากออมสินพิเศษ 3 ปี หน่วยละ 50 บาท โดยรางวัลเล็กที่สุดคือรางวัลเลขท้าย 4 ตัว รางวัลละ 100 บาท 2 รางวัล

ต้องใช้เงิน 50×10,000 = 500,000 บาท จึงจะซื้อสลากออมสินแล้วถูกทุกงวด และได้รับ 200 บาททุกเดือนตลอด 3 ปี

ในกรณีที่ไม่ถูกรางวัลเลย นาย ก. จะได้รับรางวัล 2,400 บาท/ปี คิดเป็น 0.48%

 

ครบ 3 ปี นาย ก. จะได้รับเงินรางวัลแน่นอน 7,200 บาท และดอกเบี้ยครบอายุอีก 10,200 บาท (0.68 % ต่อปี) รวมทั้งสิ้น 17,400 บาท เฉลี่ยปีละ 5,800 บาท/ปี คิดเป็น 1.16% ต่อปี


 

นาง ข. ซื้อสลากสลาก ธกส. หน่วยละ 500 บาท โดยรางวัลเล็กที่สุดคือรางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 200 บาท 2 รางวัล

ต้องใช้เงิน 500×1,000 = 500,000 บาท จึงจะซื้อสลากออมสินแล้วถูกทุกงวด และได้รับ 400 บาททุกเดือนตลอด 3 ปี

ในกรณีที่ไม่ถูกรางวัลเลย นาง ข. จะได้รับรางวัล 4,800 บาท/ปี คิดเป็น 0.96%

 

ครบ 3 ปี นาง ข. จะได้รับเงินรางวัลแน่นอน 14,400 บาท และดอกเบี้ยครบอายุอีก 1,000 บาท (0.20 % ต่อปี) รวมทั้งสิ้น 15,400 บาท เฉลี่ยปีละ 5,133 บาท/ปี คิดเป็น 1.027% ต่อปี

 

**หมายเหตุ** ไม่ได้หมายความว่าสลากฯ ของธนาคารที่ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยน้อยกว่าจะขาดทุนมากกว่า ควรตัดสินใจจากรางวัลอื่นๆ ด้วย เช่น สลาก ธกส. มีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 น้อยกว่า สลากออมสิน แต่รางวัลอื่นๆ มีโอกาสถูกมากกว่า

 

ซื้อสลากออมทรัพย์แบบไหนดี

สลากออมทรัพย์แต่ละธนาคาร ทั้งดอกเบี้ย ราคาและรางวัลต่างกัน ควรอ่านรายละเอียดจากหน้าเว็บธนาคารต่างๆ แล้วเปรียบเทียบให้ดีว่า ซื้อกับธนาคารไหนคุ้มที่สุด โดยเน้นจุดประสงค์ตัวเองก่อนเป็นหลัก

  1. โอกาสถูกรางวัลที่ 1 มากที่สุด
  2. เงินรางวัลที่ 1 มูลค่ามากที่สุด
  3. อัตราดอกเบี้ยมากที่สุด
  4. โอกาสถูกรางวัลทุกงวดมากที่สุด
  5. ราคาขั้นต่ำในการซื้อต่อหน่วยถูกที่สุด

 

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้เรารู้จักสลากออมทรัพย์มากยิ่งขึ้น แม้จะมีความเสี่ยงต่ำ ก็ควรศึกษาให้เข้าใจก่อนซื้อ เพื่อผลประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุด หากทำความเข้าใจดูแล้วสลากออมทรัพย์ยังไม่ตอบโจทย์ ไม่สามารถใช้เงินก้อนซื้อรวดเดียวได้ หรือมีความรู้เรื่องการลงทุนอยู่แล้ว กองทุนรวม หรือการลงทุนรูปแบบอื่นๆ อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

kinyupen