เพราะการมีแหล่งหาเงินแค่ทางเดียวไม่ปลอดภัยอีกต่อไป การมีกระแสเงินสดเข้ามาตลอดเวลาโดยที่ไม่ต้องเหนื่อยมาก เป็นความฝันของหลายคนในยุคใหม่ ยิ่งถ้าใครอยากเกษียณเร็วๆ อยากออกไปใช้ชีวิตต้องคำนึกถึง Passive income เป็นอันดับแรก เพื่อนำไปสู่อิสรภาพทางการเงิน
อิสรภาพทางการเงิน ไม่ใช่แค่การที่เรามีเงินเยอะๆ แบบเยอะมากๆ จนเหลือใช้ แต่หมายถึง การมีกระแสเงินสดเข้ามาตลอดเวลา โดยไม่ต้องออกแรง (Passive income) เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายด้วย
Active income VS Passive income
– Active income คือ ต้องทำงานถึงจะได้เงิน เช่น รับจ้าง มนุษย์เงินเดือน หมอ แม่ค้าพ่อค้าทั่วไป
– Passive income คือ ไม่ต้องทำงาน เงินก็ไหลเข้ามา เช่น เงินปันผล รายได้จากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ ค่าลิขสิทธิ์
นี่เราต้องลงทุนขนาดนั้นเลยหรือ? มีวิธีสร้างกระแสเงินแบบนี้โดยเริ่มจาก 0 ไหม? กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต มีคำแนะนำสำหรับผู้ที่เริ่มตั้งเป้าหมาย Passive income สำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อย แต่ความตั้งใจเต็มเปี่ยมมาฝาก
1.ตั้งเป้าหมาย
อยากมี Passive income เดือนล่ะเท่าไหร่ ให้เราเริ่มตั้งเป้าหมายน้อยๆ เท่าที่เป็นไปได้ก่อน เช่น เดือนหนึ่งมีค่าใช้จ่าย 20,000 บาท ดังนั้นเราต้องหาทางทำให้มีกระแสเงินสดเข้ามาเดือนละ 20,000 บาท
หากตั้งความหวังไว้สูงเกินไป อย่างปกติใช้ 2 หมื่น แต่อยากมีเงินเข้า 1 แสน มันจะทำให้เราท้อ การตั้งเป้าตามความเป็นจริงจะทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้น พอบรรลุแล้วค่อยเพิ่มรายได้ไปเรื่อยๆ ก็ไม่สาย
2.หาความถนัด และใช้แอปพลิเคชัน/เว็บไซต์ ต่างๆ เป็นตัวช่วย
เดี๋ยวนี้มีสินค้าหลายอย่างที่ไม่จำเป็นต้องสต๊อกแต่ขายได้ตลอด ก็ทำเงินได้เรื่อยๆ
- ค่าโฆษณา
ถ้าคุณมีสื่อของตัวเองที่มีคนเห็นเยอะ เช่น บล็อก เว็บไซต์ ยูทูป แฟนเพจ หรือแม้แต่ผนังตึก ก็สามารถขายพื้นที่เหล่านี้เพื่อการโฆษณาได้ เคยมีร้านก๋วยเตี๋ยวที่บ้านติดทางด่วน ได้รับการติดต่อขอตั้ง Billboard รับเละไปหลายเดือนเลยล่ะ
- ค่าสมาชิก-หลักสูตรออนไลน์
เราสามารถสร้างคอนเทนต์ เช่น วิดีโอ บทความ สอนพิเศษ หรือการสัมมนา แล้วเรียกเก็บค่าสมาชิกจากลูกค้าเป็นรายเดือนหรือรายปีเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์เหล่านั้นได้
- ขายภาพถ่าย-ภาพเวกเตอร์ ออนไลน์
ใครๆ ก็ขายได้ ไม่จำเป็นต้องมีกล้องระดับมือโปร มือถือเครื่องเดียวเป็นอันใช้ได้ นอกจากนี้เราสามารถขาดภาพวาดและภาพเวกเตอร์ได้ ซึ่งมีหลายเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนขายภาพให้เรา เช่น Shutterstock iStockphoto Adobe Stock ฯลฯ เสียส่วนแบ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่ขายได้เรื่อยๆ โดยผู้ที่มาซื้อก็คือผู้ที่อยากได้วัตถุดิบสำหรับทำคอนเทนต์นั่นเอง จะได้ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์กัน
- สร้าง Audiotrack / sound effect
นอกจากภาพจะเป็นวัตถุสำคัญในการทำคอนเทนต์ เสียงเองก็เช่นกัน เสียงย่างเนื้อ น้ำตก บีบแตร อะไรก็ตามจะมีค่ามากถ้าใช้เป็น sound effect หรือใครมีความสามารถทางดนตรีลองทำเพลงประกอบหรือ Jingle วางขายในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Audio Socket, Sound Cloud หรือ Song Freedom ยิ่งยุคที่พอดแคสต์กำลังมาก็คุ้มค่าที่จะได้ลอง
- เขียน E-book
ใครมีพรสวรรค์ด้านการเขียน สามารถเขียนหนังสือออนไลน์ขายได้ เพียงเขียนลง Microsoft word และแปลงเป็น PDF ลงขายในแพลตฟอร์ม E-book ซึ่งมีหลากหลาย อาทิ Ookbee meb Amazon Kindle ถ้าผลงานนิยมมากๆ อาจมีพิมพ์รวมเล่ม หรือมีคนมาขอซื้อลิขสิทธิ์นิยายไปทำหนังก็ได้ และถ้าใครสนใจทำหนังสือเสียงเดี๋ยวนี้ก็ขายได้ อย่าง Audiobook
- ทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขาย
ไม่จำเป็นต้องวาดรูปเก่ง ใช้ภาพถ่ายมาแต่งนิดๆ หน่อยๆ ก็ได้ ขอแค่มีไอเดีย มีความคิดสร้างสรรค์โดนใจคนซื้อแต่ต้องศึกษาระบบ LINE Creators สักหน่อย ก็สามารถส่งสติ๊กเกอร์ไปขาย รอคนมาซื้อเรื่อยๆ ได้เลย แถมยังมีกิจกรรมประกวดสติ๊กเกอร์ชิงรางวัลตลอด ขายไปด้วยประกวดไปด้วยยิ่งดี
3.หาความรู้ด้านการเงิน เพื่อหามูลค่าเพิ่มจากสินทรัพย์
สินทรัพย์บางอย่างมีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ไม่ใช่แค่อาคารหรือที่ดิน แต่หุ้นก็เช่นกัน ทุกเงินเดือนออกเราอาจแบ่งเงินเก็บส่วนหนึ่งมาออมหุ้นซึ่งเริ่มต้น DCA ได้ตั้งแต่ 1,000 บาท หรือซื้อกองทุนก็ได้ ซึ่งกองทุนส่วนใหญ่สามารถซื้อขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 500 บาท แต่ต้องพิจารณามูลค่าในอนาคตไว้เสมอ และลงทุนให้เหมาะกับตัวเอง ความรู้เรื่องการเงินจึงสำคัญมาก มิเช่นนั้นพอร์ตอาจติดลบเอาได้
- เงินปันผลจากหุ้น/กองทุน ลงทุนในหุ้นหรือธุรกิจอื่น เพื่อได้รับปันผลตอบแทน ถ้าเลือกเป็นจะได้เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว
- ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์
บทความที่เกี่ยวข้อง
- กองทุนที่ต้องมีติดพอร์ตปี 2564
- รายได้ทางเดียวไม่พอใช้ต้อง หาเงิน เพิ่มเพื่อรองรับยามขับขัน
- อาชีพใหม่ !! รายได้เสริม? ตอบโจทย์เศรษฐกิจพัง
- เช็กแพ็กเกจ สินเชื่อ แบงก์รัฐพร้อม How to กู้ได้ง่าย
ไม่มีคาถาเสกเงินอะไรทั้งนั้น นอกเสียจากต้องลงมือทำด้วยตัวเอง ในยุคที่มีข้อมูลข่าวสาร แพลตฟอร์มต่างๆ และเทคโนโลยีอยู่ในมือคุณก็ต้องรู้จักขวนขวายให้คุ้ม แม้การสร้าง Passive income อาจไม่พอต่อค่าใช้จ่าย 100% แต่มีเอาไว้ก็ทำให้เหนื่อยน้อยลง เผลอๆ มีรายได้ไหลเข้ามาแซงงานประจำเสียอีก สู้ๆ!