กองทุนรวมที่ควรมีติดพอร์ต ปี 2565

0
933
kinyupen

ได้เวลาปรับพอร์ตการลงทุนรับปีใหม่ ความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจเป็นเรื่องปกติที่ทำให้เราต้องคอยเช็กข่าว ค่อยเพิ่มลดสัดส่วนการลงทุนอยู่เสมอ ผู้ที่รู้จักปรับตัวมักหยิบจับโอกาสได้

 

สำหรับนักลงทุนที่สนใจซื้อกองทุนรวมเพิ่ม หรือกำลังมองหากองทุนดีๆ เพื่อปรับสัดส่วนให้เข้ากับสถานการณ์ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตมี “เช็กลิสต์กองทุนที่ควรมีติดพอร์ตปี 2565” ฉบับอัปเดต 4 ธันวาคม 2564 ซึ่งหลายๆ ตัวสามารถถือยาวๆ ได้ 3-5 ปีเลยทีเดียว

 

เช็กลิสต์กองทุนที่คุณควรมีติดพอร์ตปี 2565

1. Digitalization : ธีมหุ้นที่เติบโตตามเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลกสู่ยุคใหม่

เช่น 5G AI โดรน บล็อกเชน (Blockchain) Cloud และในอนาคตเทรนด์ที่มาแน่นอนคือ Metaverse ซึ่งกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลประโยชน์คือ ฮาร์ดแวร์ ธุรกิจเกี่ยวกับเกม ผู้ผลิตชิป

 

แม้โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่มีแววจะทำให้โลกรวน แต่ธีมเทคโนโลยีจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ถึงแม้หุ้นเทคโนโลยีจะถูกปรับตัวลง ก็ไม่ได้ร่วงรุนแรงเหมือนหุ้นกลุ่มอื่นๆ ในขณะที่กลุ่ม New economy ก็ยังไปต่อได้ เพราะหากสุดท้ายคนต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านอีกครั้ง เทคโนโลยีก็กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน

 

ตัวอย่างกองทุนแห่งอนาคต

    • B-INNOTECH : อินโนเวชั่นและเทคโนโลยี
    • SCBDIGI : ดิจิตอล
    • WE-PLAY : เกมและอีสปอร์ต
    • PRINCIPAL GCLOUD : คลาวด์

 

เจาะธีมเมกะเทรนด์ที่มาแรง โดย คุณรัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายหลักทรัพย์ต่างประเทศและฟิวเจอร์ส บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

 

2. กองทุน ESG (Environment, Social, Governance) หรือกองทุนความยั่งยืน จะเป็นเทรนด์ที่มาใน 10 ปีข้างหน้า

บริษัททั่วโลกเริ่มให้ความสนใจในการดำเนินธุรกิจที่ช่วยทำให้โลกเราดีขึ้น ไม่ต้องเบียดเบียนใคร ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และทำตามหลักธรรมมาภิบาล ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า การลงทุนจะมีเรื่องของ ESG เข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกที่ทุกประเทศ

 

ที่เห็นได้ชัดคือ จีน-สหรัฐฯ กำลังแข่งกันลดปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ และทั่วโลกเริ่มมีนโยบายลดภาวะโลกร้อนที่กำลังเป็นเทรนด์ในตอนนี้

 

ตัวอย่างกองทุน ESG ที่มีนโยบายเน้นการลงทุนอย่างยั่งยืน

    • MRENEW
    • WE-GSECURE
    • K-CHANGE
    • UESG

 

เจาะธีมเมกะเทรนด์ที่มาแรง โดย คุณรัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายหลักทรัพย์ต่างประเทศและฟิวเจอร์ส บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

 

3. Health Care

เนื่องจากผู้คนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น มีเทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุนและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เปิดโอกาสในการเข้าถึงยิ่งขึ้น

  • กลุ่มยา (Pharmaceutical)
  • กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)
  • กลุ่มเครื่องมือแพทย์ (Health Care Devices)
  • กลุ่มบริการทางการแพทย์ (Health Care Services)
  • กลุ่มประกันสุขภาพ (Health Insurance)
  • กลุ่มเทคโนโลยีการแพทย์ (Data Management & IT)

 

ตัวอย่างกองทุน Health Care

    • BCARE (Global Healthcare)
    • K-GHEALTH (Global Healthcare)
    • TBIOTECH (Biotech)
    • PRINCIPAL GHEALTH (HealthTech)

 

 

4. ธีมหุ้นรับการฟื้นตัวเศรษฐกิจ และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นในวันข้างหน้า

สถาบันการเงิน ไฟแนนซ์ และฟินเทค

กองทุนที่ลงทุนในประเทศเวียดนาม** ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา มีดอกเบี้ยสูง เศรษฐกิจเติบโตไว

ตัวอย่างกองทุนเวียดนาม

    • E1VFVN3001 (ตัวนี้เป็น ETF ต้องซื้อกองทุนนี้ในตลาดหลักทรัพย์)
    • K-VIETNAM
    • PRINCIPAL VNEQ-A
    • ASP-VIET

 

 

5. กองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก

สินทรัพย์ทางเลือกจะเติบโตพร้อมกับเงินเฟ้อ ซึ่งหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวเงินเฟ้อมาแน่ ได้แก่ สินทรัพย์ดิจิทัล ทอง น้ำมัน กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งควรมีสัดส่วน 10-20% ของพอร์ตการลงทุน

 

ตัวอย่างกองทุนสินทรัพย์ทางเลือก

    • SCBGOLDH (ทองคำ)
    • K-GOLD (ทองคำ)
    • TISCOOIL (น้ำมัน)

 

 

 

อย่างไรก็ตาม “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน”

สำหรับมือใหม่หัดลงทุนกินอยู่เป็นแนะนำให้ศึกษาจากบทความเก่าๆ ควบคู่กัน และควรใช้เงินเย็นในการลงทุน เพื่อไม่ให้เกิดกระทบกับชีวิตประจำวันเมื่อเกิดวิกฤตฉุกเฉิน เพราะการลงทุนในความรู้ จะช่วยลดความเสี่ยงไปได้มาก

 

กินอยู่เป็นของขอบคุณที่มาจาก

kinyupen