ความยากจนและการไม่รู้หนังสือมักจะมาคู่กัน การเข้าถึงการศึกษาในพื้นที่ยากจนมักมีน้อยกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ครอบครัวที่ยากจนอาจต้องการให้ลูกๆ ทำงานและหาเงินแทนที่จะไปโรงเรียน ประเทศที่มีอัตราการรู้หนังสือต่ำที่สุดส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเอเชียใต้ เอเชียตะวันตก และแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่รวมถึงประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกส่วนใหญ่ หากเราโฟกัสลงมาให้ชัดเจนขึ้นคือในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนบ้านเรา 11 ประเทศ การรู้หนังสือในแต่ละประเทศจะเป็นไงบ้าง แล้วไทยจัดอยู่ในลำดับที่เท่าไหร่ ตามกินอยู่เป็น มาดูไปพร้อมๆ กัน
ความสามารถในการอ่านออกและเขียนได้ (Literacy) ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการกำหนดเส้นทางอาชีพของบุคคล เพราะผู้ที่อ่านและเขียนได้มีทางเลือกในการทำงานมากมาย โดยเฉพาะอาชีพที่ต้องใช้ทักษะสูงและมีรายได้สูง ในทางตรงข้ามสำหรับผู้ที่อ่านและเขียนไม่ได้ ทางเลือกนั้นมีจำกัดมาก แม้แต่การหางานที่ไม่ต้องใช้ทักษะและมีค่าจ้างขั้นต่ำก็ยังหาได้ยาก
จากข้อมูล Literacy Rate by Country 2024 ของ World Population Review ระบุว่า อัตราการรู้หนังสือของคนที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ในแต่ละประเทศมีความแตกต่างอย่างมาก โดยในประเทศที่พัฒนาแล้วมีอัตราการรู้หนังสือที่ 96% ขึ้นไป ในทางตรงกันข้าม ประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดมีอัตราการรู้หนังสือเฉลี่ยเพียง 65% ยังมีช่องว่างระหว่างเพศในการรู้หนังสืออีกด้วย โดยในจำนวนผู้ใหญ่ประมาณ 781 ล้านคนทั่วโลกที่อ่านหรือเขียนหนังสือไม่ได้ เกือบสองในสามเป็นผู้หญิง ความแตกต่างนี้เห็นได้ชัดโดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาน้อยกว่า ซึ่งผู้หญิงมักถูกคาดหวังให้อยู่บ้านและดูแลบ้านและลูกๆ ในขณะที่ผู้ชายออกไปทำงาน ประเทศที่พัฒนาแล้วของโลกมีอัตราการรู้หนังสือสูงกว่ามาก โดยมีช่องว่างระหว่างเพศน้อยกว่า
อันดับการรู้หนังสือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภาพรวมที่ครอบคลุมอัตราการรู้หนังสือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภูมิภาคต่อการศึกษาและการพัฒนา ข้อมูลจากธนาคารโลกระบุอัตราการรู้หนังสือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนี้
1.บรูไน : 98% (ข้อมูลปี 2021)
2.สิงคโปร์ : 98% (ข้อมูลปี 2021)
3.เวียดนาม : 96% (ข้อมูลปี 2022)
4.ฟิลิปปินส์ : 98% (ข้อมูลปี 2020)
5.อินโดนีเซีย : 96% (ข้อมูลปี 2020)
6.มาเลเซีย : 96% (ข้อมูลปี 2022)
7.ไทย : 91% (ข้อมูลปี 2022)
8.เมียนมาร์ : 89.1% (ข้อมูลปี 2019)
9.กัมพูชา : 84% (ข้อมูลปี 2022)
10.ลาว : 88% (ข้อมูลปี 2022)
11.ติมอร์-เลสเต : 70% (ข้อมูลปี 2020)
หมายเหตุ : การเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านออกเขียนได้แบบประเทศต่อประเทศเป็นแบบประมาณการ สาเหตุหลักมาจากปัจจัย 2 ประการ ได้แก่ ประเทศต่างๆ ไม่ได้รายงานความสามารถในการอ่านออกเขียนได้ทุกปี และหลายประเทศมีคำจำกัดความที่ไม่ตรงกันว่าอะไรคือความสามารถในการอ่านออกเขียนได้
การจัดอันดับนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงสถานะปัจจุบันของการรู้หนังสือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงทุนด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนมีโอกาสพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน ในขณะที่ภูมิภาคนี้เติบโตและพัฒนาต่อไป การเน้นที่การศึกษาจะเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประชากรที่รู้หนังสือและได้รับข้อมูลมากขึ้น
ประเทศที่มีคนรู้หนังสือมากที่สุดในโลก
1.ยูเครน 100%
2.อุซเบกิสถาน 100%
3.เกาหลีเหนือ 100%
4.คาซัคสถาน 100%
5.อาเซอร์ไบจาน 100%
6.ฟินแลนด์ 100%
7.นอร์เวย์ 100%
8.จอร์เจีย 100%
9.ลักเซมเบิร์ก 100%
10.กวม 100%
10 ประเทศที่มีคนรู้หนังสือน้อยที่สุดในโลก
1.ชาด 27%
2.มาลี 31%
3.ซูดานใต้ 34.5%
4.อัฟกานิสถาน 37.3%
5.สาธารณรัฐแอฟริกากลาง 37.5%
6.ไนเจอร์ 38%
7.โซมาเลีย 41%
8.กินี 45.3%
9.บูร์กินาฟาโซ 46%
10.เบนิน 47%
ขอบคุณรายงานข่าวจาก : bangkokbiznews
ที่มา : World Bank, World Population Review