ลืมการท่องเที่ยวแบบเดิมๆ ไปเลย เพราะตอนนี้เทรนด์การเที่ยวที่มาแรงและได้รับความนิยมจากเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen Y และ Gen Z หรือคนรุ่นใหม่ เค้าให้ความสนใจกับการเที่ยวที่ไม่เหมือนมาเที่ยว ว่าแต่มันคือการเที่ยวแบบไหน ตาม กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต มาดูไปพร้อมกัน
ก่อนอื่นพาทุกคนมาทำความรู้จัก “Sleep Tourism” หรือการท่องเที่ยวเพื่อการนอน พักผ่อน รีแล็กซ์ ฟิลลิ่งแบบมาชาร์จพลังให้กับร่างกายที่เหนื่อยล้าและจิตใจให้กับตัวเอง เพราะตั้งแต่หลังโควิด-19 กลุ่มคนรุ่นใหม่ก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้เทรนด์การท่องเที่ยวแบบ “Sleep Tourism” เป็นที่นิยมและมีอัตราเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้นักท่องเที่ยวมองหาโรงแรม ที่พัก ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เน้นท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่น เพราะต้องการความสงบ ไม่วุ่นวายเหมือนช่วงไฮซีซั่น
รูปแบบของ Sleep Tourism ที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ชื่นชอบ ได้แก่ โรงแรมที่มีความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่แบ่งแยกชัดเจน มีมุมพักผ่อนที่เงียบสงบ หรือบางเคสอาจเลือกนอนชาร์จพลังแบบแคมป์ปิ้ง ในสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน บนเขา บนดอย หรืออุทยานที่เงียบสงบ อยู่กับธรรมชาติ พักผ่อนได้แบบปล่อยจอย และปล่อยใจไปกับบรรยากาศตรงหน้า
เพราะสุดท้ายแล้ว การได้นอนเต็มอิ่ม แบบไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่ทำให้กวนใจในชีวิตประจำวัน เปรียบเสมือนการได้ออกมาชาร์จพลัง รีบูสต์อุปกรณ์ทุกชิ้นส่วนของร่างกายอีกครั้ง เหมือนได้รางวัลพิเศษที่ไม่ได้มีบ่อย ๆ ดังนั้น อย่าปล่อยให้ช่วงเวลานี้หมดไปกับความเหนื่อยล้าในการเดินทาง สภาพอากาศ หรือหมดไปกับอะไรๆที่ทำให้เราไม่โอเค เพราะฉะนั้น … ไปเที่ยวกันเถอะ