เชื่อว่า หลายคนคงเดากันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็คิดว่า น่าจะเป็นจีนเนอะ ถ้าคิดจากกำแพงเมืองจีน สุสานจิ๋นซี อารยธรรมอันยาวนานกว้างใหญ่ไพศาล ก็น่าจะจีนนี่แหละ ประเทศที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
บางคนอาจจะตอบว่า ต้องเป็นประเทศในยุโรป อย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส หรืออิตาลี ไม่งั้นก็ต้องเป็นประเทศกรีซ หรืออียิปต์ ภาพของมัมมี่ ปิรามิด หรือชุดนักรบโบราณสมัยเมโสโปเตเมีย อายุอานามน่าจะมีหลายพันปี ต้องใช่แน่ๆ
แต่..เป็นคำตอบที่ผิดหมด
เพราะ ประเทศที่เก่าแก่ที่สุดในโลก คือ อิหร่าน
อิหร่าน มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน เป็นประเทศในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ มีเขตแดนติดกับประเทศอาร์มีเนียและประเทศอาเซอร์ไบจานทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดประเทศคาซัคสถานและรัสเซียโดยมีทะเลแคสเปียนคั่น ติดประเทศเติร์กเมนิสถานทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดประเทศอัฟกานิสถานและปากีสถานทางทิศตะวันออก ติดอ่าวเปอร์เซียและอ่าวโอมานทางทิศใต้ และติดประเทศตุรกีและประเทศอิรักทางทิศตะวันตก
เป็นประเทศใหญ่ที่สุดอันดับที่สองในตะวันออกกลางและอันดับที่ 18 ในโลก มีประชากร 78.4 ล้านคน มากที่สุดเป็นอันดับที่ 17 ของโลก เป็นประเทศเดียวที่มีชายฝั่งทะเลแคสเปียนและมหาสมุทรอินเดีย
อิหร่านเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมหลากหลายที่มีกลุ่มชาติพันธุ์และภาษาต่าง ๆ มากมาย เปอร์เซียที่ใหญ่ที่สุด (61%) อาเซอร์ไบจาน (16%), เคิร์ด (10%) และ Lorestan (6%)[11]
อิหร่านเป็นที่ตั้งของอารยธรรมเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เริ่มต้นด้วยการตั้งราชอาณาจักรก่อนเอลาไมต์และเอลาไมต์ใน 3200–2800 ปีก่อน ค.ศ. ชาวมีดส์ (Medes) อิหร่านรวบรวมพื้นที่เป็นจักรวรรดิแห่งแรก ๆ ใน 625 ปีก่อน ค.ศ. ขอย้ำ.. ก่อนมีคริสต์ศักราชถึงกว่า 600 ปี เสียด้วยซ้ำ
หลังจากนั้น มีดส์กลายเป็นชาติวัฒนธรรมและการเมืองที่ครอบงำในภูมิภาค อิหร่านเรืองอำนาจถึงขีดสุดระหว่างจักรวรรดิอะคีเมนิด ซึ่งพระเจ้าไซรัสมหาราชทรงก่อตั้งใน 550 ปีก่อน ค.ศ. ซึ่งเมื่อแผ่อาณาเขตไพศาลที่สุดนั้นล้วนกินส่วนสำคัญของโลกโบราณ ตั้งแต่บางส่วนของคาบสมุทรบอลข่าน (เธรซ มาซิโดเนีย บัลแกเรีย พีโอเนีย) และยุโรปตะวันออกทางทิศตะวันตก จดลุ่มแม่น้ำสินธุทางทิศตะวันออก ทำให้เป็นจักรวรรดิใหญ่สุดในโลกในขณะนั้น จักรวรรดิล่มสลายใน 330 ปีก่อน ค.ศ. ให้หลังการพิชิตของอเล็กซานเดอร์มหาราช จักรวรรดิพาร์เธียกำเนิดขึ้นจากเถ้าถ่านแล้วต่อด้วยราชวงศ์แซสซานิดใน ค.ศ. 224 ซึ่งอิหร่านกลายเป็นชาตินำในโลกอีกครั้ง ร่วมกับจักรวรรดิโรมัน-ไบแซนไทน์ เป็นเวลากว่าสี่ศตวรรษ
ค.ศ. 633 มุสลิมรอชิดีน (Rashidun) บุกครองอิหร่านและพิชิตได้ใน ค.ศ. 651 ซึ่งเข้าแทนที่ความเชื่อพื้นเมืองศาสนามาณีกีและศาสนาโซโรอัสเตอร์เป็นส่วนใหญ่ อิหร่านเป็นผู้มีส่วนสำคัญต่อยุคทองอิสลาม โดยผลิตนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ ศิลปินและนักคิดทรงอิทธิพลจำนวนมาก การสถาปนาราชวงศ์ซาฟาวิดใน ค.ศ. 1501 ซึ่งส่งเสริมนิกายอิสนาอะชะรียะห์ (Twelver) เป็นศาสนาประจำชาติ เป็นเครื่องหมายจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดจุดหนึ่งในประวัติศาสตร์อิหร่านและมุสลิม เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1736 ภายใต้ชาห์นาเดอร์ อิหร่านมีอาณาเขตกว้างขวางที่สุดนับแต่จักรวรรดิแซสซานิด โดยเป็นจักรวรรดิที่แย้งได้ว่าทรงอำนาจที่สุดในโลกในเวลานั้นช่วงสั้น ๆ ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 อิหร่านเสียดินแดนหลายส่วนในคอเคซัส ซึ่งถูกทำให้เป็นส่วนหนึ่งของมโนทัศน์อิหร่านหลายศตวรรษแก่จักรวรรดิรัสเซียเพื่อนบ้าน ความไม่สงบของประชาชนลงเอยด้วยการปฏิวัติรัฐธรรมนูญเปอร์เซีย ค.ศ. 1906 ซึ่งสถาปนาราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญและมาฮ์จิส (Majles) หรือรัฐสภาแห่งแรกของประเทศ หลังรัฐประหารที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาปลุกปั่นใน ค.ศ. 1953 อิหร่านค่อย ๆ กลายเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกที่เหลือ จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติอีกครั้งเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้มีการสถาปนาสาธารณรัฐอิสลามเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1979
ฟังประวัติศาสตร์ชาติอิหร่านแล้ว อาจจะฟังดูยุ่ง ๆ ห่างไกลความคุ้นเคย แต่ถ้าถามว่า ความเก่าแก่ของอิหร่านอยู่ตรง ณ จุดที่ตั้งของประเทศอิหร่าน ประเทศนี้ก็มีอารยธรรมที่เก่าแก่น่าค้นหา น่าเที่ยวชม ว่ากันว่า เฉพาะสถานที่สำคัญที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ ให้เป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม มีอยู่ถึง 22 แห่ง แถมด้วยแหล่งมรดกทางธรรมชาติอีก 2 แหล่ง
ยกตัวอย่างแหล่งสำคัญ ๆ ที่เป็นสถานที่มีชื่อเสียง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เช่น
1.วังสวนกุหลาบ (Golestan Palace) เป็นหนึ่งในสถานที่ประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอิหร่าน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยคริสต์วรรษที่ 16 ความโดดเด่นของพระราชวังแห่งนี้ คือ ความงดงามในการตกแต่งภายในด้วยกระจกเงาตัดเหลี่ยมแบบเพชร และการตกแต่งภายนอกด้วยกระเบื้องเคลือบสุดอลังการ
2. เมืองเพอร์ซีโพลิส(Persepolis) เป็นเมืองโบราณที่สร้างขึ้นช่วงก่อนคริสต์ศักราช 522-486 ปี สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ สร้างขึ้นมาจากหินและดิน ปัจจุบันยังคงเหลือซากปรักหักพัง แนวที่ตั้งของเมืองเก่ามีเสาอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตั้งตระหง่านท้าลมท้าฝนมาหลายพันปี พร้อมภาพแกะสลักหินอันงดงามอยู่รอบ ๆ อีกหลายจุด
3. จัตุรัสอิหม่าม หรือ (Imam Square) เป็นศูนย์กลางของโลกในยุคกลาง ยิ่งใหญ่อลังการ โดยเฉพาะบรรดาสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่รายล้อมทั้งสี่ทิศของจัตุรัสอิหม่ามนั้น คือ มรดกแห่งอารยธรรมเปอร์เซียที่แท้จริง ทั้งมัสยิด Sheikh Lotfollah พระราชวัง Ali Qapu สะพาน Si-o-Seh Pol และ มัสยิด Sheikh lotfollah
4. ปิระมิด (Chogha Zanbil) เป็นปิระมิดขั้นบันใดที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,250 ปี ก่อนคริสตกาล แต่ยังคงมีความสวยงามและมีความสมบูรณ์มาก และเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่อยู่ห่างจากบริเวณเมโสโปเตเมีย สร้างโดยกษัตริย์ Untash-Napirisha ของอาณาจักร Elamite เพื่อเป็นเทวสถานบูชาเทพอินชุชีนัคซ์ Inshushinak รูปแบบอาคารเป็นศิลปะอีแลมไมท์โบราณ
5. ปาซาร์กาด (Pasargadae) เป็นเมืองหลวงแรกของเปอร์เซียในราชวงศ์อาเคเมเนียน โดยจักรพรรดิไซรัส ก่อนจะย้ายไป Persepolis เป็นโบราณสถานที่มีพื้นที่ 1.6 ตารางกิโลเมตร มีอนุสรณ์สถานที่เชื่อกันว่าเป็นหลุมฝังศพของจักรพรรดิไซรัส และมีการค้นพบซากของสุสานของลูกชายของไซรัสใกล้กับป้อม Toll-e Takht
6. ตลาดนัดทาบริซ (Tabriz Historic Bazaar Complex) เป็นตลาดสดที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตลาดสดเก่าแก่แห่งนี้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าที่สำคัญที่สุดบนเส้นทางสายไหม มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในศตวรรษที่ 16
7. ทะเลทรายลูท (Lut Desert) เป็นทะเลทรายขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองเคอร์มัน(Kerman) ครอบคลุมอาณาเขตกว้างใหญ่ราว 480 ตารางกิโลเมตร ที่นี่ขึ้นชื่อว่า เป็นสถานที่ๆมีพื้นผิว “ร้อนที่สุดในโลก” ด้วยอุณหภูมิ 70.7 องศาเซลเซียส ทัศนียภาพด้านธรณีวิทยาน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเต็มไปด้วยโตรกผาหินและทุ่งเนินทราย
ยกมาแค่ 7 สถานที่ไฮไลต์ของอิหร่าน เชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากไปเห็นกะตาว่า เก่าแก่ อลังกา สวยงามขนาดไหน
แต่สถานการณ์ปัจจุบันที่อิสราเอลยังโจมตีฮามาส บานปลายไปประเทศข้างเคียง แถมอิหร่านก็ได้ยินว่า มีส่วนเกี่ยวข้อง สนับสนุนกลุ่มฮามาสอยู่
ดังนั้น ตอนนี้ไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง ที่จะไปเยือนแถว ๆ นั้น
อดใจไปก่อน สักวันคงได้ไปเยือนดินแดนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก