ปวดหลัง ปวดคอ ปวดบ่า ไหล่ ลามไปถึงการปวดศีรษะ อาการยอดฮิตในหมู่นักท่องเน็ต
ไม่เฉพาะแต่ผู้สูงวัย หรือเริ่มมีอายุมากเท่านั้น เด็กรุ่นใหม่ วัยรุ่น คนวัยทำงานอายุไม่มาก ต่างต้องไปพบแพทย์เพื่อบำบัดอาการดังกล่าว เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบันที่ก้มดูจอมือถือ หรือผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ นั่งโต๊ะนานๆ โดยไม่เปลี่ยนท่า
โรคนี้มีชื่อว่า “ออฟฟิศซินโดรม”
พญ.โสภาทิพย์ ฤกษ์ม่วง ได้ให้ข้อมูลไว้ใน เว็บไซต์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ว่าสาเหตุหลักของโรคนี้ได้แก่
1.นั่งทำงานด้วยท่าทางไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน เช่น นั่งห่อไหล่ขณะพิมพ์คีย์บอร์ด
2.นั่งก้มหรือจ้องจอคอมพิวเตอร์, ใช้สมาร์ตโฟนเป็นเวลานาน
3.ยืนหรือนั่งหลังค่อม คอยื่น ไหล่งุ้ม หรือนั่งไขว่ห้างเป็นประจำ
4.สะพายกระเป๋า หรือยกของหนักเป็นเวลานาน
สำหรับอาการของออฟฟิศซินโดรม มีดังนี้
ปวด ตึง หรือเมื่อยล้ากล้ามเนื้อเฉพาะส่วน เช่น บริเวณต้นคอ บ่า ไหล่ หลัง สะบัก
อาจมีอาการปวดร้าวไปบริเวณใกล้เคียงร่วมด้วย
ปวดร้าวขึ้นศีรษะ ตาพร่ามัว หูอื้อ
อาการที่เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ เช่น มือชา นิ้วชา แขนชา
คำแนะนำในการดูแลเพื่อไม่ให้เกิดอาการดังกล่าว
ปรับสภาพแวดล้อม ปรับระดับจอคอมพิวเตอร์ เลือกใช้โต๊ะและเก้าอี้ทำงานให้เหมาะสมกับสรีระร่างกาย
ไม่ควรนั่งทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรพักอย่างน้อยทุก 30-60 นาที บริหารร่างกายเพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อยึดเกร็ง
ออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
หากอาการเป็นเรื้อรัง หรือมีอาการปวดเพิ่มมากขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่อเข้ารับการตรวจประเมิน รักษา หรือทำกายภาพบำบัด รวมทั้งให้คำแนะนำเรื่องการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี
