8 ปีผ่านไป เราเห็นอะไรกันบ้าง.. ? กับรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา มีหลายๆ โครงการที่ต้องขอบอกว่า “Touch ใจ” ชาวบ้านชาวช่องพอสมกควร อย่างเช่น โครงการ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ที่มาในช่วงข้าวยากหมาก(น้ำมัน)แพ๊งแพงงง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต ขอพาพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน (ทำเสียงแบบนักการเมือง) มาเจาะ(แบบเกือบลึก) ถึงบัตรนี้กันค่ะ
ยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ยืนยาวมาใกล้จะครบ 8 ปี มีผลงานที่โดดเด่น และทำอย่างต่อเนื่อง นั่นก็คือ การจัดหาสวัสดิการ ความช่วยเหลือด้านค่าครองชีพให้กับคนจน หรือผู้มีรายได้น้อย โดยการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งประเมินว่า รัฐมีการใช้จ่ายเงินงบประมาณ สำหรับช่วยเหลือให้สวัสดิการกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถึงเดือนละ 6,000-7,000 ล้านบาท
ซึ่งใน ปี 2566 กรมบัญชีกลาง โดยนางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง ได้มีการสรุปสิทธิประโยชน์ หรือเงินช่วยเหลือที่หน่วยงานและร้านค้าที่รับชำระค่าสินค้าและบริการ ให้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไว้ดังนี้
ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
– วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน
– วงเงินซื้อสินค้า ตามมาตรการช่วยเหลือเงินพิเศษ 200 บาทต่อเดือน (เฉพาะเดือนมกราคม 2566)
– ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค. – มี.ค. 66)
– ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
* ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
* ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
* ค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)
ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
– เงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ กฟน. กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
– เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้ลงทะเบียนกับ กปน. กปภ. ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท (ที่ได้ชำระเงินแล้ว) ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)
ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)
แต่ช้าก่อน..ไม่ใช่ว่า ทุกคนจะได้สิทธินี้
ผู้ที่มีคุณสมบัติ ในการรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องเข้าเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
1.มีสัญชาติไทย
2.อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
3.เป็นผู้ว่างงาน หรือมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
4.ไม่มี หรือมีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร สลากออมสิน สลากธ.ก.ส. พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท
5.ไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือถ้ามี กำหนดให้เป็นกรณีอยู่อาศัย ต้องมีพื้นที่ไมเกิน 25 ตารางวา หรือห้องชุดไม่เกิน 35 ตารางเมตร หรือที่ดินเกษตรกรรม ไม่เกิน 15 ไร่
ถ้าใครคิดว่า เข้าข่ายได้สิทธิ รอลงทะเบียนได้เลย เพราะสิทธิประโยชน์รัฐจัดเต็มมาก