เมื่อกิน คือ เรื่องใหญ่ของชีวิต กินอย่างไร  ถึงเรียกว่า กิน อยู่ เป็น

เพราะกินอยู่เป็น 360  องศาแห่งการใช้ชีวิต เชื่อว่า การกิน  การอยู่ และการใช้ชีวิตให้เป็น คือเรื่องสำคัญ ส่งผลต่อสุขภาพ และการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และยืนยาว วันนี้จึงขอนำบทความของ ศุภวุฒิ สายเชื้อ  ที่ว่าด้วยเรื่องการกินเพื่อสุขภาพที่ดี มาบอกต่อ

สิ่งที่น่าสนใจในบทความคือ มีการพูดถึง ประโยชน์ ของวิธี “กินลดความอ้วน” ที่กำลังนิยมกันอยู่ในปัจจุบัน ทั้ง KETO ที่เป็นการกินเพื่อลดน้ำหนัก  เน้นกินอาหารจำพวกไขมันและโปรตีนเป็นหลัก และลดสัดส่วนการกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต  จำพวกแป้ง ข้าวและน้ำตาล ให้เหลือเพียง 5% หรือแค่ 20-50 กรัมต่อวัน หรือแทบจะไม่มีอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหารเลย เพื่อให้เกิดภาวะคีโตซิส (Ketosis) หรือ ภาวะที่ร่างกายนำพลังงานจากไขมันในร่างกาย

 กับ วิธีกินแบบ Intermittent Fasting  หรือที่เราคุ้นกับคำว่า IF โดยวิธีนี้ จะไม่ต้องอดอาหารมากเกินไป หรือทานมากเกินไป แต่ต้องงดขนมหวานอย่างเด็ดขาด ร่วมกับการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ วิธีแบบ IF ที่นิยมคือ จำกัดเวลาทานอาหาร 8 ชั่วโมง และอดอาหาร 16 ชั่วโมง

หลักการแรก ก่อนเลย คือ ไม่ว่าจะวิธีไหน ควรเลือกกิน อาหารที่รสไม่จัด คือ หวานน้อย เค็มน้อย  มันน้อย ควรมี ผัก ผลไม้ กับโปรตีนจากเนื้อปลา หรือเนื้อไก่ เน้นกินอาหารที่มีกากใยโดยเฉพาะกลุ่มที่ละลายน้ำได้ (Soluble dietary fiber) อย่างเช่นพวกธัญพืชที่ขัดสีน้อย  ถั่วเมล็ดแห้งอย่างถั่วแดงหลวง ผลไม้ก็มีส้ม ฝรั่ง แอปเปิ้ล ลูกพรุน หรือสตรอว์เบอร์รี่ เป็นต้น เพราะอาหารประเภทนี้จะพองตัวเป็นเจลในลำไส้ ทำให้ลำไส้ดูดซึมช้าลง ลดการดูดซึมน้ำตาล แต่ถ้ากินประเภทกากใยไม่ละลายน้ำ(Insoluble dietary fiber)  อย่าง ข้าวกล้อง ข้าวโพด เผือก มัน ถั่วเปลือกแข็ง หรือขนมปังโฮลวีท กลุ่มนี้จะทำให้อิ่มเร็ว ลำไส้บีบตัวดี ช่วยขับถ่าย

ในบทความของศุภวุฒิ สายเชื้อได้กล่าวอ้างอิงถึงงานวิจัยของสหรัฐอเมริกา มีการศึกษาจากการติดตามพฤติกรรมของกลุ่มคนยาวนาน 25 ปี พบว่า คนที่กินคาร์โบไฮเดรต ไม่ว่าจะมากไปหรือน้อยไป มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากกว่าคนที่เดินสายกลาง และคนที่กินโปรตีนจากพืช จะลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตน้อยกว่ากลุ่มชอบกินเนื้อสัตว์  (ไม่น่า พวก Plant Based Food  ถึงได้รับความนิยมและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ )

ส่วนกลุ่มที่นิยมใช้วิธีกินแบบ IF หรือที่ต่างประเทศ เรียกกันว่า Time Restricted Eating (TRE) นั้นพบว่าหากกินอาหารในช่วงเช้า จะดีกว่าทั้งในด้าน การเผาผลาญแคลอรี  หิวน้อยกว่า รวมถึง ระดับความดันโลหิต และระดับน้ำตาลในเลือด จะดีกว่ากลุ่มที่กิน IF โดยเริ่มช่วงบ่าย หรือ กินอาหารแบบไม่จำกัด

จากบทความนี้ อย่างน้อย ก็ได้วิธี กิน อยู่ เป็น ว่าทำอย่างไรให้มีสุขภาพดี หากผู้เขียนได้ฝากไว้ คือ ผู้สูงอายุต้องระวังไม่ลดการกินโปรตีนมากเกินไป  เพราะสำคัญต่อมวลกล้ามเนื้อ รวมถึงผู้มีภาวะเบาหวาน อาจต้องปรึกษาแพทย์เพราะจะเกี่ยวกับ อาการน้ำตาลตก หรือภาษาแพทย์คือภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ที่จะส่งผลให้ใจสั่น  ตาลายได้