คำเตือนและข่าวร้ายมาซ้ำอีกครั้ง เวิลด์แบงก์ลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ เหลือ 2.9% จากพิษภัยหลายด้าน ทั้งสงคราม และเงินเฟ้อ ที่จะทำให้ชะงักกันไปทั้งโลก
ธนาคารโลก (World Bank) แถลงเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ เหลือ 2.9% จากเมื่อเดือนมกราคมที่คาดไว้ 4.1% เป็นผลกระทบจากสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันและสินค้าทั่วโลกปรับสูงขึ้น โดยธนาคารโลกเตือนว่า โลกจะเผชิญกับการขยายตัวที่ย่ำแย่ และราคาสินค้าสูงขึ้น ไปอีกหลายปี และจะทำให้หลายประเทศลำบากมากที่จะฟื้นตัวจากเศรษฐกิจที่ทรุดตัวจากสถานการณ์โควิด
คำเตือนที่น่าวิตกคือ โลกจะเจอกับภาวะ stagflation หรือเศรษฐกิจชะงักงันจากปัญหากับดักเงินเฟ้อ เหมือนกับยุคทศวรรษ 1970 ที่ทั้งราคาน้ำมันพุ่งสูงสกัดกั้นการขยายตัว และราคาสินค้าต่างๆ พุ่งสูงจากภาวะเงินเฟ้อ
“ความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจชะงักงันและเงินเฟ้อจะกัดกร่อนเสถียรภาพของชาติเศรษฐกิจรายได้ปานกลางและรายได้น้อยตามมาอีก ประชาชนหิวโหยหนักขึ้น ถึงขั้นเกิดภาวะข้าวยากหมากแพงในบางพื้นที่ หากมีผลเลวร้ายที่สุด การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในอีกสองปีข้างหน้า จะเข้าสู่การดิ่งถึงศูนย์” นายเดวิด มัลพาสส์ ประธานเวิลด์แบงก์กล่าว
สถานการณ์โรคระบาดโควิดที่กินเวลา 3 ปี ผนวกกับผลกระทบจากวิกฤติซ้อนขึ้นอีก ได้แก่ สงครามรัสเซีย-ยูเครน และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี ทำให้นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่า สถานการณ์เศรษฐกิจที่เลวร้าย ภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี ค.ศ.1970 จะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง