บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์อีวี ที่จะเผยต่อสาธารณชนในเดือนตุลาคมนี้ โดยรถไฟฟ้ารุ่นล่าสุดผลิตในประเทศญี่ปุ่นและจะถูกนำออกขายในราคาคันละราว 4.5 ล้านเยน (42,000 ดอลลาร์ หรือราว 135,000 บาท ) โดยฮอนด้าตั้งเป้าหมายที่จะขายรถยนต์ขนาดกะทัดรัดซึ่งติดตั้งกล้องแทนกระจกมองข้างให้กับผู้บริโภคในเมืองเป็นหลัก
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้า นี้มีชื่อเรียกว่ารุ่น Honda e สามารถเดินทางได้ 300 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยถือว่าเป็นการเดินทางที่สั้นกว่าเมื่อเทียบกับรถ EV ชนิดอื่นของคู่แข่งเนื่องจาก โดยฮอนด้าระบุว่าจะให้ความสำคัญกับความกะทัดรัดบังคับให้ลดขนาดและความจุของแบตเตอรี่ ในส่วนของตัวรถก็มีขนาดความยาวไม่ถึง 4 เมตร
สำหรับรถรุ่นนี้จะติดตั้งระบบจอดรถใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในพื้นที่แคบ ซึ่งฮอนด้าเชื่อว่าเป็นจุดขายสำคัญ เพราะผู้คนในเมืองส่วนใหญ่ต้องการรถที่มีขนาดเล็ก หาที่จอดรถได้ง่ายกว่า และทำให้มันกลายเป็นจุดดึงดูดใจของผู้ที่กำลังสนใจจะหันมาใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางในเมือง
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังออกแบบให้กระจกมองข้างทั้งสองข้างของรถถูกถอดออก แต่ผู้ขับสามารถมองเห็นด้านหลังของรถได้จากบนหน้าจอภายในผ่านกล้อง ฮอนด้าอ้างว่าภาพที่แสดงจะชัดเจนแม้จะมองผ่านสายฝนที่ตกหนักก็ตาม และรถมีแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลซึ่งประกอบด้วยหน้าจอห้าจอที่จัดวางในแนวนอนเพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
ปัจจุบันเทรนด์การใช้รถไฟฟ้ากำลังกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของผู้ผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น นิสสัน ที่เปิดตัวรถรุ่น Ariya ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ Toyota Motor เปิดตัว EV คันแรกจากแบรนด์หรู Lexus ในประเทศจีนในฤดูใบไม้ผลินี้ รถยนต์คันนี้จะเข้าสู่โชว์รูมในยุโรปในช่วงฤดูร้อนและในญี่ปุ่นในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 นอกจากนี้ Mazda ยังจะเปิดตัว EV ที่ผลิตจำนวนมากเป็นครั้งแรกในยุโรปภายในสิ้นปีนี้ตามด้วยการเปิดตัวในญี่ปุ่น
จากข้อมูลของ บริษัท วิจัย LMC Automotive ในสหราชอาณาจักรพบว่าปัจจุบันมียอดขายรถ EV ทั่วโลกถึง 1.67 ล้านคันในปี 2562 เนื่องจากยุโรปและประเทศอื่น ๆ เข้มงวดเรื่องกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมยอดขาย EV คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9 เท่าจากปีที่แล้ว
รถคันนี้จะวางตลาดเป็นรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรวมถึงในยุโรปซึ่งเริ่มจำหน่าย Honda e ในช่วงซัมเมอร์นี้ ในญี่ปุ่นฮอนด้าวางแผนที่จะขาย 1,000 คันในปีแรกโดยมีเป้าหมายยอดขายในประเทศและยุโรปรวมกัน 10,000 คันHonda ตั้งเป้าที่จะมี EVs และรถไฮบริดซึ่งเป็น 2 ใน 3 ของรถที่ขายทั่วโลกภายในปี 2030 โดยขาย EV ในประเทศจีนไปแล้ว แต่ Honda e ถือเป็น EV คันแรกของ บริษัท ที่จะนำไปใช้ทั่วโลก
