เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย…ช่วงนี้บ้านเราก็กำลังเปลี่ยนผ่านจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน จึงเริ่มมีฝนตกชุกมากขึ้นส่งผลให้สภาพอากาศมีความชื้นสูงตามไปด้วย เอื้อต่อการระบาดของโรคตามฤดูกาล โดยเฉพาะ ไข้หวัดใหญ่ และ ไข้เลือดออก ที่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการป่วยรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต (อ่านประกอบ : สาธารณสุขเตือน! “ยุงลาย” ต้องเร่งกำจัด ตัดวงจรไข้เลือดออกระบาด ซ้ำเติมโควิด-19)
ล่าสุด กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ออกมาเตือนว่า ในช่วงฤดูฝนนี้ให้หมั่นดูแลรักษาสุขภาพให้ดี โดยเฉพาะผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง หรือ มีภูมิต้านทานน้อย ยิ่งมีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจได้ง่าย โดยเฉพาะ “ไข้หวัดใหญ่” ซึ่งกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว เพราะหากป่วยจะมีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
ไข้หวัดใหญ่ VS ไข้หวัด อาการต่างกันอย่างไร
“โรคไข้หวัดใหญ่” เกิดเชื้อ Influenza Virus ซึ่งสายพันธุ์ที่พบในมนุษย์ คือ สายพันธุ์ A, B และ C การติดต่อเกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากปากและการหายใจ มักพบการระบาดในสถานที่แออัด หรือ ชุมชน
อาการของไข้หวัดใหญ่มักเกิดขึ้นแบบฉับพลันทันที และที่สำคัญคือ ไข้หวัดใหญ่มักมีไข้สูงติดกันหลายวันโดยเฉพาะในเด็กจะมีไข้สูงลอยเกินกว่า 39-40 องศาเซลเซียสติดต่อกัน 3-4 วัน อาจมีอาการหนาวสั่นสะท้านร่วมด้วย นอกจากนั้นเด็กโตและผู้ใหญ่มักมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลียอย่างมาก และเบื่ออาหารเป็นอาการสำคัญ ขณะที่ไข้หวัดธรรมดาจะมีไข้เช่นกันแต่ไม่สูงมากนัก และลักษณะอาการของโรคจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า
โดยปกติผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถหายเองได้ แต่บางรายอาจมีอาการรุนแรง หรือ เกิดภาวะแทรกซ้อนของโรค อาทิ โรคปอดอักเสบ โรคสมองอักเสบ ที่ส่งผลถึงชีวิต ดังนั้นเมื่อป่วยควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็วจะเป็นการดีที่สุด
กรมควบคุมโรคแนะ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ป้องกันไข้หวัดใหญ่
- “ปิด” ปิดปากและปิดจมูก เมื่อไอจามต้องใช้หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า หรือ กระดาษทิชชูทุกครั้ง
- “ล้าง” ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจล เมื่อสัมผัสสิ่งของ กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได หรือ ราวบนรถโดยสาร
- “เลี่ยง” หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือ เข้าไปในสถานที่แออัด ซึ่งมีคนอยู่จำนวนมาก
- “หยุด” เมื่อป่วย ควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรม แม้มีอาการป่วยไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ หากมีอาการให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
ในช่วงที่การระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่สามารถควบคุมได้เบ็ดเสร็จ เมื่อจำเป็นต้องออกนอกบ้านก็ต้องสวมใส่หน้ากากผ้า หรือ หน้ากากอนามัยทุกครั้ง ทั้งควรเตรียมหน้ากากสำรองไว้เปลี่ยนในกรณีเปียกฝน และควรเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นล้างมือบ่อยๆ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อในวงกว้างด้วย
ที่สำคัญในช่วงฤดูฝนนี้จะไปไหนมาไหนก็ควรพกร่ม หรือ เสื้อกันฝนติดตัวไปด้วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายต้องเปียกฝน ช่วยลดการอับชื้น ลดการสะสมของเชื้อรา อันเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การเจ็บป่วยต่างๆ นานาได้
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข