ไม่มีคำว่าเหงาใน  Co-Living Space เทรนด์การอยู่ร่วมหลังคาเดียวกันของคนในเมืองใหญ่

0
1037
kinyupen

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพัฒนาการของสังคมส่งผลต่อค่านิยม แนวคิด และ การกินอยู่เป็น จึงมีหลายเทรนด์ที่เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์วิถีและความต้องการของผู้คนที่เปลี่ยนแปลง

 

วันนี้เรากำลังพูดถึงเทรนด์ที่กำลังมาแรงใน ยุโรป ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ นั่นคือ Co-Living Space ที่เหมาะกับคน 2 วัย คือ กลุ่มคนทำงาน กับกลุ่มเกษียณ ที่ต้องการหาผู้หารค่าใช้จ่ายในบ้าน หรือคอนโดมิเนียม ซึ่งจุดเริ่มต้นของ Co-Living Space คาดพัฒนามาจาก Co-Working Space อันเกิดจากทุกคนต้องการเคลื่อนที่อย่างอิสระ ราคาค่าเช่าพื้นที่ในตัวเมืองสูง

 

ภาพจาก Facebook : DreamHouse Co-living
ภาพจาก Facebook : DreamHouse Co-living

 

โดยผู้ให้บริการ Co-Living Space ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยขนาดเล็ก บางแห่งอาจมีห้องน้ำในตัว การอยู่ร่วมจะเสมือนญาติผู้มาพัก คือ สามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางทั้งดูทีวี หรืออยู่ในห้องนั่งเล่น ทำอาหาร หรือ ออกกำลังกาย โดยบริการลักษณะนี้จะมีรูปแบบที่คล้ายกับการพัก Hostel หากแต่มีระยะยาวกว่า ใช้ชีวิตร่วมกับเจ้าของมากกว่า

 

จาคอป จัสตัส พ่อครัวชาวสิงคโปร์กล่าวกับหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอนิ่งโพสต์ ถึงประสบการณ์การใช้ Co-Living Space ในกรุงปักกิ่งว่า จากที่แรกๆ กลัวเสียความเป็นส่วนตัว กลัวต้องอยู่กับคนไม่รู้จัก แต่เมื่อผ่านไปสักพักกลับรู้สึกสนุก เพราะได้รู้จักคนอื่นๆ ที่มีภูมิหลังหลากหลาย ได้มีโอกาสสอนวิธีทำขนมให้เพื่อนร่วมที่พัก และได้ดู Game of Throne กับคนอื่นๆ แทนที่จะต้องนั่งดูแบบเหงาๆ คนเดียว

ขณะที่ อันจู อิชิยามะ นักเผยแผ่ศาสนา วัย 30 ปี ที่ใช้ Co-Living Space หรือ Share House ในญี่ปุ่นเล่าว่าเธอเช่าห้องขนาด 33 ตารางเมตรร่วมกับผู้เช่า 1 – 4 คน โดยใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน ทั้งทำงาน ทำครัวรวมถึงออกกำลังกายในห้องที่อยู่ด้านนอก

 

“บรรยากาศเหมือนครอบครัวใหญ่ เพื่อนร่วมห้องสวมชุดนอนทำอาหารเช้า เล่นกับลูกสาวของผู้พักอาศัยอีกคน เราทุกคนมีส่วนร่วมในหน้าที่ทุกวัน และมีอิสระที่จะใช้บ้านและที่ทำงานร่วมกัน”

 

ภาพจาก Facebook : Kai Co-Living 会
ภาพจาก Facebook : Kai Co-Living 会

 

นี่อาจเป็นอีก 1 ในทางออกของกลุ่มผู้สูงวัยเสมือนยิงกระสุนนัดเดียวได้นก 2 ตัว เพราะประหยัดเงิน และได้เพื่อน อย่างไรก็ตามผู้ที่จะเลือกให้ หรือใช้ชีวิตแบบ Co-Living Space ควรจับคู่กับผู้มีแนวคิดระบบ ระเบียบการใช้ชีวิตที่ไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมยอมรับและเข้าใจความแตกต่างของคน เพื่อที่จะได้ไม่อึดอัดและใช้ชีวิตในทุกวันอย่างสบายใจไม่รบกวนหรือเป็นอุปสรรคซึ่งกันและกัน

 

kinyupen