เรื่องดีๆ ยังมีที่อู่ฮั่น หลังการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ลามทั่วจีน เมื่อกลุ่มแท็กซี่ขอทำดีเพื่อบ้านเกิด โดยการ “อาสารับส่งผู้ติดเชื้อฟรี”
ในสถานการณ์ที่ทำให้โลกกำลังรู้สึกวิตกในข่าวร้าย ๆ จากการระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกหดหู่ กับเหตุการณ์ที่ชาวจีนต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้ แต่ท่ามกลางข่าวร้ายๆ ก็ดูเหมือนจะมีเรื่องดีๆ ให้ผู้คนได้รู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมาบ้าง เมื่อสื่อนิวยอร์กไทม์ นำเสนอเรื่องราวของน้ำใจของแท็กซี่กลุ่มหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ที่ออกมาอาสาทำประโยชน์เพื่อเพื่อนร่วมประเทศ ในระหว่างที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวของนิวยอร์กไทม์ ได้พบกับ “จาง เล่ย” คนขับแท็กซี่ชาวอู่ฮั่น วัย 32 ปี ที่ก่อนหน้านี้เขาเป็นเพียงคนขับรถคนหนึ่งที่ทำงานหาเลี้ยงชีพจากการรับจ้างขับรถแท็กซี่ในเมืองที่มีประชากร กว่า 11 ล้านคนแห่งนี้ แต่ทันทีที่เกิดโรคระบาด รัฐบาลท้องถิ่นประกาศปิดเมืองกะทันหัน ผู้คนจำนวนมากถูกสั่งห้ามให้ออกมานอกบ้านอย่างไม่จำเป็น ทำให้บนท้องถนนแทบจะไม่มียานพาหนะสัญจรไปมา ปัญหาการขนส่งจึงกลายเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อความเป็นอยู่ของชาวอู่ฮั่นกลุ่มหนึ่งที่ไม่มียานพาหนะเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยผู้สูงอายุ และคนจน ที่ถูกกักบริเวณเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
จางเป็นหนึ่งในอาสาสมัครจำนวนกว่าพันคนที่ออกมาช่วยเหลือผู้คนในช่วงที่เมืองมีอุปสรรคด้านการรับส่งผู้ป่วย ที่อยู่ในช่วงการติดตามอาการ โดยส่วนใหญ่เป็นคนยากจน ผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหรือครอบครัว ที่ถูกกักพื้นที่อยู่ในเมืองจากการป้องกันการแพร่ระบาด บางส่วนไม่สามารถออกไปโรงพยาบาลได้ หรือไม่สามารถออกมาอาหารได้ด้วยตัวเอง ซึ่งจางบอกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจที่จะไม่มีใครช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ และการทำหน้าที่นี้ถือเป็นการช่วยเหลือที่เขาเต็มใจเพราะทุกคนต่างอยู่ในภาวะยากลำบากเช่นกัน
ในการทำงานจาง จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ที่เกิดการโรคระบาด หรือมีผู้ป่วยที่มีอาการหนัก โดยในส่วนนั้นรถพยาบาลจะเป็นผู้ดำเนินการเอง แต่เขาสามารถรับส่งผู้โดยสารได้ในพื้นที่ควบคุมอื่นๆ โดยการรับส่งผู้โดยสารครั้งนี้เขาจะไม่ได้รับเงิน แต่เป็นการให้บริการในการทำงานขับแท็กซี่จางจะต้องสวมชุดป้องกันเต็มรูปแบบเพื่อป้องกันการระบาดด้วย และการให้บริการครั้งนี้เขาจะต้องจ่ายค่าน้ำมันเอง เช่นเดียวกับอาสาสมัครคนอื่นๆ
ขอบคุณภาพจาก : Amy Qin_The New York Times
เมื่อถูกถามว่าทำไมเขาจึงออกมาเป็นอาสาสมัคร จาง บอกว่า เหตุผลแรกเลยคือรู้สึกเบื่อที่จะต้องอยู่เฉยๆ ที่บ้านเหตุผลที่สองคือต้องการที่จะช่วยเหลือเพื่อนชาวจีนด้วยกัน และอยากทำประโยชน์ให้กับสังคม หลังจากที่ได้รับทราบข่าวว่า มีผู้สูงอายุหลายคนประสบปัญหายากลำบากต่อการเดินทาง มีข่าวว่าบางคนต้องใช้เวลาเดินถึงสองชั่วโมงเพื่อไปโรงพยาบาล การมีรถรับส่งอยู่ในพื้นที่จึงช่วยให้ผู้ป่วยเหล่านี้มีความสะดวกสบายขึ้นบ้าง
จาง เล่ย อาศัยอยู่กับพ่อแม่ภรรยาและลูกสองคนอายุ 3 และ 7 ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งนอกเมืองอู่ฮั่น และหมู่บ้านได้ส่งคำเตือนมาว่าเขายังไม่ควรกลับไปที่หมู่บ้านในขณะนี้ เนื่องจากเข้ามาทำงานและอาศัยอยู่ใกล้กับตลาดอาหารทะเล ที่ถูกคาดว่าเป็นต้นตอของการระบาดของไวรัสในครั้งนี้
“ ตอนนี้ผมคงเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับพวกเขา” จางบอกด้วยความรู้สึกที่ปนเศร้าเล็กน้อย แต่การได้ออกมาทำงานช่วยเหลือคนอื่นก็ทำให้เขาลืมเรื่องเศร้าๆ แบบนั้นลงได้
หลังทำงานอาสาสมัครขับแท็กซี่ในแต่ละวัน จางและเพื่อนอาสาสมัครขับรถคนอื่นๆ จะกลับไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายที่บ้าน รวมทั้งฆ่าเชื้ออุปกรณ์ป้องกันต่างๆ รวมถึงรถยนต์ ผู้ขับขี่อาสาสมัครหลายคนบอกว่าพวกเขามีชุดป้องกันเพียงชุดเดียวและถุงมือสองสามคู่เท่านั้น
ขอบคุณภาพจาก : Amy Qin_The New York Times
“ถึงแม้เราจะเห็นข่าวว่ามีการบริจาคสิ่งของต่างๆ มากมาย แต่พวกเราก็ยังไม่เห็นอะไรเลย ตอนนี้สิ่งที่เราได้รับคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในทุกวัน แต่นั่นมันก็ยังดีที่อย่างน้อยเราก็มีอะไรกิน”
ถึงเวลานี้ ไม่มีใครคาดได้ว่าการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่นี้จะจบสิ้นลงเมื่อได้ แต่สำหรับคนอู่ฮั่น ที่กำลังต้องอยู่ในสถานการณ์ลำบากนี้ สิ่งที่ทุกคนทำได้คือการให้กำลังใจกันและกัน และช่วยเหลือกันเท่าที่จะช่วยได้ เรื่องราวของจางจึงเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงน้ำใจที่จะส่งถึงกันได้ ท่ามกลางกำลังใจจากทั่วโลกที่ส่งไปถึงเพื่อให้พวกเขาสามารถผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ในที่สุด