5 แหล่งท่องเที่ยวอิหร่าน…มรดกโลกที่กลายเป็นเป้าหมายแห่งสงคราม

0
982
kinyupen

ประเทศอิหร่านที่เป็นตั้งอารยธรรมเก่าแก่ที่สุดของโลก เชื่อว่ามีอายุมากกว่า 2,500 ปี รู้จักกันชื่อ “อาณาจักรเปอร์เซีย” และด้วยความเก่าแก่ทางอารยธรรมนี่เองทำให้ในประเทศอิหร่านมีสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมสำคัญจนได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้เป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม จำนวน 22 แห่ง  และ แหล่งมรดกทางธรรมชาติ 2 แหล่ง ถือเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจำนวนมากในแต่ละปี  โดยมีแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชม และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อาทิ

 

1.พระราชวังโกเลสตาน

พระราชวังโกเลสตาน หรือ พระราชวังกุหลาบ เป็นหนึ่งในสถานที่ประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงเตหะราน เมืองหลวงของประเทศอิหร่าน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยคริสต์วรรษที่ 16 ในราชวงศ์ Safavid ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของอิหร่านเมื่อปี พ.ศ. 2556 (ค.ศ.2013) ความโดดเด่นของพระราชวังแห่งนี้ คือ ความงดงามในการตกแต่งภายในด้วยกระจกเงาตัดเหลี่ยมแบบเพชร และการตกแต่งภายนอกด้วยกระเบื้องเคลือบสุดอลังการ โดยองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้พระราชวังโกเลสตานเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2007 ปัจจุบันพระราชวังโกเลสตานยังคงใช้เป็นที่รับรองบุคคลสำคัญ แขกบ้านแขกเมืองจากต่างประเทศอย่างเป็นทางการ

 

2. เมืองแพร์ซโพลิส Persepolis

ยูเนสโกได้ประกาศให้แพร์ซโพลิสเป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อ พ.ศ. 2522 (ค.ศ. 1979) เป็นเมืองโบราณของชาวเปอร์เซีย ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Kuh-e Rahmat ที่เมือง Shiraz สร้างขึ้นโดย King Darius the Great (ช่วงก่อนคริสต์ศักราช 522-486 ปี) ซึ่งสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ สร้างขึ้นมาจากหินและดิน ตามโมเดลของเมโสโปเตเมีย ปัจจุบันยังคงเหลือซากปรักหักพังแนวที่ตั้งของเมืองเก่า มีเสาอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตั้งตระหง่านท้าลมท้าฝนมาหลายพันปีแล้ว พร้อมทั้งยังมีภาพแกะสลักหินอันงดงามอยู่รอบ ๆ อีกหลายจุดอีกด้วย แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของอิหร่านที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อยูเนสโก ได้แก่ หอคอย Azadi ในเมืองหลวงเตหะรานและหลุมฝังศพของอดีตผู้นำสูงสุด Ayatollah Ruhollah Khomeini

 

3. จัตตุรัสอิหม่ม Imam Square

จัตุรัสอิหม่ามหรืออีกชื่อหนึ่งว่า Naqsh-e Jahan Square เป็นศูนย์กลางของโลกในยุคกลาง ตั้งอยู่ที่เมือง Esfahan เมืองที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดศูนย์กลางของโลก ซึ่งจัตุรัสอิหม่ามนั้นยิ่งใหญ่อลังการ โดยบรรดาสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่รายล้อมทั้งสี่ทิศของจัตุรัสอิหม่ามนั้น คือมรดกแห่งอารยธรรมเปอร์เซียที่แท้จริง ทางทิศใต้ มีมัสยิดอิหม่าม ทางทิศตะวันออก  ในเมืองนี้ยัง มีมัสยิด Sheikh Lotfollah ทางทิศตะวันตก มีพระราชวัง Ali Qapu และทางทิศเหนือมีสะพาน Si-o-Seh Pol สัญลักษณ์อันคลาสสิคของอิสฟาฮาน ที่ชาวเมืองมักจะมาใช้เวลายามเย็นจนค่ำคืนกันที่นี่  และ มัสยิดSheikh Lotfollah ผลงานชิ้นเอกของศิลปะแบบอิหร่าน ด้วยรูปทรงสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม การตกแต่งด้วยกระเบื้องสีต่างๆ โดยเน้นไปที่สีน้ำเงินอันสวยงาม ลายกระเบื้องที่เป็นตัวอักษรเปอร์เซีย และความใหญ่โตอลังการ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมัสยิดที่สวยที่สุดในอิหร่านAli Qapu Palace พระราชวังเก่าที่มีความสูงถึง 7 ชั้น การเดินชมจะเป็นการเดินขึ้นบันไดสูงชันขึ้นไป มีภาพสวยงามมากมาย แต่ไฮไลท์ คือ การตกแต่งเป็นลวดลายดนตรีของชั้นบนสุด นอกจากนี้บนจุดชมวิวสามารถถ่ายรูปได้ทั่วบริเวณจัตุรัสอิหม่ามอีกด้วย

 

4. พีรามิด  Chogha Zanbil

ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ Inshushinak ซึ่งเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่ดีของ Elam จะประกอบด้วยห้าเสาของความสูงที่แตกต่างกันในแต่ละสร้างด้านหนึ่งของอื่น ๆ พื้นที่ภายในที่ตรง ziggurat หลักมีไว้สำหรับพระเจ้าหลักในขณะที่พื้นที่ตรงกลางซึ่งประกอบด้วยห้องพักของสิบเอ็ดไว้สำหรับพระเจ้าน้อย ในพื้นที่ที่อยู่นอกคุณสามารถหาพระราชวังและสถานที่ที่ศพที่สุสานใต้ดินห้าจะถูกวางไว้การก่อสร้างคลองที่ดีในการจัดหาน้ำจากแม่น้ำที่ยังอยู่ในการใช้เป็นแหล่งน้ำไม่เพียงพอสำหรับความต้องการของประชาชน ที่ไม่ได้ใช้ก้อนอิฐที่เว็บไซต์ด้านซ้ายเท่านั้นที่พิสูจน์ให้เห็นว่า Chogha Zanbil ที่เหลืออยู่จนกว่าจะยกเลิกแอสบุกเมือง excavasions โบราณคดีเอาสถานที่ระหว่าง 1951-1962 เพียงที่จะค้นพบเมืองที่ลดลง ทุกความพยายามของพวกเขาได้จ่ายเป็น ยูเนสโก ประกาศ Chogha Zanbil เป็น เว็บไซต์มรดกโลก ในปี 1970 เข้าชมไซต์นี้พยายามที่จะมีชีวิตอีกเกียรติศักดิ์ของอาณาจักรโบราณเช่นเดียวกับที่จะต้องประหลาดใจด้วยความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่ว่าคนในยุคที่สามารถคิดงานชิ้นเอกที่โดดเด่นนี้

 

5. มัสยิด The Nasir al-Mulk Mosque

เป็นมัสยิดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอิหร่าน ตั้งอยู่ที่เมือง Shiraz สร้างขึ้นมาในช่วงยุคของราชวงศ์กาจาร์ ความโดดเด่นของมัสยิดแห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่สถาปัตยกรรมอันสวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการตกแต่งอย่างสวยงามหรูหราทั้งภายในและภายนอกอีกด้วย ซึ่งผู้ออกแบบอย่าง Muhammad Hasan-e-Memar และ Muhammad Reza Kashi Paz-e-Shirazi ก็ได้เลือกใช้กระจกสีสันสดใสมาตกแต่งบานหน้าต่าง ซึ่งแตกต่างจากมัสยิดของชาวอิสลามทั่ว ๆ ไป ยามที่แสงอาทิตย์สาดส่องมายังบานกระจก กระจกเหล่านี้ก็จะส่องสะท้อนสีต่าง ๆ ออกมาอย่างงดงามดั่งต้องมนตร์ กลายเป็นความน่าประทับใจที่ไม่ว่าใครได้มาอิหร่านจะต้องมาสัมผัสกันสักครั้ง

 

โดยสถานสำคัญในอิหร่านที่ได้รับการประกาศชื่อเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ ทั้ง 24 แห่ง

โดยเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม  22 แห่ง ได้แก่

Armenian Monastic Ensembles of Iran (2008)

Bam and its Cultural Landscape (2004)

Bisotun (2006)

Cultural Landscape of Maymand (2015)

Golestan Palace (2013)

Gonbad-e Qābus (2012)

Historic City of Yazd (2017)

Masjed-e Jāmé of Isfahan (2012)

Meidan Emam, Esfahan (1979)

Pasargadae (2004)

Persepolis (1979)

Sassanid Archaeological Landscape of Fars Region (2018)

Shahr-i Sokhta (2014)

Sheikh Safi al-din Khānegāh and Shrine Ensemble in Ardabil (2010)

Shushtar Historical Hydraulic System (2009)

Soltaniyeh (2005)

Susa (2015)

Tabriz Historic Bazaar Complex (2010)

Takht-e Soleyman (2003)

Tchogha Zanbil (1979)

The Persian Garden (2011)

The Persian Qanat (2016)

มรดกโลกทางธรรมชาติ

Hyrcanian Forests (2019)

Lut Desert (2016)

kinyupen