กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต วันนี้ขอแชร์ความคิดดีๆ ของ ดร.ศศดิศ ชูชนม์ มาฝากกัน
แม้โดยส่วนตัวแล้วจะไม่ใช่แฟนคลับตัวยงของ “นิ้วกลม” เท่าไหร่นัก แต่ก็ยอมรับว่าเขาเป็นคนที่เขียนหนังสือง่ายๆ เข้าใจง่าย เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว ชีวิตคนเราก็ไม่มีอะไรยาก…ถ้าตั้งโจทย์ง่ายๆ สำคัญที่คำตอบ ไม่ใช่คำถาม นั่นหมายความว่า ถ้าเรามีคำตอบที่ชัดเจนให้กับชีวิตตัวเองว่า เกิดมาเพื่ออะไร ทำเพื่ออะไร มีเป้าหมายอะไร และเดินไปให้ถึงเป้าหมายนั้นอย่างไม่เบียดเบียนตัวเอง ไม่เบียดเบียนคนอื่น ทะเยอทะยานบ้างเพื่อให้ชีวิตมีไดนามิค หรือแรงขับที่จะพุ่งไปข้างหน้า..ก็พอแล้ว
รักให้เป็น รักคนอื่นให้เท่ากับที่เรารักตัวเอง คนที่ไม่รักตัวเอง จะรักคนอื่นไม่ได้..นิยามความรักบอกไว้แบบนั้น
เมื่อเช้าเก็บบ้านหลังจากได้เครื่องดูดฝุ่นประมาณว่าปล่อยให้มันวิ่งไปเองโดยไม่ต้องไปสนใจมัน เพื่อนเรียกเครื่องดูดฝุ่นแบบนี้ว่า “ไอ้อ้วน” เพราะมันตัวอ้วนๆกลมๆ ก็เอาเป็นว่าได้เพื่อนใหม่ชื่อ “ไอ้อ้วน” มาช่วยเก็บฝุ่น และจัดการความสกปรกในบ้าน…แบบที่มันพอจะทำได้ตามกำลังและราคาของมันนั่นละ
เลยเจอหนังสือเล่มหนึ่งเป็นหนังสือของนิ้วกลม เปิดผ่านๆ มีบางถ้อยความในหนังสือที่เขาเขียนไว้อย่างน่าสนใจ…. ขออนุญาตโฆษณาประโยคคมๆ ที่คุณนิ้วกลมเธอหยิบยกมาไว้ในงานเขียนหลายเล่ม เผื่อจะโดนใจใครบ้าง…
นิ้วกลม…บอกว่า บางครั้งความสุขคือการไม่รู้เรื่องทั้งหมด
เรื่องบางเรื่องเราจำเป็นที่จะต้องสืบสาวค้นหาความจริงเพื่อความกระจ่าง เพื่อจะได้แก้ปัญหาและทำสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น แต่กับเรื่องบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นความลับเล็กๆ ที่บางครั้งการปล่อยความลับเล็กๆ จะของใครก็ตามให้ได้มีที่อยู่เฉพาะของมันบ้างอาจจะดีกว่าการพยายามสืบค้น…
เพื่อนหรือคนรัก …อาจไม่ได้มีนิยามว่า คนที่รู้ทุกอย่าง ทุกเรื่องของเราเสมอไป เพื่อนหรือคนรักที่คบกันได้ยืนยาวอาจเป็นเพราะรู้จักปล่อยให้เพื่อนหรือคนรักของตัวเองได้มี “พื้นที่ส่วนตัว” ที่เราไม่ล่วงรู้บ้างในบางเรื่องบางโอกาส แน่นอนย่อมไม่ใช่ความลับที่เลวร้าย..จนยอมรับไม่ได้
คนที่มีความสุขในความสัมพันธ์…อาจไม่ใช่คนที่เห็นทุกสิ่งและรู้ทุกเรื่อง แต่คือคนที่รู้จังหวะในการ “หลับตา” และ “ลืมตา” แกล้งหลับตาข้างหนึ่งบ้าง…จะได้มีตาของคนข้างๆ ไว้จ้องมองกันนานๆ
The Prophet ของ คาริล ยิบราน เขียนไว้อย่างน่าฟังว่า
จงรักกันและกัน แต่อย่างสร้างพันธะแห่งความรัก
ขอให้ความรักนั้นเป็นเสมือนห้วงสมุทรอันเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างฝั่งแห่งวิญญาณของเธอทั้งสอง
จงเติมถ้วยของกันและกัน แต่อย่าดื่มจากถ้วยเดียวกัน
จงให้ขนมปังแก่กัน แต่อย่ากัดกินจากก้อนเดียวกัน
จงร้องและเริงรำด้วยกัน และจงมีความบันเทิง แต่ขอให้แต่ละคนได้มีโอกาสอยู่โดดเดี่ยว
ดังเช่นสายพิณนั้น ต่างอยู่โดดเดี่ยว แต่สั่นสะเทือน ด้วยทำนองดนตรีเดียวกัน……
ตอนอ่านหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกก็งงๆ เพราะเราอาจไม่ใช่คนที่เข้าใจปรัชญาชีวิตอันลึกซึ้งมากนัก
ครั้นเมื่อโตขึ้นผ่านเวลามากว่าครึ่งชีวิต …ถ้อยความใน The Prophet บางประโยค กลับให้ความหมายกับชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ
“ความรักไม่ให้สิ่งอื่นใดนอกจากตนเอง
และก็ไม่รับเอาสิ่งใดนอกจากตนเอง
ความรักไม่ครอบครอง…และไม่ยอมถูกครอบครอง
เพราะความรักนั้นพอเพียงแล้วสำหรับตอบความรัก”
อาหารสมอง กับเรื่องราวจรรโลงใจในเช้าวันใหม่สำหรับผู้ที่มีความรักและเข้าใจในความรัก…ทุกคนค่ะ…..