กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต พาไปติดตามเรื่องราวของเทคโนโลยี 5G จะเดินทางเข้ามามีบทบาทบนโลกของเราในปี 2020 5G จะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตคุณอย่างไรบ้าง แล้วคุณพร้อมปรับตัวรับมือกับยุค 5G ที่กำลังจะเข้ามาถึง พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ แล้วหรือยัง?
ต้องบอกเลยว่าอีกไม่นาน เทคโนโลยี 5G จะเดินทางเข้ามามีบทบาทในโลกของเราอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อ 5G เข้ามาบนโลกใบนี้เมื่อไหร่ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นอย่างมาก ผู้ใช้สมาร์ทโฟนจะสามารถส่งและข้อมูลในระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม จะสามารถตอบสนองได้เร็วขึ้น ประมาณ 1 ใน 10 วินาที (Reduce Latency) ซึ่งในประเทศไทยบ้านเรานี่เองจะก้าวเข้าสู่ยุค 5G พร้อมๆ กับหลายประเทศ ในปี 2020 (พ.ศ.2563 ) ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นเทคโนโลยีจะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตมนุษย์อย่างไร และต้องเตรียมรับมืออย่างไรบ้าง
เทคโนโลยี 5G (5th Generation) คือ ระบบการสื่อสารแบบไร้สายในยุคที่ 5 ซึ่งเชื่อกันว่า มีความทรงพลังที่สุดในโลก 5G จะเปลี่ยนโลกทั้งใบให้เชื่อมต่อกันในทุกสรรพสิ่ง เป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาตอบโจทย์ในเรื่องนี้ เทคโนโลยี 5G มีความเร็วเพิ่มขึ้นกว่าระบบ 4G ถึง 10 เท่า มีความหน่วงลดลง 5 เท่า และสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายและสิ่งต่างๆได้มากขึ้นถึง 1,000 เท่า ดังนั้น จึงเป็นมากกว่าอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ไม่เพียงแค่เราจะดาวน์โหลดหรืออัพโหลดไวขึ้น แต่ยังก่อให้เกิดบริการใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Smart Car, eHealth, Connected House, Smart Grids หรืออื่น ๆ อีกสารพัด
ทั้งนี้ คาดว่าการเข้ามาของเทคโนโลยี 5G จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน คุณค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ช่วยบริหารจัดการทรัพยากร ระบบอุตสาหกรรม ทั้งในส่วนของรัฐบาลและเอกชนที่จะประหยัดงบประมาณแต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น ดังนั้น ประชาชน รวมไปถึงทุกภาคส่วนต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับยุค 5G ที่กำลังจะเข้ามาถึง พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ IoT (Internet Of Things) ,AI (Artificial Intelligence) ,เทคโนโลยีความจริงเสมือน ,เทคโนโลยีความจริงแบบแต่งเติม เป็นต้น สิ่งที่ทุก ๆ คนที่จะได้รับผลกระทบ หลังจากการการเข้ามาของเทคโนโลยี 5G มีด้วยกันหลายภาคส่วนที่จะต้องเตรียมพร้อมรับมือ ประกอบด้วย
การเงินการธนาคาร : เนื่องจากความสามารถของเทคโนโลยีที่มากขึ้น ส่งผลให้ระบบ Mobile Banking เข้ามาแทนที่ ไม่ต้องทําธุรกรรมผ่านเจ้าหน้าที่ธนาคาร ขณะเดียวกันการวิเคราะห์สินเชื่ออาจใช้ปัญญาประดิษฐ์แทนได้ พนักงานธนาคารเองก็ต้องเพิ่มทักษะความรู้ต่าง ๆ ด้วย
ภาคอุตสาหกรรม : เมื่อ 5G เข้ามา จะมีการใช้หุ่นยนต์ในการผลิตและเชื่อมโยงหน้าที่ต่าง ๆ มากขึ้น คนที่ทํางานในภาคอุตสาหกรรมต้องคิดแนวทางในการพัฒนาตัวเองให้มีความพร้อมในการทํางานด้านอื่นๆ ได้
ภาคการเกษตร : หลังใช้ระบบ 5G มูลค่าการผลิตต่อไร่สูงขึ้น เมื่อ IOT เข้ามาช่วยในการจัดการสภาพแวดล้อม วิเคราะห์ดิน น้ำ และทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เกษตรกรเองก็ต้องมีการเตรียมพร้อมทํา smart farming ให้สอดรับการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน
ภาคการขนส่งโลจิสติกส์ : หลังจากที่เริ่มมีการนําเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการขนส่ง เช่น Uber Grab ถ้า 5G เข้ามา แท็กซี่ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคมากกว่าที่เป็นอยู่ เทคโนโลยีที่ช่วยใน การขับขี่ยานพาหนะถูกพัฒนาขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการประยุกต์ใช้ IoT กับการคมนาคมขนส่ง เช่น รถยนต์ไร้คนขับ การเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างยานพาหนะด้วยกันเอง และเชื่อมต่อระหว่างยานพาหนะและระบบควบคุมการจราจร เป็นต้น
การแพทย์ : เมื่อเทคโนโลยี 5G เข้ามา วงการแพทย์จะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นแน่นอน เช่น การรักษาทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การผ่าตัด ไม่ต้องให้หมอเดินทางไปผ่าตัดในสถานที่ห่างไกลหรือในกรณีเร่งด่วน โดยใช้อินเทอร์เน็ตแบบสื่อสัมผัส ที่สามารถผ่าตัดหรือทําการรักษาคนไข้ได้เสมือนอยู่ในห้องผ่าตัด
ภาคการค้า : ในภาคการค้าโดยเฉพาะการค้าปลีก ทําเลทองจะเปลี่ยนมาอยู่ในโลกออนไลน์แทบจะทั้งหมด การเช่าพื้นที่ค้าขายจะลดลง อีกทั้งยังมีนวัตกรรมที่ทําให้การซื้อสินค้าสะดวกสบาย สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เช่น การทดลองสินค้าผ่านออนไลน์ด้วยเทคโนโลยีความจริงเสมือน ได้ลองสวมใส่เสื้อผ้าโดยไม่ต้องเดินทางไปที่ร้าน
ภาคอุตสาหกรรมโทรทัศน์และสื่อสารมวลชน : ปัจจุบันแวดวงดังกล่าวได้รับผลกระทบอยู่แล้ว แต่เมื่อมี 5G เข้ามาบนโลกใบนี้ จะเปลี่ยนภาคอุตสาหกรรมโทรทัศน์และสื่อสารมวลชนไปอีกขั้น การโฆษณาผ่านโทรทัศน์เป็นรายได้ที่จะเพิ่มมากขึ้น คนรับข้อมูล ละคร เนื้อหาต่างๆ ผ่านโทรทัศน์ ผ่านยูทูป ผ่านแอพพลิเคชั่น นอกจากนี้ เทคโนโลยี 5G สามารถรองรับความต้องการในการรับส่งข้อมูลปริมาณมากได้อย่างรวดเร็ว เช่น สามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์และสื่อบันเทิงความคมชัดสูงในระดับ 4k ได้ในเวลาไม่กี่วินาที แม้ในช่วงที่มีผู้ใช้บริการพร้อมกันจํานวนมากก็ไม่เป็นปัญหา
ภาคสาธารณูปโภค : ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart grid) และมิเตอร์อัจฉริยะ (Smart meter) จะถูกนํามาใช้ในการบริหารจัดการการจ่ายไฟฟ้าโดยอาศัยเทคโนโลยี IoT เพื่อการวางแผนการผลิตและจ่ายไฟให้เพียงพอกับช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าในปริมาณสูงเพื่อไม่ให้เกิดไฟฟ้าขัดข้อง การคิดราคาไฟฟ้าให้เหมาะสมกับอุปสงค์และอุปทาน รวมไปถึงการบริหารจัดการทั่วไปอย่างการแจ้งยอดการใช้ไฟแก่ลูกค้าโดยไม่ต้องให้พนักงานออกไปจดมิเตอร์อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม กสทช. ตั้งเป้าจะให้ประเทศไทยได้ใช้เทคโนโลยี 5G ภายใน เดือน ต.ค.2563 โดยได้เตรียมความพร้อมเรื่องคลื่นความถี่ไว้รองรับแล้ว เช่น คลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์, คลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ ,คลื่น 26 กิกะเฮิรตซ์ ,28 กิกะเฮิรตซ์ จะนํามาปรับปรุงใช้งาน ประเทศไทยเข้าสู่ 3G ช้ากว่านานาประเทศราว 11 ปี เข้าสู่ 4G ก็ช้ากว่า 6 ปี ฉะนั้น การเข้าสู่ยุค 5G เราควรดําเนินการพร้อมๆ กับประเทศอื่น ทุกฝ่ายต้องช่วยกันผลักดัน ไม่ใช่เรื่องของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งต้องเร่งดําเนินการ เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก ประเทศไทยต้องตามให้ทัน
ฉะนั้น ต้องบอกเลยว่า เทคโนโลยี 5G เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยสนับสนุนระบบต่าง ๆ ในการพัฒนาประเทศ โดยปลายปี 2562-2563 จะเริ่มมีการใช้งานทั่วโลก ซึ่งสหรัฐฯ จีน เกาหลีญี่ปุ่น และยุโรป มีการดําเนินยุทธศาสตร์รุก 5G แล้ว 5G เป็นยุทธศาสตร์ของชาติ เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ไม่ใช่แค่เรื่องเฉพาะบุคคล สิ่งที่สําคัญไม่น้อยกว่าการพัฒนาเทคโนโลยีคือการตระหนักถึงผลกระทบอันหลีกเลี่ยงไม่ได้การจัดเตรียมแผนการรองรับจากภาครัฐ การสร้างความรู้ความเข้าใจ เท่าทันเทคโนโลยี และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องส่งเสริมควบคู่กัน หากทุกคน ทุกภาคส่วนปรับตัวให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับเทคโนโลยี 5G ได้ แน่นอนเลยว่า %G จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตของเราในการดำเนินชีวิตเราได้อย่างแน่นอน และนี่คือหนึ่งในวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : บทความ เทคโนโลยี 5G จุดเปลี่ยนของเทคโนโลยครั้งใหญ่ของไทย