ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลกินเจ ฉะนั้นการถือศีลกินเจให้สำเร็จตลอดตั้วแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายนั้น ผู้ถือศีลกินเจทั้งหลายต้องควรระวังข้อห้ามสำคัญ เพราะไม่เช่นนั้น คุณอาจจะ “เจแตก” โดยไม่รู้ตัว
เทศกาลกินเจเวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่งแล้ว ในปีนี้ตรงกับวันที่ 9-17 ตุลาคม 2561 ร้านค้าในตลาดรวมถึงห้างสรรพสินค้าต่างๆ มากมาย ต่างจัดกิจกรรมเพื่อให้เข้ากับเทศกาลกินเจในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายอาหารเจ เป็นต้น จริงๆ แล้ว การกินเจ มีความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ซึ่งระบุไว้ว่า เป็นการถือศีลอย่างญวนและจีนที่ไม่รับประทานอาหารสด อาหารคาว แต่จะบริโภคอาหารประเภทผักที่ไม่มีของสดของคาวผสมอยู่
การถือศีลกินเจใจปัจจุบัน ไม่ได้มีแค่คนไทยเชื้อสายจีนเพียงเท่านั้น คนไทยแท้ๆ ยังให้ความสำคัญกับการกินเจเสียด้วยซ้ำ ซึ่งจุดประสงค์สำคัญของการกินเจ คือ กินเพื่อสุขภาพ เพราะอาหารเจเป็นอาหารชีวจิต เมื่อกินติดต่อกัน จะทำให้ร่างกายสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ , กินเจด้วยจิตที่เมตตา ผู้ที่มีจิตใจเมตตาจะไม่สามารถรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้องสัตว์ได้ และ การกินเพื่อละเว้นกรรม เนื่องจากเป็นการฆ่าเพื่อเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นของเราถือเป็นการสร้างกรรม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ลงมือฆ่าด้วยตนเองก็ตาม แต่ก็ถือวาสการซื้อเนื้อสัตว์ต่อจากผู้อื่นเท่ากับการจ้างฆ่า ฉะนั้น คนที่เข้าใจเรื่องของกฎแห่งกรรมจะหันมารับประทานอาหารเจแทน
แต่จะรู้หรือไม่ว่า การถือศีลกินเจให้สำเร็จตลอดจนถึงวันสุดท้ายนั้น ต้องระวังข้อห้ามสำคัญที่ผู้ถือศีลทั้งหลายต้องควรระวัง เพราะไม่เช่นนั้น คุณอาจจะ “เจแตก” โดยไม่รู้ตัว กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต จึงได้รวบรวม 9 ข้อห้ามควรเลี่ยงของการกินเจมาฝากทุก ๆ คน
1. ละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ และการทำอันตรายต่อสัตว์ – ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว รวมไปถึงเนื้อสัตว์ต่างๆ ทุกประเภท เพราะมันจะทำให้เรามีบาปติดตัวไปด้วย เนื่องจากสัตว์ทุกชนิดล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนดั่งเช่นมนุษย์อย่างเราๆ
2. งดอาหารประเภทนม เนย และน้ำมันที่มาจากสัตว์ – นม เนย น้ำมันบางชนิด บางคนอาจจะเข้าใจว่าไม่ใช่เนื้อสัตว์ ทำไมถึงรับประทานไม่ได้ แต่จริงๆ แล้ว นม เนย น้ำมันบางชนิดล้วนมีส่วนประกอบสำคัญมาจากสัตว์ทั้งนั้น อย่างเช่นนม เนย ก็มาจากวัว โค , น้ำปลา ก็ผลิตมาจากสัตว์จากปลานั่นเอง
3. งดอาหารที่มีรสจัด เผ็ด หวาน เปรี้ยว เค็ม – อาหารที่มีรสเผ็ด เผ็ดจัด รสเค็มจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด ตามความเชื่อของคนจีนถือว่าอาหารพวกนี้ทำลายสุขภาพ ทั้งกระเพาะ ไต
4. งดผักหรือเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรง – กระเทียม หัวหอม ต้นหอม หลักเกียวกุยช่าย ใบยาสูบ ผักพวกนี้เป็นผักที่มีรสหนัก กลิ่นเหม็นคาวรุนแรง มีพิษคอยทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ในร่างกาย เป็นเหตุให้อวัยวะหลักสำคัญภายในทั้ง 5 ทำงานไม่ปกติ
5. หลีกเลี่ยงการใช้จานชามปะปนกัน – ตามความเชื่อของคนจีนเชื่อว่า ถ้วยชามจะใช้ปนกันไม่ได้ แม้ว่าจะล้างจาน ชาม ช้อน ส้อม จนสะอาดแล้วก็ตาม เนื่องจากชาวจีนค่อนข้างเคร่งครัดในเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะอาหารคาวจะใส่ในภาชนะปนกับคนที่ถือศีลกินเจไม่ได้
6. ควรรับประทานอาหารเจ ที่คนกินเจด้วยกันเป็นผู้ปรุงขึ้นมา – สำหรับคนที่ถือศีลกินเจที่ค่อนข้างเคร่งครัดอย่างมาก จะต้องหาร้านจำหน่ายอาหารที่พ่อค้าแม่ค้าต้องถือศีลกินเจด้วย เพราะเชื่อว่า หากปฏิบัติได้จะถือว่าบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
7. งดการดื่มสุราและของมึนเมา – กฎข้อนี้สำคัญมาก ผู้ที่ถือศีลกินเจจะต้องหลีกเลี่ยงการดื่มสุรา เหล้า เบียร์ ไวน์ รวมไปถึงเครื่องดื่มต่างๆ ที่มีแอลกอฮอล์ ที่ทำให้ผู้ที่รับประทานเข้าไปเกิดอาหารมึนเมา เพราะความเชื่อของคนจีนเชื่อว่า ห้ามมีสิ่งมึนเมาเข้าไปในร่างกายโดยเด็ดชาด
8. ห้ามดับตะเกียงในสถานที่กินเจทั้ง 9 ดวง – ตะเกียงเป็นสัญลักษณ์ของ 9 ฮ้วงฮุดโจ้ว ต้องจุดไว้ตลอดจนกว่าจะจบเทศกาลกินเจ เพราะหากตะเกียงดับดวงใดดวงหนึ่ง จะถือว่าการกินเจจะไม่สมบูรณ์และไม่เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตด้วย
9. แต่งกายนุ่งขาวห่มขาว พูดจาไพเราะ – สำหรับคนที่ถือศีลกินเจอย่างเคร่งครัด ส่วนใหญ่จะนุ่งขาวห่มขาวตลอดช่วงของการถือศีลกินเจ เพราะมีความเชื่อว่า นอกจากที่จะให้ร่างกายสะอาด บริสุทธิ์จากการไม่รับประทานเนื้อสัตว์แล้ว เครื่องแต่งกายก็ต้องสะอาดด้วยเช่นกัน และที่สำคัญคำพูดคำจาต้องสะอาดด้วย กล่าวคือ ต้อพูดจาไพเราะ เสนาะหู ไม่พูดเท็จ ไม่พูดยุแหย่ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ถ้าปฏิบัติได้ทั้งหมดนี้ก็ถือว่าสะอาดบริสุทธิ์ทั้งหมด
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นข้อห้ามสำคัญในการถือศีลกินเจ ฉะนั้น คุณจะปฏิบัติตามหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล แต่เชื่อว่า หากคุณสามารถถือศีลกินเจได้ตลอด และสามารถทำได้ตลอดชีวิต ก็เชื่อว่าคุณก็จะมีจิตใจและร่างที่สะอาด บริสุทธิ์ แถมยังได้บุญอีกด้วย และนี่คือหนึ่งในวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต