กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต พาไปติดตามเรื่องราวของกรุงเทพมหานครสั่งการให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต คุมเข้มมาตรการจัดระเบียบ “นกพิราบ” ขอให้ดำเนินการดูแลและตรวจสอบ พร้อมวอนประชาชนงดให้อาหารแก่นกพิราบ หวั่นแพร่เชื้อโรค
หลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครจะพบว่ามีนกพิราบบินไปมาอยู่เสมอ อย่างเช่นตามสวนสาธารณะหรือวัดต่างๆ ซึ่งประชาชนหลายคนชื่นชอบที่จะนำอาหารไปให้นกพิราบ โดยที่ไม่รู้ว่าเสี่ยงติดเชื้อโรคจากนกพิราบ โดยเฉพาะไข้หวัดนก
ล่าสุด กรุงเทพมหานครได้มีมาตรการจัดระเบียบนกพิราบตามโครงการทำความสะอาดและพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคไข้หวัดนกในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในพื้นที่สาธารณะ ในเขตวัดหรือที่เอกชน เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคที่จะแพร่ระบาด ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีการแพร่พันธุ์นกพิราบจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน
โดย กทม. ได้สั่งการให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ดูแลและตรวจสอบว่าในพื้นที่มีนกพิราบหรือไม่ หากพบพื้นที่ใดที่มีนกพิราบให้ดำเนินการติดป้ายประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนห้ามให้อาหารโดยเด็ดขาด ขณะนี้มีพื้นที่ที่มีการร้องเรียนปัญหานกพิราบจำนวนมาก ได้แก่ เขตห้วยขวาง เขตหลักสี่ เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตราชเทวี เขตบางรัก
อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครจะต้องดูแลแก้ปัญหาความเดือดร้อนรำคาญจากนกพิราบและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจากสัตว์สู่คน ซึ่งจะมีการนำร่องจับนกพิราบเพื่อตรวจเฝ้าระวังโรคติดต่อจากนกสู่คนในพื้นที่ต่างๆ โดยส่งทีมสัตวแพทย์เคลื่อนที่เข้าดำเนินงานเก็บตัวอย่างส่งห้องปฏิบัติการ รวมทั้งเก็บตัวอย่างจากมูลนกพิราบ เลือดนก และน้ำลายในช่องคอ จากนั้นจะนำนกไปกักกันที่ศูนย์กักกัน จ.ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา เพื่อวางแผนปล่อยสู่ธรรมชาติอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ ปัจจุบัน กทม. ได้ดำเนินการติดป้ายประชาสัมพันธ์ในสวนสาธารณะทั้งหมด 37 แห่ง เพื่อขอความร่วมมือประชาชนงดให้อาหารนกพิราบ ป้องกันเหตุเดือดร้อนรำคาญและช่วยดูแลสุขภาพอนามัยผู้ใช้บริการสวนสาธารณะที่เสี่ยงได้รับเชื้อนกพิราบ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่หากพบการให้อาหารนกพิราบให้ตักเตือนและห้ามปรามทันที หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจะถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นี่คือหนึ่งในวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต