สำหรับเจ้าของที่แท้จริงของโรงเรียนในเครือนี้ แท้จริงคืออดีตลูกชาวนา จาก ต.หนองกอบ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ชื่อว่า “พิบูลย์ ยงค์กมล” ที่เคยให้สัมภาษณ์สื่อผู้จัดการออนไลน์ ว่า เป็นเด็กบ้านนอก ที่มีพี่น้องจำนวน 9 คน จากครอบครัวเป็นสัตบุรุษวัดนักบุญมาการีตา ในคริสต์ศาสนา ที่เคยคิดจะไปบวชเป็นนักบวชในคริสต์ศาสนา
แต่เส้นทางชีวิตกลับผกผันให้มากลายเป็นครูตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น กระทั่งปี พ.ศ.2499 ก็ได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นครูรับจ้าง เพื่อก่อตั้งโรงเรียนของตัวเองแม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์ด้านการทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงเรียนเอกชนเลยก็ตาม
อ.พิบูลย์ บอกว่าเขาเริ่มลงทุนไป 20,000 บาทร่วมกับเพื่อนๆ ครูด้วยกันเพื่อเริ่มสร้างโรงเรียน โดยเช่าที่ของผู้ปกครองของอดีตลูกศิษย์ย่านถนนสาธุประดิษฐ์ ก่อตั้งโรงเรียน จึงได้ก่อตั้งโรงเรียนสารสาสน์พิทยาขึ้นมาเป็นแห่งแรก ในปี พ.ศ.2507 ขึ้นมา ซึ่งถือเป็นโรงเรียนแห่งแรกของโรงเรียนในเครือสารสาสน์ทั้งหมด
โรงเรียนสารสาสน์พิทยา นอกจากจะเป็นโรงเรียนแห่งแรกของโรงเรียนในเครือสารสาสน์ทั้งหมดแล้ว ยังถือเป็นโรงเรียนแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้ทำการทดลองจัดการเรียนการสอนแบบสองภาษา (Bilingual Programme) โดย อ.พิบูลย์ ได้ร่วมกับผู้ปกครองของนักเรียนซึ่งเป็นหญิงชาวอเมริกัน ถือเป็นผู้ที่ได้ทดลองจัดการสอนขึ้นมา ทำให้ถือได้ว่าเขาเป็นคนแรกๆ ที่ริเริ่มทำการเรียนแบบสองภาษาขึ้น
โดยบอกว่าก่อนหน้านี้ตั้งใจว่าจะเปิดเป็นโรงเรียนนานาชาติแต่ว่าไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ จึงทำได้แค่เป็นโรงเรียนสองภาษาฯ แต่กลับปรากฏว่าได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ปกครอง จึงทำโรงเรียนสารสาสน์พิทยาประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็ว ในช่วงครบรอบ 30 ปีของโรงเรียนนาย ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเสกและเปิดอาคารเรียน St.Joseph ของโรงเรียนด้วย
ต่อมาโรงเรียนในเครือสารสาสน์ ขยายสาขาได้มากถึง 45 แห่ง มีทั้งแผนกสามัญ แผนกสองภาษา แผนกสองภาษาอาเซียน แผนกการจัดการเรียนการสอนแบบนานาชาติ อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นปฐมวัยถึงอุดมศึกษา จากข้อมูลในปี พ.ศ.2562 มีนักเรียนในเครือสารสาสน์ทั้งหมด 91,500 คน แต่ปัจจุบันระบุว่าเหลือเพียง 42 แห่งทั่วประเทศ
อ.พิบูลย์ ยงค์กมล ระบุว่า ในการบริหารโรงเรียนที่มีสาขาจำนวนมากนั้น จะใช้หลัก F2Q ในการบริหารจัดการธุรกิจโรงเรียนทั้งหมด นั่นคือ หลักการบริหาร ทำตามนโยบายเดียวกัน เพราะสิ่งที่กลัวคือคุณภาพ ถ้าไม่มีคุณภาพ เด็กนักเรียนก็จะลดลง เราต้องมีคุณภาพ โดยจุดเด่นและอัตลักษณ์ของสารสาสน์ หลักๆ เลยก็คือ F2Q โดย F คือ Fraternity คือ ความเป็นพี่น้อง เอื้ออาทรกัน มีความรักต่อกัน ส่วน Q ตัวแรกคือ Quality หมายถึงคุณภาพ และ Q ตัวที่สอง คือ Quantity ได้แก่ปริมาณ
“หลักการก็คือว่า ถ้าเรามีคุณภาพ ไม่มีปริมาณ ก็ไปไม่ได้ หรือมีปริมาณ แต่ไม่มีคุณภาพ ก็ไปไม่รอด ก็เหมือนกับอาหาร ถ้ามีปริมาณเยอะ แต่ไม่มีคุณภาพ ก็ใช่ว่าจะดีต่อสุขภาพ ดังนั้น เราต้องมีควบคู่กันทั้งหมด ไม่อย่างนั้น เราอยู่ไม่ได้”
“นอกจากนี้ผมยังมีแนวคิดว่าอยากให้สารสาสน์เป็น ‘หนึ่งโรงเรียน หนึ่งรีสอร์ต’ โรงเรียนเราต้องมีต้นไม้ร่มรื่น อย่ามีอะไรผุพัง ต้องสะอาด สวยงาม น่าอยู่ ปลอดภัย แต่ไม่ใช่ว่าโรงเรียนสวยงาม แต่วิชาการไม่เอาไหนเลย เด็กความประพฤติไม่ดีเลย อะไรแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้ ต้องดีพร้อมหมดทุกอย่าง ยิ่งเราเป็นสถานอบรมคน เราก็ต้องเป็นตัวอย่าง เป็นแม่แบบ เราต้องดีทั้งวิชาการ และดีทั้งความประพฤติ”
และนี่คืออีกหนึ่งบุคคลที่สังคมกำลังให้ความสนใจมากที่สุดคนหนึ่งในขณะนี้
ขอบคุณที่มากจาก mgronline.com
