เมื่อดูความพินาศทางเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19 แล้วทำให้หลายคนตาสว่างว่าเงินออมสำคัญมาก แต่ปัจจุบันจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทำให้เราเข้าถึงสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น รวมถึงเข้าถึงแหล่งให้กู้ยืมเงินมากขึ้นทำให้คนเป็นหนี้ง่ายขึ้นด้วย ผิดกับรายได้ที่ไม่ได้ปรับสูงขึ้นตามค่าครองชีพเลย ทำให้เดี๋ยวนี้คนมีปัญหาการออมเพิ่มขึ้นทุกวันๆ
ก่อนหน้านี้นักวางแผนการเงินจะตั้งเงินฉุกเฉินสำรองไว้ที่ 3-6 เดือน เอาไว้หายใจเมื่อเราตกงานหรือขาดรายได้ แต่ตอนนี้มีโอกาสตกงานนานกว่านั้นจากวิกฤตโควิด-19 ดังนั้นควรมีสำรอง 12 เดือนของรายจ่ายประจำจะอุ่นใจกว่า หากไม่จัดสรรรายรับให้ดี มีหวังไม่มีเงินเก็บแน่ๆ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต จะมาแนะนำการจัดสรรงบการเงินกัน
อย่าติดกับดักของคนส่วนใหญ่ว่า เพราะมีหนี้จึงทำให้ไม่มีเงินออม เป็นความคิดที่ผิด เราสามารถออมเงินไปพร้อมๆ กับการใช้หนี้ได้ โดยจัดสัดส่วนดังนี้
- ออมเงิน 20%
- มีภาระผ่อนหนี้ไม่เกิน 40%
- ที่เหลือ 40% เป็นค่าใช้จ่าย
การเพิ่มอัตราส่วนหนี้เกินกำลัง ทำให้เมื่อเกิดปัญหาขึ้น เราก็ต้องหาทางกู้ใหม่มากินใช้เพิ่มอีกอยู่ดี สุดท้ายก็มีหนี้ผุดขึ้นมาอีกหลายเจ้า
ตัวอย่างเช่น
แต๋ว เงินเดือน 20,000 มีภาระผ่อนบ้านและมีหนี้บัตรเครดิตรวมกัน 12,000 บาท ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่อีก 3,000 บาท เหลือใช้จ่ายจริงๆ 5,000 บาท ดังนั้นแต๋วมีหนี้สิน 60% ของรายได้ เกินมาตรฐานไปมาก และไม่มีเงินออมอีกด้วย
ล่าสุดแต๋วรถชนเสียหายหลายหมื่น ต้องยืมเพื่อน โดยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท ทำให้มีหนี้รายเดือนรวม 15,000 บาท และไม่มีเงินสำรองอะไรเลย ไม่พอกินใช้ทำให้ต้องติดหนี้บัตรเครดิตเพิ่ม หนี้จึงไม่หมดเสียที
สัดส่วนการเงินที่ดีของแต๋ว คือ ออมเงิน 4,000 บาท (20%) + ใช้หนี้ 8,000 บาท (40%) + ค่าใช้จ่าย 8,000 บาท (40%) หากย้อนอดีตกลับไป แล้วทำแบบนี้นานๆ เข้า แม้รถชน หรือตกงาน แต๋วก็ยังมีเงินสำรองอยู่
วีรพล บดีรัฐ ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาการให้คำปรึกษาลูกค้าธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า
“ผมแนะนำเป็นกลางๆ คือ ควรออมเงินให้ได้ 20% และมีภาระหนี้ผ่อนชำระ 40% ต่อเดือน ที่เหลืออีก 40% เป็นค่าใช้จ่ายรายวัน เพราะฉะนั้นถ้าใครจัดสรรเงินออมและหนี้ผ่อนชำระได้แล้วมีเงินเหลือใช้จ่ายอีก 40% ต่อเดือน ชีวิตก็จะมีโอกาสหรือมีทางเลือกมากกว่าคนอื่นๆ
ซึ่งทางเลือกที่ว่า คือ ทางเลือกที่จะนำเงินไปลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนงอกเงยแทนที่จะเก็บเงินไปจนเกษียณ หรือทางเลือกที่จะช่วยเหลือคนรอบตัว และทางเลือกที่จะทำงานหรือประกอบธุรกิจ เพราะทางเลือกนี้เกิดจากวินัยการออม”
สำหรับผู้ที่มีภาระหนี้สินน้อยถือว่าโชคดี และให้เพิ่มเปอร์เซ็นต์การออมเงินเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้ไวขึ้น หรือสร้างความมั่งคั่งเพิ่มเติมด้วยการลงทุนรูปแบบอื่น เพื่อให้เงินงอกเงย