FOMO ปัญหาของ GEN Z หรือปัญหาของสังคมไทย

0
16
kinyupen

ปัญหาประเทศไทยในขณะนี้คงหลีกไม่พ้น “หนี้” ที่บรรดากูรูเศรษฐศาสตร์ ผู้บริหารธนาคาร หรือหน่วยงานรัฐต่างเร่งแก้ปัญหาไม่ว่าจะออกโครงการคุณสู้เราช่วย  ลดต้น ลดดอก หรือล่าสุดจัดตั้งหน่วยงาน AMC เพื่อให้คนเป็นหนี้ได้มีโอกาสที่จะลุกขึ้นมาและสามารถกู้ได้อีกเพื่อต่อลมหายใจ

ในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังช่วยแก้ปัญหาหนี้สะสมของคนในประเทศ  อีกส่วนหนึ่งก็เริ่มกังวลสาเหตุของมูลหนี้โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ GEN Z ที่วิเคราะห์กันว่าเป็นกลุ่มที่เสพติดพฤติกรรม FOMO ของมันต้องมี โดยปัญหานี้รากเหง้าน่าจะมาจากสังคม Social ที่ มีดีต้องโชว์ ของดีต้องอวด รวมถึงค่านิยมของ Influencer ดาราที่ตนเองชื่นชอบ ที่มักจะแสดงถึงรสนิยมวิไล ทั้งเครื่องประดับ เสื้อผ้าแฟชั่นที่มีแต่แบรนด์เนมหรู โดยบางที คนเสพก็ลืมไปว่าดาราหรือ influencer ก็คือผู้รับจ้างจากแบรนด์เนมให้เป็นไม้แขวนเสื้อ ทั้งปวงนี้ จึงก่อให้เกิดค่านิยมให้ความสำคัญกับสิ่งปรุงแต่งภายนอก ที่จะแสดงถึงสถานะทางสังคม ความต้องการเป็นที่ยอมรับ

สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ ทำอะไรก็ได้เพื่อให้ได้มา  โดยการได้มาของยุคนี้ มีทั้งแบบพึ่งพึงผู้อื่น และพึ่งลำแข้งตัวเอง ในส่วนของผู้อื่นถ้าครอบครัวพอจะมี ก็พ่อแม่ พี่น้อง หรือแฟน แต่ถ้าไม่มีทางอ้อมก็คือการล่าหาเหยื่อ ที่เรามักจะเห็นจากข่าว บ่อยสุดก็ “หลอกให้รัก” ส่วนพึ่งลำแข้งตัวเอง มีทั้งแบบ 18+ กับแบบหางานพิเศษทำ หรือใช้สิทธิพิเศษประเภทถูกล่อซื้อ อย่าง Buy Now Pay Later  ซื้อก่อนผ่อนจ่ายทีหลัง ว่ากันว่าประการหลังนี้กลุ่ม GEN Z ของไทยที่อายุระหว่าง 15-27 ปี ใช้บริการเกือบ 30%  แต่ถ้าเป็นทั่วโลกคาดว่าจะมีสัดส่วนที่ เกือบ 50%  และมีสัดส่วนที่สนใจจะใช้บริการประเภทนี้ 82%

สาเหตุที่บริการ Buy Now Pay Later  ได้รับความนิยมเพราะพฤติกรรม FOMO ผนวกกับเป็นช่องทางให้คนรุ่นใหม่ที่ไม่มีบัตรเครดิตสามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยประเภทสินค้าที่นิยม จะเป็นจำพวกแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ

วันนี้ที่นักเศรษฐศาสตร์ นักคิดกำลังกังวลกับอนาคตของชาติที่มีค่านิยมสร้างหนี้จากการกลัวตกเทรนด์ หรือติดสร้างภาพในสังคม หากถ้าย้อนลึกลงไปจะเห็นได้ว่า FOMO คือค่านิยมของสังคมไทยที่ติดตัวกันมาเนิ่นนาน โดยเฉพาะสังคมชุมชน  ระดับง่ายสุดยุคพ่อแม่ ตา ยาย เวลาไปงานจะต้องหยิบทอง เครื่องประดับออกมาใส่ ด้วยเหตุผลไม่ให้คนดูถูก

สังคมต่างจังหวัดที่เรามักเห็นจากสัมภาษณ์ influencer จะบอกเล่าถึงการเปรียบเทียบ ลูกเรียนที่ไหน เรียนจบจากไหน ทำงานอะไร เงินเดือนเท่าไร  สามี หรือภรรยาทำงานอะไร และถ้าให้ดีหากได้ลูกเขยฝรั่ง นั่นหมายถึงทางช้างเผือกที่จะนำไปสู่ฐานะ และบ้านที่จะแตกต่างจากเพื่อนบ้านในชุมชน

หากจะว่าไปพฤติกรรม FOMO  นี้จะไม่เป็นอะไรเลย เหมือนที่คนยุคเก่าเป็นคือ กลัวเสียหน้า แต่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน รับผิดชอบตนเองได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในยุคที่ผ่านมาจนถึง GEN Z ในปัจจุบันคือ เอา FOMO ไปผูกกับ Buy Now Pay Later  เพราะถ้าหากเราเข้าไปดูคำถามที่เข้ามาในช่องทาง Social คือ โดยเฉพาะ pantip คือคำถาม ว่า ค้างจ่ายเท่าไรจึงจะโดนหมายศาล หรือ ถ้าไม่จ่ายเบี้ยวไปเลยจะ XXX หรือไม่  ประเด็นนี้คือสิ่งที่ น่ากลัว สาเหตุจาก FOMO โดยเฉพาะกลุ่ม GEN Z  ที่วันนี้ไม่นิยมเป็นลูกจ้างประจำ ชื่นชอบชีวิตอิสระ แต่กลับไม่อิสระทางด้านการเงิน ถ้าจะให้ดี เราควรเป็นกลุ่ม JOMO (Joy Of Missing Out) มากกว่า FOMO จะดีกว่าไหม ?

หมายเหตุ  คำจำกัดความ FOMO หรืออาการกลัวที่จะพลาด (Fear of Missing Out) ใน Gen Z คือความวิตกกังวลที่เกิดจากการเปรียบเทียบชีวิตของตนเองกับผู้อื่นผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นเพื่อนๆหรือคนดังไปทำกิจกรรมที่น่าสนใจ, ซื้อสินค้าหรือเทรนด์ใหม่ๆ ซึ่งมักจะทำให้รู้สึกว่าตนเองตกกระแส ไม่น่าสนใจ หรือพลาดประสบการณ์ที่มีคุณค่า  สาเหตุที่ FOMO แพร่หลายใน Gen Z    มาจาก 4 ปัจจัย 1.   เติบโตมากับยุคดิจิทัล 2. การเปรียบเทียบทางสังคม 3. ผลกระทบจากโซเชียลมีเดีย และ 4. ความกลัวตกเทรนด์

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here