นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2566 จะได้รับวงเงิน ดังนี้
วันที่ 1 มิถุนายน 2566 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
– วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
**สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 เมษายน – 26 พฤษภาคม 2566 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 มิถุนายน 2566
จะได้รับการทบสิทธิวงเงินซื้อสินค้า 2 เดือน (ของเดือนเมษายนและพฤษภาคม) จำนวนเงิน 600 บาท
– วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2566)
– วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL)
วันที่ 20 มิถุนายน 2566 (โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)
– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
(สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นผู้พิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน โดยจะต้องทำการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ภายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2566)
สำหรับเดือนพฤษภาคม 2566 กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1- 31 พฤษภาคม 2566 ดังนี้
1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงิน (บัตรประจำตัวประชาชน) จำนวนเงิน 4,289.54 ล้านบาท
2. สวัสดิการที่ให้ผ่านระบบพร้อมเพย์ (บัตรประจำตัวประชาชน) จำนวนเงิน 259.86 ล้านบาท
3. สวัสดิการที่จ่ายตรงผู้ให้บริการ รวมจำนวนเงิน 115.03 ล้านบาท
4. สวัสดิการที่ให้ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมจำนวนเงิน 83.46 ล้านบาท
รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,747.88 ล้านบาท
ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ