ใกล้ยุบสภา ใกล้ได้ลงคะแนนเลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบกันแล้ว!!
ช่วงนี้เป็นโอกาสดีของประชาชนคนเดินถนน ที่จะได้ยิน ได้ฟัง ได้รับไหว้บรรดานักการเมืองกัน
สนใจนโยบายไหน มีปัญหาอะไร แจ้งนักการเมืองประจำเขตพื้นที่ได้เลย รับรอง.. ได้รับความใส่ใจสูงมาก
อย่างเรื่องที่เป็นประเด็นที่น่าติดตาม สำหรับคนรุ่นใหม่ เจนวาย ที่ใกล้จะเป็นผู้ใหญ่อยู่รอมร่อ
วัยรุ่น วัยระเริง สายเฮฮาปาร์ตี้ ตื่นตาตื่นใจกับชีวิตสนุก สนใจใคร่ทดลองอบายมุข ของมึนเมามอมเมา ก็อาจจะให้ความสำคัญกับนโยบายเฉพาะทาง
เช่น เรื่องกัญชา สุราเสรี และที่ต้องติดตาม คือ บุหรี่ไฟฟ้า
ในทางกฎหมาย ทั้ง 3 อย่างเหมือนลูกผีลูกคน เช่น กัญชาถูกผลักดันให้ถูกกฎหมายแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ กล่าวคือกัญชาถูกปลดออกจากการเป็นยาเสพติด ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 แต่กลับไร้กฎหมายควบคุมการใช้ให้ถูกต้องโดยร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ยังถกกันไม่เสร็จ ยังค้างเติ่งอยู่ในสภา
เรื่องสุราเสรี พูดกันมานาน พยายามเรียกร้องกันหลายยก เคยได้รับการพิจารณาเปิดเสรีสุราพื้นบ้าน สมัยทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีสุราพื้นบ้านหลายแบรนด์เกิดขึ้น เป็นที่รู้จัก เช่น สุรายี่ห้อหมาดำ ต้นกำเนิดอยู่เชียงใหม่ไวน์ชาละวัน ถิ่นฐานเดาได้ไม่ยาก คือ พิจิตร
แต่ปัญหาคือ นักธุรกิจรุ่นใหม่ มีการเรียกร้องให้เปิดเสรีอย่างจริงจัง เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่สนใจเข้ามาพัฒนาสร้างตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในรูปแบบสินค้าที่มีเอกลักษณ์ แสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรมของประเทศ เหมือนอย่างที่ญี่ปุ่นมีสาเก รัสเซียมีวอดก้า และสก็อตวิสกี้ คือ เอกลักษณ์เฉพาะ เรียกขานได้เฉพาะเหล้าที่ผลิตจากสก็อตแลนด์
ในห้วง 5 ปีที่ผ่านมา มีคราฟท์เบียร์ยี่ห้อใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง นักดื่มรุ่นใหม่เปลี่ยนจากวิสกี้หนัก ๆ มาเป็นเหล้าพรีเมี่ยม มาตรฐานสูงอย่างซิงเกิ้ล มอลต์ ขณะที่เหล้าผลไม้ จับกลุ่มผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นเหล้าบ๊วย โซจู เป็นที่นิยมมากขึ้น ตลาดนี้เติบโตสูง เช่นเดียวกับคราฟท์เบียร์
แต่คนไทยก็ไม่ได้รับการสนับสนุน ส่งเสริมให้เข้าไปมีส่วนร่วมในตลาดนี้ เพียงเพราะกฎหมายไทยไม่เอื้อให้เกิดการผลิต ปรากฏข่าวมีคนโดนจับข้อหาทำเหล้าบ๊วยจำหน่าย เป็นต้น
หรือเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า ที่เห็นสูบกันเกลื่อน ซื้อหากันง่าย มีวางขายแบกะดินในตลาดนัดเสียด้วยซ้ำ แต่กลับมีข่าวครึกโครม นักท่องเที่ยวถูกจับข้อหามีบุหรี่ไฟฟ้าในครอบครอง
นั่นหมายความว่า จนถึงวันนี้ ทั้งสุราเสรี และบุหรี่ไฟฟ้า ไม่มีกฎหมายรองรับ ยังเป็น “ของผิดกฎหมาย” นั่นเอง
ลองมาฟังท่าทีของพรรคการเมืองหลัก ๆ ที่คาดหมายว่า จะมีโอกาสในการเป็นรัฐบาล หรือร่วมรัฐบาล ว่า เอาหรือไม่เอา สินค้าทั้ง 3 ประเภทนี้
พรรคที่มาแรง ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ยิ่งมีข่าวหนาหูว่า อาจจะได้รับเลือกตั้งแบบถล่มทลาย (Landslide) ถึง 200-250 ที่นั่ง โดยนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย และ อยู่ในโผรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 5
หมอเลี้ยบ กล่าวบนเวทีประชันนโยบาย “ย้ำจุดยืน ชูจุดขาย ประกาศจุดแข็ง” ที่จัดขึ้นที่โรงแรมพูลแมน รางน้ำ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 ว่า เรื่องกัญชานั้น จะสนับสนุนเฉพาะกัญชาทางการแพทย์ และต้องมีกฎหมายควบคุม
เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า หมอเลี้ยบย้ำชัดว่า มีบทวิจัยยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายสูงกว่าบุหรี่ธรรมดา ดังนั้น จำเป็นต้องควบคุมให้ดี ส่วนสุราเสรีนั้น พรรคเพื่อไทยจะแบ่งชัดเจน ระหว่างสุราพื้นบ้าน กับสุราเสรี โดยมีการออกกฎหมายสนับสนุนให้มีการสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
ส่วนพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเชื่อว่า แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง ที่จะเป็นพรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล
พรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้าของนโยบายกัญชาเสรี ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจ ก็ประกาศชัดเจนว่าหลังการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น หากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หรือพรรคร่วมรัฐบาล จะเดินหน้าผลักดันกัญชาต่อไป เพื่อให้กัญชาเสรีทางการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ
ส่วนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า นายอนุทินก็ประกาศชัดเจนเช่นกันว่า ไม่สนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ขณะที่เรื่องสุราเสรียังแบ่งรับแบ่งสู้ คือ จะใช้วิธีจำกัด และควบคุมให้ถูกต้อง
สรุป ก็คือ กัญชา กับสุรา มีแววว่า น่าจะได้เห็นการเปิดเสรี
แต่สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า เซย์ No กันเลย
ดังนั้น ใครที่ใช้บริการอยู่ ก็มี 2 ทางออก คือ
ระวังให้มาก ต้องแอบ ๆ ใช้ในที่ลับตาคน เก็บให้พ้นจากสายตาตำรวจ ไม่งั้น อาจซวย
หรือถ้าทำได้ หันกลับไปสูบบุหรี่ธรรมดา ชีวิตจะได้ไม่ยุ่งยาก
