จากการระบาดของไวรัสโควิด 19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน การเดินทางท่องเที่ยวตามแผนต่างๆที่วางไว้ถูกยกเลิกไปหมด แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของนักท่องเที่ยวตัวยงที่คิดหาวิธีการอย่างสร้างสรรค์เพื่อฉลองวันพักผ่อนที่หายไป อย่าง Mr. Pollak และ Ms. Palenzuela ที่ใช้เวลากว่า 5 เดือนในการท่องเที่ยวจากนครนิวยอร์กถึงปาตาโกเนียว ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรสบัสเดินทางในประเทศชิลี ภาพยอดเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ หรือแม้กระทั่งขณะที่หลงทางอยู่ในป่า ภาพเหล่านี้ได้ถูกแชร์ผ่าน Instagram โดยเขาทั้งคู่จัดฉากและตกแต่งทริปการเดินทางด้วยโปรแกรม Photoshop
Ms. Palenzuela กล่าวว่า “พระเจ้าต้องหัวเราะกับแผนคุณอย่างแน่นอน” ด้วยวิธีนี้ทำให้เราสามารถมองหาความสุขได้ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไรก็ตาม การมองดูแผนการเดินทางในแต่ละวันช่วยให้เราตระหนักถึงการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ และเราสามารถที่จะทำมันได้ทั้งปี
ยิ่งไปกว่านั้น Laura Dannen Redman ผู้อำนวยการด้าน Digital Content ของ Afar บริษัทสื่อการท่องเที่ยวกล่าวว่า “เราเดินทางเพื่อหลีกหนี เพื่อผ่อนคลาย แต่ยังรู้สึกตื่นเต้นในการทำสิ่งใหม่ทั้งหมด ทำไมคุณถึงไม่ลองคิดว่ามันเป็นวันหยุดพักผ่อน ถ้ามันจะทำให้เรายิ้ม หัวเราะและรู้สึกถึงบางสิ่งที่ดีสักนาที ฉันมักจะวางแผนกิจกรรมทุกๆวัน ในวันหยุดพักผ่อนตลอด ถึงแม้ไม่ได้หมายถึงการหยุดพักผ่อนจริงๆ” โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาโพสต์หนึ่งของ Laura Dannen Redman ได้ติดแฮชแท็ก #TravelAtHomeChallenge โดยเธอสวมชุดสีขาวพร้อมเข็มขัดสีแดง พร้อมกับลูกสาววัย 2 ขวบ กำลังถูกไล่ล่าจากวัวกระทิงในสเปน
https://www.instagram.com/p/B-ZtSAjA95n/
หรืออย่างที่ประเทศออสเตรเลีย มีคู่รักคู่หนึ่งสวมเสื้อคลุม ถือแก้วไวน์และดูภาพของมหาสมุทรจากช่อง YouTube บนจอทีวี ปรากฏเป็น Viral ออกมาอย่างแพร่หลาย เมื่อลูกสาวของพวกเขาทวีตข้อความว่า “ล่องเรือถูกยกเลิกเหรอ? ไม่มีปัญหา”
Cruise cancelled? ?No problem ? #Covid_19 #coronavirus #CoronavirusPandemic #CoronaOutbreak #coronavirusaus #covid19australia #royalcaribbean #cruiseships #cruise pic.twitter.com/3JHMsanDHv
— Jayne (@jaynetrill) March 13, 2020
โดยสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับทุกคน การใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคนต้องการหาความสุขและทำในสิ่งที่อยากทำ ท่องเที่ยวสถานที่ที่อยากไป แม้จะเป็นเพียงแค่ความฝันก็ตาม
ขอบคุณที่มาจาก The New York Times