กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต ขอรวบรวม คำทำนายพระสุบิน (ความฝัน) ของพระเจ้าปเสนทิโกศล จำนวน 16 ข้อ ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า เหตุการณ์เหล่านั้นจะเกิดขึ้น ในยุคสมัยที่ศาสนาได้เสื่อมลง ซึ่งหลายอย่างได้เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน เนื้อความดังกล่าวปรากฏใน อรรถกถาพระไตรปิฎก มหาสุบินชาดก เอกนิบาตชาดก ขุททกนิกาย
พระพุทธองค์ก็ได้ทรงทำนายพระสุบินของพระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้ครองกรุงสาวัตถีไว้ว่า เหตุร้ายนั้นจะมีแน่นอน เพียงแต่มิใช่เกิดแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล หรือแว่นแคว้นของพระองค์ แต่จะเกิดแก่สัตว์โลกทั่วๆ ไป และแก่พระศาสนาของพระพุทธองค์ในภายภาคหน้า เมื่อล่วงเลยพุทธกาลไปแล้ว 2500 ปี เมื่อศาสนาในพระโคตมพุทธเจ้าหรือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเสื่อมลง (เชื่อกันว่าอายุพระพุทธศาสนาของพระสมณโคดม ยืนยาวเพียง 5,000 ปี ยุคต่อมาคือ ยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย์ พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปเสด็จมาโปรดสัตว์)
หมายเหตุ พระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาของศาสนาพุทธองค์ปัจจุบัน คือ พระโคตมพุทธเจ้า มีพระนามเดิมในภาษาบาลีว่า สิทธัตถะ โคตรมะ
ตามชาตกัฏฐกถา หรือ คัมภีร์ที่รวบรวมคำอธิบายความในพระไตรปิฎก (ซึ่งประกอบด้วยคาถา หรือร้อยแก้วอันเป็นต้นเรื่องของชาดก) อธิบายว่า พระพุทธเจ้าได้ประทานคำทำนายพระสุบิน 16 เรื่อง แต่ละเรื่องพระองค์ได้ประทานคำทำนายถึงยุคเสื่อมซึ่งจะเกิดในอนาคต เอาไว้ดังนี้
- โคผู้สีดอกอัญชัน 4 ตัววิ่งมาจากทิศทั้ง 4 ทำทีเหมือนจะชนกัน แต่สุดท้ายไม่ชน กลับถอยห่างกันไป
ทำนายว่า ภายหน้าจะเกิดทุพภิกขภัย หรือ สภาวะของการขาดแคลนอาหาร ผู้คนขาดโภชนาการ อดอยากและรวมไปถึงโรคระบาดจะตามมา ถึงแม้ฝนจะตั้งเค้า เมฆครึ้มก็กลับหาย เหมือนโคที่ตั้งท่าแต่แล้วกลับไม่ชนกัน
- ต้นกล้าหรือต้นไผ่โตเพียงคืบ ก็ออกดอกผล
ทำนายว่า มนุษย์ในภายหน้า แม้จะอายุน้อยก็จะมีราคะ คิดสมสู่แต่เด็ก เด็กหญิงจะมีระดูตั้งแต่ยังเยาว์ ตั้งครรภ์เร็วเหมือนต้นกล้าที่ยังไม่ทันโตก็ออกดอกผลแล้ว
- แม่โคดื่มนมลูกโคแรกเกิด
ทำนายว่า เมื่อถึงยุคเสื่อม ภายหน้าเด็กจะไม่เคารพเลี้ยงดูผู้ใหญ่ คนชราหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ จึงต้องอ้อนวอนขอให้ลูกหลานเลี้ยงดู เหมือนแม่โคที่ดื่มนมจากลูกโคนั่นเอง
- คนไม่เอาโคใหญ่เทียมแอก ไปเทียมแอกกับโครุ่น โครุ่นสะบัดแอกออกเสีย ทำให้เกวียนไปไม่ได้
พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า ภายหน้าผู้มีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม ตั้งยศตำแหน่งแก่คนหนุ่มเยาว์ ที่ไม่มีประสบการณ์ แทนที่จะมอบหน้าที่ความรับผิดชอบให้ผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ เมื่อคนขาดประสบการณ์ จึงไม่สามารถทำกิจต่างๆ ให้สำเร็จได้
- ม้ามี 2 ปาก ผู้คนเอาหญ้าให้กินทั้งสองปากนั้น
ทำนายว่า ภายหน้าผู้มีอำนาจจะโง่เขลา แต่งตั้งคนโลเล ไม่มีศีลธรรมเป็นผู้พิพากษา คนพวกนี้จะรับสินบนทั้ง 2 ฝ่าย และตัดสินความตามใจชอบ เหมือนม้า 2 หัวที่กินหญ้าทั้ง 2 ปาก
- ผู้คนนำถาดทองคำไปให้หมาจิ้งจอกปัสสาวะรด
ทำนายว่า ผู้คนชั้นสูงที่มีชาติตระกูล นามสกุลใหญ่โตจะสิ้นวาสนา หมดอำนาจ ผู้มีอำนาจกลับตั้งยศตำแหน่งแก่คนสกุลต่ำ บรรดาคนมีชาติตระกูลจึงต้องยกบุตรสาวให้แต่งงานคนไม่มีสกุลเพื่อรักษาผลประโยชน์ เหมือนถาดทองที่ยกให้สุนัข
- ชายคนหนึ่งฟั่นเชือกอยู่ แล้วหย่อนปลายเชือกไว้ใต้เตียง โดยไม่รู้ว่าสุนัขตัวหนึ่งแอบกินปลายเชือกนั้น
(ฟั่น คือ การพันเชือกให้เป็นเกลียว)
ทำนายว่า ในอนาคตเมื่อถึงยุคเสื่อม ภรรยาจะขี้เมา มักแต่งตัวออกเที่ยวเตร่ ผลาญทรัพย์สมบัติที่สามีหามาได้ไปกับชายชู้
- ผู้คนพากันเทน้ำใส่ตุ่มที่เต็มแล้ว จนน้ำไหลนองออกก็ยังเทน้ำใส่อีก แต่ไม่มีใครเทใส่ตุ่มเปล่าที่ตั้งอยู่รอบ ๆ
ทำนายว่า ภายหน้าเมื่อศาสนาเสื่อม พระราชาทั้งหลายจะตกยาก จึงเกณฑ์ประชาชนให้ปลูกพืชส่งเป็นส่วยเข้าพระคลัง หรือ ผู้มีอำนาจต่างเบียดเบียนขูดรีดภาษี ประชาชนก็ก้มหน้าก้มตาหารายได้ นำไปจ่ายให้กับผู้มีอำนาจให้รวยยิ่งขึ้นไป
- สระน้ำแห่งหนึ่งมีฝูงสัตว์ลงไปดื่มกิน น้ำกลางสระขุ่นมัว แต่ขอบสระน้ำที่สัตว์ดื่มกินกลับไม่ขุ่น
ทำนายว่า ในอนาคตที่ผู้มีอำนาจ ไร้เมตตา ขาดศีลธรรม จ้องเบียดเบียนประชาชนให้เดือดร้อน ทำให้ประชาชนต่างย้ายไปอยู่ชนบทชายแดนเหมือนดังขอบสระบัวที่น้ำใส เมืองหลวงว่างเปล่าเหมือนกลางสระที่ขุ่นมัว
- หุงข้าวหม้อหนึ่ง แต่ข้าวสุกไม่ทั่ว มีทั้งข้าวสุก ข้าวแฉะ ข้าวดิบ
ทำนายว่า เมื่ออนาคตผู้คนไม่อยู่ในศีลธรรม ภายหน้าฝนจะไม่ตกต้องตามฤดูกาล ตกไม่ทั่วถึง เพาะปลูกพืชไร่ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างตามแต่พื้นที่
- คนเอาแก่นจันทน์ราคาแพง ไปแลกกับเปรียงเน่า (เถาวัลย์เน่า)
พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า ภายหน้าอลัชชี หรือ นักบวชที่ไม่มีความละอายจะมีมาก ไม่เพียรสอนตรงตามพระธรรมของพระพุทธเจ้า เพราะเห็นแก่ลาภสักการะ ประชาชนก็ไม่ใส่ใจพระธรรมแท้ หลงชื่นชมวาทศิลป์ และมอบสักการะต่างๆ ให้พวกอลัชชี
- น้ำเต้าแห้งจมน้ำ
ทรงทำนายว่า ภายหน้าถ้อยคำของคนไม่มีสกุลและพระทุศีล (คนที่ไม่มีศีล ไม่ถือศีล หรือไม่คำนึงถึงศีลธรรมใดๆ) จะเป็นที่เชื่อถือยอมรับในสังคม เหมือนกับน้ำเต้าที่ปกติมีน้ำหนักเบา ที่ผู้คนให้ความสำคัญกลับมีน้ำหนักจนจมน้ำ
- แท่งศิลาใหญ่ลอยน้ำได้ดุจเรือ
พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า ภายหน้าถ้อยคำของปัญญาชนและพระมีศีล ที่ควรได้รับความเชื่อถือ กลับไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม เหมือนดั่งหินศิลาที่หนักและหนาแต่ลอยน้ำ ดูเบาคล้ายเรือ
- เขียดตัวเล็กๆ ไล่กัดกินงูเห่าตัวใหญ่
ทำนายว่า ภายภาคหน้าภรรยาเด็กๆ จะครอบครองทรัพย์สินทั้งหมดของสามี สามีถูกดุด่าราวกับคนรับใช้ เหมือนเขียดตัวเล็กที่กลับกินงูเห่าได้
- หงษ์ทองกลายเป็นบริวารแวดล้อมกา
ทำนายว่า ภายหน้าผู้มีอำนาจจะไม่เฉลียวฉลาด คอยอุปถัมภ์คนไม่มีสกุล ผู้มีสกุล หรือชนชั้นสูงต่างพากันไปรับใช้คนไม่มีสกุลเหล่านั้น เพื่อให้อยู่รอด
- ฝูงแกะไล่กัดกินเสือ พวกเสือกลัวแกะ ต่างพากันหนีเข้าไปซ่อนตัวในพุ่มไม้
ทำนายว่า ในยุคที่ศาสนาเสื่อมลง คนไม่มีสกุลและพระทุศีลขึ้นมามีอำนาจ คอยกดขี่ขูดรีดเอาทรัพย์สินจากคนมีสกุลและพระมีศีล เหมือนกับเสือที่ต้องซ่อนตัวจากพวกแกะ
ทั้งนี้เมื่อมองไปยังเหตุการณ์ในอดีต ที่ผ่านมาก็เคยมีเหตุการณ์ที่กล่าวได้ว่าเป็นกลียุคอยู่หลายครั้งด้วยกัน โดยตามสถิติแล้ว โลกเราจะพบการแพร่ระบาดของไวรัสประมาณ 5 ครั้งในรอบ 100 ปี และมี 1 ครั้งในรอบ 100 ปี ที่เป็นเหตุการณ์ระบาดครั้งใหญ่ในรอบประวัติศาสตร์ เช่นในปี พ.ศ.2461 (ค.ศ.1981) นั้นมีคนทั่วโลกประมาณ 60 – 80 ล้านคนที่ต้องเสียชีวิตด้วยไข้หวัดสเปน 1918 ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ กินระยะเวลาประมาณ 3 เดือน (ที่มา : https://siamrath.co.th/n/139828)
เชื่อหรือไม่?
มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเหตุการณ์โรคระบาดล้างโลกอันน่าพิศวง นั่นคือ “เมื่อใดก็ตามที่คริสตศักราชลงท้ายด้วยเลข 20 หรือพุทธศักราชลงท้ายด้วยเลข 63 มักเกิดโรคระบาดใหญ่ 1 ครั้ง
พ.ศ.2263 (1720) -กาฬโรค
คร่าชีวิตคนทั่วโลก ฝรั่งเศสหนักสุดโดนหนักเสียชีวิตเป็นแสนคน
พ.ศ.2363 (1820) – อหิวาระบาด
หรือ โรคห่าในไทย ที่มีผู้เสียชีวิตมากจนเผาศพไม่ทัน ต้นกำเนิดของคำว่า แร้งวัดสระเกษ
พ.ศ.2463 (1920) -ไข้หวัดสเปนระบาดทั่วโลก
โรคระบาดที่คร่าชีวิตคนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ยอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 100 ล้านคน หรือ คิดเป็น 5%ของประชากรโลก
พ.ศ.2563 (2020) ไวรัสโควิด-19 ระบาด
วิกฤตครั้งใหม่ของโลก ที่ยังไม่มีแนวโน้มยุติ
“บทความนี้เป็น ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความ”